เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “บีปิ๊กคนข่าวกาญจน์” โพสต์ เรื่องราวของ วัดเขาสามสิบหาบ พื้นที่ หมู่ 4 ต.เขาสามสิบหาบ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบรอยพระพุทธบาทบนเขา คาดว่ามีอายุกว่า 130 ปี สมัยรัชกาลที่ 5 จึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบพระมหาทิวา ฐานิสสโร เจ้าอาวาสวัดเขาสามสิบหาบ เล่าให้ฟังว่า รอยพระพุทธบาทมีชาวบ้านไปเจอกันมานานแล้ว เวลาไปหาหน่อไม้บนเขา ซึ่งรอยพระพุทธบาทนี้จะอยู่ประมาณช่วงกลางเขา เดินขึ้นไปต้องใช้เวลาประมาณไม่ถึง 10 นาที เพราะเป็นเขาที่ไม่สูงมาก

พระมหาทิวา เล่าอีกว่า ส่วนรอยพระพุทธบาท นั้นมีลักษณะเป็นฐานปูนสูงขึ้นมาจากพื้นราว 90 ซม. หน้ากว้างคูณยาวของรอยพระพุทธบาทก็ราว 20-40 ซม. แผ่นของรอยพระพุทธบาททำด้วยทองเหลือง แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกที่ไม่มีชาวบ้านคนไหนให้ความสนใจเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นป่ารกมาก กระทั่งเมื่อวันที่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นวันพระพอดี อาตมาตื่นมาทำวัตรตามปกติ สวดมนต์ เจริญภาวนาและนั่งสมาธิ พอนั่งสมาธิได้สักพักจิตก็รู้สึกว่าอยากขึ้นไปบนเขา อยากขึ้นไปบริเวณจุดที่ชาวบ้านบอกว่าเจอเหมือนรอยพระพุทธบาท พอออกจากสมาธิ แต่เพียงลำพังอาตมาคนเดียวคงไม่สามารถขึ้นไปได้เพราะบางช่วงก็มีความชันและรกมาก จึงรีบชวนชาวบ้านอีก 3 คนขึ้นไปด้วยกัน เพื่อช่วยกันถางทำทางขึ้น

พระมหาทิวา กล่าวว่า พอขึ้นไปถึงตรงรอยพระพุทธบาทแล้ว อาตมาเองรู้สึกขนลุกตลอดเวลา ตอนนั้นจึงรีบช่วยกันเก็บกวาดให้โล่ง ปัดเก็บเศษใบไม้ที่ปกคลุมรอยพระพุทธบาทออก จนเห็นความงดงาม น่าเลื่อมใส ศรัทธาของรอยพระพุทธบาท จึงได้ก้มลงกราบแล้วสวดมนต์บทต่างๆหลังจากสวดเสร็จก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า อยากทำให้สถานที่นี้ รอยพระพุทธบาทนี้ เป็นที่สักการะแด่สาธุชนคนทั่วไปได้ขึ้นมากราบไหว้ บูชา หลังจากนั้นจึงกล่าวขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล้วงเข้าไปตรงรอยแตกของรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นช่องโหว่เห็นชิ้นรอยพระพุทธบาทที่แตกหลุดลงไปและมีใบไม้ลงไปอุดอยู่มากมาย จึงหยิบขึ้นมาทำให้พบว่าด้านในมีเหรียญพระต่างๆ มีทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม ซึ่งเป็นลักษณะเหมือนพระสมเด็จ รวม 12 เหรียญ ในตอนนั้นก็คิดว่าทำไมชาวบ้านมากมายขึ้นมาเก็บหน่อไม้ต้องเดินผ่านจุดนี้กันตลอดทำไมถึงไม่ส่องดู หลังเก็บเหรียญแล้วนำลงมาให้ชาวบ้านดูว่าเป็นพระอะไร ซึ่งชาวบ้านดูแล้วก็ไม่ทราบว่าพระอะไร แต่สังเกตด้วยตามีภาพเก่าแก่มาก เป็นเนื้อชินเงิน จึงนำมาเก็บไว้เพื่อให้ประชาชนได้มาดูต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วัดเขาสามสิบหาบ นี้คาดว่าจะสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยทางเจ้าอาวาส นำหลักฐานคล้ายโฉนดที่ดิน มีการเซ็นมอบที่ดินแห่งนี้ให้ปลูกสร้างวัด โดยเป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านทรงเซ็นมอบที่ดินผืนนี้เอง โดยในโฉนดนั้นระบุวันที่พระราชทานให้ คือวันที่ 30 พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ศก 111 พระพุทธ สาสนกาล 2435 พรรษา เป็นวันที่ 8,786 ในรัชกาลปัตยุบัน ซึ่งโฉนดใบดังกล่าวได้เก็บรักษาไว้ในอุโบสถเก่าของวัด

คาดว่าอุโบสถนี้ก็จะมีอายุ 129 ปี และจะครบ 130 ปีในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยทางวัดจะจัดงานครบรอบ 130 ปี วัดเขาสามสิบหาบ ซึ่งโบสถ์เก่าแห่งนี้ก็ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามากราบไหว้ สักการะขอพรได้ โดยด้านในอุโบสถนี้จะมีพระประธาน สมเด็จพระพุทธติงสบารมีสัมมาสัมพุทธเจ้า (หลวงพ่อบารมี 30 ทัศน์) ที่คาดว่าสร้างมาพร้อมกับอุโบสถ และยังมีพระรัตนมีฉัตร พระพุทธเสฏฐีรตนติงสบารมี ซึ่งคาดว่าอายุน่าจะเก่าแก่กว่า 130 ปี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ เลื่อมใสเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามทางชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ เข้ามาตรวจสอบให้แน่ชัดอีกที