สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่าสถานิติบัญญัติแห่งชาติของเยอรมนีมีมติเสียงข้างมาก 378 เสียง คัดค้านการออกกฎหมาย บังคับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ซึ่งรัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. นี้ ส่วนเสียงสนับสนุนอยู่ที่ 296 เสียง จากจำนวนผู้เข้าร่วมการประชุม 683 คน


มติดังกล่าวของสภา ถือได้ว่า เป็นความปราชัยทางการเมืองครั้งสำคัญ สำหรับรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ซึ่งถึงขั้นเรียกตัวนางอันนาเลนา แบร์บ็อก รมว.การต่างประเทศเยอรมนี ให้เดินทางกลับเป็นการด่วน จากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ แล้วกลับมาร่วมออกเสียงในสภา

นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ สนทนากับนางอันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี


ขณะเดียวกัน การลงมติของสภาในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว หลังผู้นำเยอรมนียอมถอนร่างกฎหมาย ที่เป็นการเตรียมบังคับให้บุคคลมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ


ด้ายโชลซ์กล่าวถึงผลการลงมติว่า “น่าผิดหวัง” แต่ยืนยันว่า ไม่มีแผนผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่การลงมติของสภาอีก ขณะที่บรรดาผู้สันทัดกรณีทางการเมืองภายในของเยอรมนีมองไปในทางเดียวกัน ว่าความพยายามที่ล้มเหลวอย่างน้อย 2 ครั้งของรัฐบาล ยิ่งตอกย้ำการขาดความเป็นเอกภาพ ภายในรัฐบาลผสมชุดนี้ ที่ประกอบด้วย 3 พรรคการเมือง และยังคงมีจุดยืนแตกต่างกันในหลายเรื่อง.

เครดิตภาพ : REUTERS