เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ศาลาว่าการ กทม.ฯ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.ทถ.กทม.) ประชุมร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครครั้งที่ 2/2565 สรุปว่าที่ประชุม ประกาศ ไม่รับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมด 4 คน มีรายละเอียดดังนี้
(1) นายไกรเดช บุนนาค ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 19 เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 (3) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ” (ได้ยื่นจดแจ้งการพิมพ์หนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์และเป็นเจ้าของกิจการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา และบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ “ไฮไลท์ บันเทิง” โดยได้ยื่นจดแจ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2546)
(2) นายอดิเทพ จาวลาห์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.เขตดุสิต หมายเลข 10 ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 49 (3) มีชื่ออยู่ในทะเบียน บ้านในเขตกรุงเทพฯ เป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่า 1 ปี
(3) นายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท หมายเลข 7 เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 (3) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ” (ได้ยื่นจดแจ้งการพิมพ์หนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์และเป็นเจ้าของกิจการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา และบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ “ท่องธรรมชาติ” โดยได้ยื่นจดแจ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2537)
(4) น.ส.ณัฐวีณ์ เปาชัย ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางนา หมายเลข 7 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50 (20) เนื่องจากเป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งฯ (ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่) และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กทม.จะติดประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าญ กทม.และสมาชิกสภา กทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 1 เขตพระนคร และสำนักงานเขต 50 เขต หรือรายละเอียดทางเว็บไซต์ สำนักงานปกครองและทะเบียน http://office2.bangkok.go.th/ard/
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.การเลือกตงั้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 120 บัญญัติว่าผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะ ต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี.