วันที่ 22 ก.พ. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 64–65 วงเงิน 7,660 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ในช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำแก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทั่วประเทศ 3.8 แสนราย โดยกำหนดราคาประกันของปาล์มทะลาย อัตราน้ำมัน 18% กิโลกรัมละ 4 บาท ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ โดยเป็นเกษตรกรขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรและปลูกต้นปาล์มอายุ 3 ปีขึ้นไปที่ให้ผลผลิตแล้ว เริ่มจ่ายตั้งแต่เดือน ก.ย. 64-ส.ค. 65

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 64 รัฐบาลไม่มีการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตลอดทั้งโครงการ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในการบริโภคและพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปาล์มทะลายมีราคาเฉลี่ยทั้งปี 64 อยู่ที่ประมาณ 6.9 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้ที่กำหนดไว้ 4 บาทต่อกิโลกรัม ตลอดทั้งปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังยังให้ความเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ควรตรวจสอบเกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการและการจ่ายชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอย่างเหมาะสมและถูกต้อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทั่วถึงและใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งในส่วนของกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรนำอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อให้เป็นปัจจุบันและถูกต้องยิ่งขึ้น

สำหรับภาระที่รัฐต้องรับชดเชย ณ วันที่ 4 ก.พ.65 มียอดคงค้าง 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 33.98% ของงบประมาณปี 65 ดังนั้นหากทำตามโครงการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มปี 64-65 จะทำให้รัฐต้องรับชดเชยเพิ่มขึ้นมียอดคงค้างเพิ่มเป็น 1.08 ล้านล้านบาท หรือ 34.46% ของงบปะมาณปี 65 ซึ่งยังไม่เกิน 35% ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนดไว้ และรัฐบาลควรตั้งงบคืนเงินต้นและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงให้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายในเวลากำหนด เพื่อไม่ให้กระทบต่อฐานะการเงินของ ธ.ก.ส.ในอนาคต