เมื่อวันที่ 24 มี.ค. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พร้อม พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ฤทธิไกร เหมทานนท์ พ.ต.ท.สุวิชา รอดรู้ สว.กก.สส.2 นำกำลังจับกุมนายสอาด หรือบังแอ อุดมศิลป์ ชาว จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามศาลจังหวัดปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ 122/2558 ลงวันที่ 15 พ.ค.58 ในความผิด ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จับได้ที่ร้านขายน้ำชาสวรรค์ ซอยประดิษฐ์สโมสร ถนนเทพารักษ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากประมาณเดือน ม.ค.58 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมขบวนการลักลอบขนชาวโรฮีนจา ได้ในพื้นที่ อ.หัวไทร โดยครั้งนั้นสามารถจับกุมช่วยเหลือชาวโรฮีนจาได้  97 คน ต่อมาสืบสวนขยายผล จนออกหมายจับ ผู้ต้องหา 59 คน และจับกุมไปแล้วบางส่วน ซึ่งคงเหลือผู้ต้องหาซึ่งยังหลบหนีอยู่ 14 คน โดยหนึ่งในนั้นคือนายสอาด ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าจัดหาแรงงาน (โรฮีนจา) ในฝั่งประเทศมาเลเซีย กระทั่งต่อมาชุดสืบสวนได้ทราบว่านายสอาด ได้มากบดานที่บริเวณดังกล่าว จึงทำการจับกุมดังกล่าว

สอบสวนเบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่รับว่ามีบัญชีโอนเงินเกี่ยวพัน ซึ่งสอดรับกับแนวทางสืบสวนว่ามีเงินเข้าออกบัญชีผู้ต้องหารายนี้จำนวนมาก โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้ชุดสืบสวนทราบว่าจะมีนายหน้า หาคนงานชาวโรฮีนจา ให้กับนายทุนชาวมาเลเซีย ตามที่รับการสั่งมา แล้วมอบหมายให้เครือข่ายชาวเมียนมา ล่อลวงชาวโรฮีนจา จากประเทศบังกลาเทศ เมืองยะไข่ ประเทศเมียนมา ให้ไปทำงาน เมื่อรวบรวมชาวโรฮีนจาได้ตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็มีการจัดการนำเรือไปรับและบรรทุกชาวโรฮีนจา จากประเทศเมียนมา เดินทางไปลงเรือเล็กที่ชายฝั่ง แล้วพาไปขึ้นเรือใหญ่ที่ลอยลำอยู่กลางทะเล ซึ่งเมื่อชาวโรฮีนจาขึ้นไปอยู่บนเรือลำใหญ่แล้ว จะถูกบังคับไม่ให้ไปไหน และทำร้ายร่างกาย ขู่เข็ญ หากขัดขืนก็จะถูกทำร้ายหนักขึ้น

เมื่อเดินทางมาถึงไทย ทีมขนส่งจะนำเรือเล็กไปรับจากเรือลำใหญ่ไปส่งที่เกาะเพื่อทำการควบคุม กักขัง เพื่อรอเวลาในการเดินทางตามสั่งการ จากนั้นเมื่อมีการสั่งการ จะมีการบรรทุกขนส่งพาชาวโรฮีนจาจากพื้นที่ข้างต้น เดินทางไปไว้ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อควบคุม กักขังชาวโรฮีนจา ก่อนนำไปขายต่อให้กับนายทุนชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด โดยจะได้ค่าจ้างรายละ 5 หมื่นบาท 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี จ.สงขลา ที่ 185/2558 ลงวันที่ 7 ก.ย.58 ในความผิดสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ฯ ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่  เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.หัวไทร ดำเนินคดี.