นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาระบุว่าการที่นักกีฬารัสเซียและเบลารุส โดยแบนห้ามลงแข่งขันในรายการระดับนานาชาติต่าง ๆ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่กองทัพรัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ถือเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกด้านเชื้อชาติอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่นักกีฬาคนพิการจากแดนหมีขาว ถูกสั่งห้ามลงแข่งขันในศึกพาราลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ผู้นำรัสเซีย กล่าวในพิธีเลี้ยงฉลองให้กับนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาวทีมชาติรัสเซีย ที่พระราชวังเครมลิน ในกรุงมอสโก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “การสั่งห้ามนักกีฬารัสเซียและเบลารุสลงแข่งขัน ไม่เพียงเป็นการละเมิดโดยตรงต่อหลักการพื้นฐานของการแข่งขันกีฬา แต่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของนักกีฬา ยังถูกเหยียดหยามและแบ่งแยกอย่างที่สุดโดยเปิดเผยด้วย”

นอกจากนี้ ปูติน ยังวิจารณ์การที่สหพันธ์ว่ายน้ำนานาขาติ (ฟีนา) สั่งลงโทษแบน เยฟเกนี รีลอฟ ฉลามหนุ่มดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ชาวรัสเซียเป็นเวลา 9 เดือน โทษฐานเข้าร่วมงานชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียในการบุกโจมตียูเครน โดยระบุว่าโทษแบนดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ

ก่อนหน้านี้ ฟีนา สั่งแบนฉลามหนุ่มชาวรัสเซีย เจ้าของเหรียญทองกรรเชียง 100 และ 200 เมตรชายในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว จากการแข่งขันทุกรายการภายใต้การดูแลของสหพันธ์เป็นเวลา 9 เดือน หลัง รีลอฟ เป็นหนึ่งในนักกีฬาชื่อดังหลายคนของรัสเซียที่เข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งจัดขึ้นโดประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่สนามลุซนิกี สเตเดี้ยม ในกรุงมอสโก เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แถมยังสวมเสื้อผ้าที่มีตัวอักษร “Z” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนการทำสงครามกับยูเครนอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม ฉลามหนุ่มวัย 25 ปี วันนั้นเขาแค่ได้รับเชิญไปชมคอนเสิร์ตในงานดังกล่าวเท่านั้น โดยเผยกับ “ทาสส์” สำนักข่าวชื่อดังในแดนหมีขาวว่า “ผมสนับสนุนประเทศของผมเสมอ ผมบอกไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้เริ่มต้นเมื่อไหร่ แต่มันเป็นความรู้สึกในใจของผมมาตลอด วันนั้นผมแค่ได้รับเชิญให้เข้าไปชมคอนเสิร์ต ผมเข้าไปในงาน แล้วก็ออกมา มันก็เท่านั้น ผมสามารถทำในสิ่งที่ผมอยากทำได้ พวกเขาแค่ไม่ชอบมันเท่านั้น”

เครดิตภาพ : REUTERS