ยังคงถูกสนใจอยู่อย่างมากมายสำหรับเจ้าของเทวดาเพลง ครูชลธี ธารทอง ที่ล่าสุดควงภรรยาตัวจริง ครูปุ้ม ศศิวิมล มาเปิดใจครั้งแรกหลังฝ่ามรสุมชีวิตถูกเด็กหลอกเอาทรัพย์สินไปนับ 10 ล้าน พร้อมเคลียร์ประเด็นร้อนฟ้องขับไล่ภรรยา อีกทั้งยังตอบทำไมถึงกลับมาสู่อ้อมอกภรรยาตัวจริงอีกครั้ง ผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

ครูปุ้ม เผยว่า “4 ปีที่แล้วมีหลายๆ เหตุการณ์เกิดขึ้น มีทั้งฟ้องหย่า ฟ้องมือที่สาม มีการฟ้องลูกศิษย์คนโปรดของครูชลธี 4 ปีพี่ไม่ได้คุยกับครูชลธีเลย เพราะโทรศัพท์ครูชลถูกบล็อกหมดเลยทั้งลูก และพี่ปุ้มเอง ไม่เคยได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันว่าครูเป็นยังไง มาเริ่มคุยกันวันแรก 15 มีนาคม 65 ค่ะ วินาทีเจอกันครั้งแรกทั้งดีใจ เสียใจ และตกใจ ปนๆ กันหลายๆ อารมณ์ ดีใจว่าครูกลับมาแล้วนะ เสียใจที่ทำไมครูเป็นถึงขนาดนี้ครูสภาพเป็นเหมือนที่ออกสื่อ ตกใจทำไมทรัพย์สินครูหมดไปขนาดนี้ สภาพครูแย่มาก ถ้าดูตามที่พี่ปุ้มลงในเฟซ ครูอ่วมไปเยอะ เดินไม่คล่อง ก็ถามว่าทำไมเดินไม่คล่อง เขาบอกเนื่องจากอยู่ที่นู้น ถูกปล่อยให้อยู่ที่แคบๆ โดยที่ไม่มีการดูแลกันเลย ร้องไห้แล้วก็กอดกัน เห็นสภาพแล้ว ครูก็น้ำตาคลอมา”

ตอนกลับมาครูชลพูดว่าพ่อกลับมาแล้ว พ่อขอโทษในสิ่งที่พ่อทำ รู้สึกผิดในสิ่งที่ท่านทำว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี บอกกับปุ้มว่าผมกลับมาแล้ว ผมเดินทางไปซะนาน 4-5 ปี มันทำให้ผมเสียความรู้สึก คนอื่นก็เป็นทุกข์มากผมกลายเป็นทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ก็เลยคิดว่าเราควรทำอะไรที่ดีกว่านี้ ชีวิตที่ผ่านมาที่ผมไปอยู่ต่างบ้านมารู้สึกว่ามันต่างกับบ้านที่ผมอยู่กับภรรยาผม ทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ จะกิน จะคิดอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาขีดเส้นใต้ผม แต่ว่าไปที่นู้นผมทำอะไรไม่ได้เลย คิดอะไรไม่ได้เลย พูดอะไรไม่ได้เลย แม้แต่โทรศัพท์อยู่ในมือก็โทรหาใครไม่ได้เลย เลยถามตัวเองว่านี่ฉันเป็นใครมาอยู่ภายใต้การกดดันอย่างนี้มันใช่เหรอ เราเป็นใคร เขาเป็นใคร หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจว่าควรจะกลับบ้าน ควรจะไปหาคนที่เข้าใจผมจริงๆ ที่รู้ใจผม และดูแลผมได้จริงๆ ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้เขาก็ยังดูแลผมดีอยู่ ผมกลับมาแทนที่จะโกรธผม เขากลับให้อภัย ให้กำลังใจ ซึ่งหาจากคนอื่นคงยาก เพราะผมทำเขาเจ็บมาก แล้วก็เป็นความรู้สึกที่แย่ ผมต้องขอโทษทุกอย่างที่ผ่านไป ต้องขอโทษจริงๆ ที่หลงผิดไป หลงทางไปไปลงนรกมา คราวนี้ขึ้นจากนรกแล้ว”

“ที่บอกว่าโดนหลอกหมดตัวเลยกลับมาหาปุ้มพี่ว่ามันก็มีส่วนนะ เพราะว่าตอนนี้สภาพของครูชลในเรื่องของทรัพย์สิน เรื่องของสุขภาพ ถามว่าถ้าคนไม่เอาใจใส่หรือว่ามีความรักจริง รับรองไม่มีใครเอาครูแน่ พี่ว่าเหตุผลนั้นสำคัญกว่า จากที่พี่ตรวจเช็กเงินในบัญชี จากเลข 7-8 หลัก หมดเลย บังเอิญช่วงที่กลับมา ช่วงที่คุณครูนอนอยู่โรงพยาบาล มีโอกาสได้หยิบโทรศัพท์ครูมาดูสลิปการโอน วันนึง 30,000, 50,000 ติดๆ กันเลย ในการโอนออกที่เยอะมาก แล้วก็ 20 บาทยังโอนเลย เยอะจริง 300 กว่าสลิป 4 ปี ที่ปรากฏอยู่ในมือถือของคุณครู ตอนกลับมาแรกๆ 2-3 วันที่ครูกลับมา แกก็ไปอ่านคอมเมนต์ที่แรงๆ แล้วบวกกันหลายๆ อย่าง ก็เลยบอกว่าอย่าพูดได้ไหม อย่าตอกย้ำได้ไหม เขาก็รับโทษ รับสิ่งที่เขาทำแล้วเหมือนอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งทุกวันนี้พี่ปุ้มเองไม่เคยทิ้งครูไปไหนเลย เป็นห่วงตรงจุดนี้ที่ครูคิดเยอะ คิดในเรื่องของทรัพย์สินที่สูญเสียไป คิดในเรื่องของการตำหนิของสังคมที่ค่อนข้างรุนแรงเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปอะไรเขาได้ ก็อยากจะบอกว่าอยากให้อยู่ในขอบเขตนิดนึง เพราะสภาพจิตใจครูแย่มาก”

ครูปุ้ม เล่าต่อว่า “ที่ให้อภัยเขาหลังจากนอกใจคือตั้งแต่เกิดปัญหาปี62 ทางสังคมโซเชียลต่างๆ  บอกว่าทำไมเขาหมดรักแล้ว ทำไมพี่ปุ้มไม่หย่าให้ครูชล แต่พี่ปุ้มบอกว่าพี่มีเหตุผล เพราะรู้อยู่ว่าเหตุการณ์อย่างวันที่15 มันจะเกิดขึ้น คิดอยู่ตลอด ไปดูสัมภาษณ์พี่ได้ ที่พี่ไม่หย่าเพราะพี่รักษาชีวิตครูชลนะ ถ้าพี่หย่าคิดไกลๆ 4 ปีต้องใช้ความอดทนอย่างมาก โดยที่มีลูกครูชล 2 คน ที่คอยเป็นกำลังใจ เพราะทุกคนจะรู้หมดว่าพี่ปุ้มเป็นยังไงก็ต้องอดทน แล้วอยากจะบอกผู้หญิงว่าบางครั้งปัญหาครอบครัว ความอดทน ความดี ความตั้งมั่นหลายๆอย่างมันจะช่วยเราได้เยอะ สุดท้ายถ้าพี่ตัดสินใจหย่า หรือศาลบอกให้หย่า ทุกอย่างครูจบ ครูจะไม่มีชีวิตมานั่งอยู่อย่างนี้หรอก พี่พูดได้เลย เพราะครูบอกว่าถ้าครูมาช้าอีก 1-2 วันเขาตาย คือครูมาวันที่ 15 วันที่ 19 ครูเข้าโรงพยาบาล แอดมิทเป็นแบบมากมาย มันอยู่ในวังวนมาก ทำไมเราอยู่จุดจุดนั้นได้ จุดที่คนจะฆ่าตัวตายเป็นอย่างนี้เองเหรอ แต่เราก็บอกตัวเองว่าเมื่อเราเป็นครูเราก็สอนเด็กนะ เรื่องนี้ เรื่องไม่ดีนะ เราก็พยายามหาทางออก สุดท้ายเราก็หาทางออกได้ วันที่ครูแถลงข่าวพี่ก็ไปโรงเรียน ท่าน ผอ.ถามว่าครูไหวไหม คือพี่อยู่โรงเรียนคือจำแหน่งผู้ช่วยท่าน ผอ. ทุกคนก็เพ่งมองที่เรา คือคู่เราเป็นคู่ที่สังคมและโรงเรียนคาดหวังเป็นอย่างมาก คือเป็นคู่รักที่อดีตพี่ปุ้มจะไปออกรายการเยอะมาก ไปวันแรกก็ก้มหน้า แล้วครูทุกท่านเข้ามากอด ลูกศิษย์เข้ามากอด ผู้ปกครองเข้ามากอด บอกครูสู้ๆ นะ ครูไม่ผิด เราถามตลอดว่าเราผิดอะไร เราบกพร่องอะไรที่ครูทิ้งเราไป

“วันที่เกิดเหตุการณ์ย้อนไปมันหลายๆ อย่าง เราแค้นหลายๆ เรื่อง อย่างลูกชายป่วย โทรไปหาพ่อ เพราะวันนั้นผ่าตัด น่าจะค่าใช้จ่ายเป็นแสน โทรหาเลขาไม่เคยบอกพ่อเลย พ่อไม่เคยรู้เรื่องเลย พี่ปุ้มต้องซัพพอร์ตน้อง ถ้าเราไม่ช่วยน้องก็ตาย ทุกคนพยายามบอกว่าสิ่งที่แกทำไม่ถูกต้อง แต่ไม่รู้อะไรบังตาแก ตอนนี้เหลือคดีฟ้องคือพี่ฟ้องมือที่3 สองครั้ง ครั้งที่1 ชนะ ครั้งที่สอง เมื่อ 4 เมษายน ก็ชนะอีก พี่เองก็ไม่ได้รับอะไร ทีนี้ถึงขั้นตอนการสืบทรัพย์”

ด้าน ครูชลธี เผยว่า “อย่างที่ผมบอกที่กลับมาเพราะผมกดดัน โดนปิดกั้นทุกอย่างหมดเลย โทษผมเองที่ผมเดินทางผิด ทั้งๆ ที่มันผิดก็ยังทำ อันนี้ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องโทษคนอื่น มันเป็นผลกรรมของผม ผมยอมรับตรงนี้ ก็ต้องขอโทษทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะไม่โทษใครทั้งนั้น โทษตัวผมเอง ผมพยายามทำตัวให้ดีที่สุด ตอนกลับมาเจอกระแสหนักๆคือเครียดเพราะตัดสินใจอะไรไม่ถูก สับสนไปตลอดชีวิต จะไปทางไหน เดินไปทางไหนดี เดินทางไหนก็ตันเดินทางไหนก็ปิด ทางไหนก็มืด ตัวของเรามีความสามารถอยู่เต็มตัวเราใช้ไม่ได้ มีสมองแต่งเพลง แต่วันนี้เราใช้สมองเราไม่ได้ เราทำยังไงดี คิดอยู่คนเดียวพูดให้ใครฟังไม่ได้ เคยระบายให้คนข้างๆ ฟังตอนที่อยู่นั้น เขาก็ไม่ยินดี ยินร้ายเขาจะบอกคิดมาก เพ้อเจ้อ เพราะความจริงที่ผมคิดมาก เพราะมันไม่ถูกต้องจริงๆ”

“ตลอดเวลาที่ไม่ได้อยู่กับครูปุ้ม หนักมาก หนักจริงๆ เชื่อไหมเขาเอาแฟนเราไป เขาไปตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเขาคู่กัน เขาไปไหนก็ไลฟ์สดด้วยกัน เฮฮาสนุกสนานในขณะที่เรานอนร้องไห้ ร้องจนไม่มีน้ำตา บางทีนั่งมองเพดานร้องไห้โฮออกมา เราไม่เคยร้องในชีวิต ยาคลายเครียดกินเยอะมาก กินจนเพื่อนๆ น้องๆ ที่มาดูแลบอกอย่ากิน อันตราย เขาบอกว่าถ้าพี่ไม่ลุกขึ้นมาสู้แล้วพี่จะเป็นยังไง ช่วงนั้นแย่มากๆ แล้วก็พอหลังจากครูไป 1 ปี ครูก็แถลงข่าวว่าจะหย่ากับพี่ เพื่อจะไปแต่งงานกับอีกคนนึง พี่ก็แบบมันมีอย่างนี้ด้วยเหรอ พี่ก็ถามตัวเองว่าพี่ผิดอะไร วันนั้นพี่ออกข่าวดังมาก ครูชลแถลงข่าว พี่ปุ้มนั่งหน้าบ้านตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม พี่ไม่ได้เข้าบ้านเลย นั่งแล้วมอง เราผิดอะไร”

 เขาน้อยใจผม ผมรู้ตั้งแต่ที่ผมออกจากบ้าน แต่ตอนนั้นผมเหมือนถูกผีสิง บังตาหมดเลย เลยไม่รับรู้ ไม่เห็นเรื่องทำให้ลูกเขาน้อยใจ ตอนหลังถึงได้รู้ ได้เจอเขาบ้าง เขาปิดกั้นผมไม่ให้เจอลูกเลย ความจริงผมรักลูกนะ ลูกผมจบปริญญาหมดเลย อยากจะบอกว่าลูกคือลูกของพ่อ พ่อรักลูกมาก ผมอายุเกือบร้อยแล้ว แปดสิบกว่า เดี๋ยวสักพักจะเซ็นพินัยกรรมมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูก ลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด ทองในธนาคาร แล้วอะไรก็แล้วแต่ให้ลูก ให้ปุ้มเขาดูแล”