องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า “มีความเสี่ยงสูงมาก” ที่เชื้อไวรัสโอไมครอนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก โดย “บางพื้นที่” อาจได้รับรุนแรง จึงขอให้ทุกประเทศเตรียมรับมือ
องค์การการค้าโลก หรือ ดับเบิลยูทีโอ เลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรี ซึ่งเตรียมจัดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา “โอไมครอน”
นับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. นี้ ชาวต่างชาติจากทุกประเทศจะไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “โอไมครอน”
ประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้วิจารณ์ “ความไม่เป็นธรรมและมีแต่อคติ” ของมาตรการจำกัดการเดินทางที่ทั่วโลกกำลังใช้กันอยู่ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส “โอไมครอน” และขอให้ยุติโดยเร็ว
สิงคโปร์และมาเลเซียกลับมาเปิดหนึ่งในจุดผ่านแดนทางบกสายสำคัญ หลังปิดไปนานกว่า 1 ปี จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
องค์การอนามัยโลกกระตุ้นประเทศในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกัน “ตั้งการ์ดสูง” ต่อไป หลังมีการประกาศเรื่องเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ “โอไมครอน”
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยปักกิ่งระบุว่า จีนอาจมีผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 640,000 คนต่อวัน หากใช้มาตรการเปิดเมืองแบบเดียวกับโลกตะวันตก
เตือนชุดตรวจโควิด PCR ที่ทาง WHO ให้การรับรอง อาจใช้ตรวจไวรัสสายพันธุ์ “โอไมครอน” ไม่ได้ ชี้อาจทำให้เกิดผลลบปลอม หรือ อาจให้ผลบวกอ่อนลง
เพื่อยับยั้งโควิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลสั่งปิดประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์
รัฐบาลสหราชอาณาจักรยกระดับมาตรการควบคุมโรค ทั้งการตรวจเข้มผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และมาตรการทางสังคม หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “โอไมครอน”
