เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวนกว่า 100,000 ชิ้น โดยพบว่ามีการลงทะเบียนด้วยข้อมูลของคนต่างด้าว และข้อมูลเท็จ ซึ่งอาจมีการนำไปใช้ในการกระทำผิดว่า เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ดีเอสไอได้เชิญผู้แทนจากสำนักงาน กสทช. และผู้แทนผู้ให้บริหารโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายใหญ่มาหารือถึงหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและทางเทคนิคในการลงทะเบียนซิมการ์ด และแนวทางแก้ไขปัญหาการนำซิมการ์ดไปใช้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการใช้อินเทอร์เน็ตในการกระทำความผิดด้วยการโทรศัพท์แบบ VoIP หรือการโทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่ออำพรางตัวตนที่แท้จริง

รวมถึงการนำหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไปผูกกับบัญชีเงินฝากที่เปิดกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อใช้ในการรับโอนเงินจากการหลอกลวง และการทำธุรกรรมผ่านระบบ i-Banking ซึ่งผู้แทนเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าย Dtac และ TrueMove มาร่วมประชุม ส่วนค่าย AIS ไม่ส่งผู้แทนมา โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสองค่ายพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในด้านเทคนิคและเครื่องมือพิเศษเพื่อร่วมตรวจสอบซิมการ์ดที่ใช้เป็นหลักฐานในคดี รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่สนับสนุนการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นปัญหาต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ผู้แทนสำนักงาน ปปง. และผู้แทนสำนักงาน กสทช. เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือเชื่อมโยงกับบัญชี รวมทั้งได้มอบหมายให้สำนักงานสหวิทยาการคดีพิเศษ ประสานกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพต่อไป