กรณี 3 คนร้าย อุกอาจบุกปล้นร้านทองกรุงเทพ 4 ใน ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก มีผู้เสียชีวิต เป็นลูกค้าร้านทองถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ก่อนกวาดทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 182 บาท หลบหนีไปได้ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

3คนร้ายอาวุธครบมือบุกปล้นร้านทอง อ.พบพระ กวาดทองเกลี้ยง-ยิงลูกค้าดับ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อติดตามคดีด้วยตัวเอง โดยจุดแรกลงพื้นที่ร้านทองจุดเกิดเหตุ จากนั้นไปยังจุดที่เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ของกลางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ในพื้นที่หมู่ 9 บ้านผากะเจ้อ ต.พบพระ และยังเดินทางไปยังจุดพบรถกระบะ อีกคันถูกทิ้งไว้ บริเวณฝาย ท้ายหมู่บ้าน บ้านยะพอ หมู่ 5 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ซึ่งจุดตรงนี้อยู่ติดลำห้วยวาเล่ย์ ใกล้แนวชายแดนกับประเทศเพื่อบ้าน โดยลักษณะลำห้วย ไม่กว้างมากนัก สามารถเดินลุยน้ำข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสนัขทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังค้นหาเก็บหลักฐาน เพิ่มเติม หลังพบรถยนต์ของกลาง 2 คัน รองเท้าคนร้ายใช้ก่อเหตุ 1 คู่ และหลักฐานอื่นๆ อาทิ รองเท้าบู๊ต 1 คู่ กับอีก 1 ข้าง เสื้อ 1 ตัว และกางเกง 1 ตัว ที่คาดว่าเป็นของคนร้ายตกอยู่ในลำห้วย บริเวณฝาย จุดทิ้งรถกระบะ โดยมีข้อมูลว่าคนร้าย ประมาณ 2 คน อาจหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะมีการสำรวจเส้นทาง วางแผนกันมาก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะหลบหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นอื่น สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจสอบวงจรปิดติดตามเส้นทางคนร้าย และให้เร่งตรวจสอบหลักฐานรถของกลาง ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนร้าย อาจจะมากกว่า 3 คน เนื่องจากมีรถมารับมาส่ง อีกจุด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานออกหมายจับคดีนี้ให้ชัดเจนก่อน โดยล่าสุดยังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย แต่หากกรณีมีการหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ มีแนวทางในการประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านช่วยเหลือติดตามจับกุมต่อไป