ถ้าเอ่ยชื่อของ “น้องพลอย” แพรพลอย แซ่เอี้ย แล้ว หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อนี้มากนัก แต่ถ้าบอกว่า “เพชรพลอย ม.กรุงเทพธนบุรี” สาวสวยคนที่ประเคนหมัดเท้าเข่าศอกใส่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่คิดผิดเอาน้ำไปราดหัวน้อง จนเป็นข่าวโด่งดัง ทั้งทางสื่อหลักและสื่อโซเชียลแล้ว ทุกคนจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน

“ดาวต่างมุม” ฉบับนี้ ได้รับเกียรติจากอดีตนักมวยไทยสาวคนเก่ง มาเปิดใจอีกแง่มุมที่เป็นตัวตนของเธอ รวมทั้งความคิด ความฝัน ตลอดจนไอเดียดี ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเธอ ซึ่งต้องบอกว่า “น้องพลอย” คนนี้ มีอะไรที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

หนึ่งในครอบครัวกีฬา

“ที่บ้านหนูเป็นครอบครัวกีฬาค่ะ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา เล่นกีฬาทุกชนิด โดยเฉพาะกีฬาวิ่ง ดังนั้นแม่ก็จะส่งหนูไปเรียนกีฬาภาคฤดูร้อนทุกปี เทควันโดบ้าง ว่ายน้ำบ้าง แต่หนูรู้สึกว่ามันยังไม่ตอบโจทย์ค่ะ”

แล้วกีฬาอะไรที่ตอบโจทย์

“ตอนอายุ 13 ปี ทางบ้านส่งเรียนมวยไทย สนามศุภชลาศัย ตอนนั้นยังไม่มีผู้หญิงมาเรียนมวยไทยเลย เราเองมีพื้นฐานทางกีฬา พอเข้าไปก็เห็นผู้ชายเตะต่อยได้ เขาต่อยกันจริง ๆ หนูมองว่าเราจะมีพาวเวอร์ต่อยแบบผู้ชายบ้าง เราจะขึ้นสังเวียนได้มัย หนูเล่นกีฬามาหลายอย่างแต่มันไม่ท้าทาย ยังไม่ถึงใจ พอมาได้เตะเป้ามวยไทย มันก็เลยตอบโจทย์และเราก็อยากต่อยมวยไทยจริง ๆ”

ไฟต์แรกก็หมดสภาพ

“หนูซ้อมเบสิกมา 3 เดือน ก็อยากขึ้นชก ไปบอกโค้ชหาคู่ชกให้หน่อย เขาก็บอกหนูว่ายังซ้อมไม่ถึงเลย แต่หนูมั่นใจว่าศักยภาพเราพร้อม เลยจับคู่กับฝรั่งให้ขึ้นชกที่ด้านหน้าเอ็มบีเค ก่อนชกหนูมั่นใจมาก ๆ แต่พอถึงหน้าเวที มันลืมไปหมด ใจเต้นรัว ๆ และทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หนูและทุกคนคิด เพราะหนูโดนน็อกยก 2 เรียกว่าหมดสภาพตั้งแต่ไฟต์แรกเลยค่ะ”

ผลตอบรับจากทางบ้าน

“หนูตาเขียว ขาเขียว ช้ำไปหมด แม่ถามว่าไปทำอะไรมา พอรู้เท่านั้นล่ะสั่งห้ามชกมวยอีกเลย แต่หนูก็ไม่เลิกขึ้นชกอีก คราวนี้ลุง ป้า น้า อา ที่ไปวิ่งมาเจอหนูขึ้นชกก็เลยมาบอกที่บ้าน พ่อแม่เลยสั่งห้ามเด็ดขาดทั้งซ้อมทั้งชกต้องเลิกทันที แต่หนูไม่ยอมนะ พอแพ้เราก็อยากซ้อมอยากชนะ ก็แอบไปอีก”

ฝึกฝนจนแข็งแกร่ง

“ใช่ค่ะ จากนั้นหนูก็ซ้อมหนักอย่างจริงจัง ไม่ได้มาเล่น ๆ ต่อยกับผู้ชายที่เป็นนักมวยไทยจริง ๆ แล้วกลับไปชกใหม่ ไม่ประมาท ไม่ประหม่า มีเทคนิคและพละกำลังดี ก็เลยชนะมา 10 ไฟต์รวด หนูชกมวยไทย 50 ไฟต์ ชนะ 40 ไฟต์ และก็แพ้ 10 ไฟต์ค่ะ”

ประทับใจไฟต์ไหนมากที่สุด

“น่าจะเป็นการแข่งขันมวยไทย ในกีฬามหาวิทยาลัยโลกค่ะ เพราะว่ามีสาวแกร่งจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย มาชก แต่รอบชิงชนะเลิศ หนูประมาทไปหน่อยเลยแพ้สาวรัสเซีย ได้เหรียญเงินกลับมา”

ตอนนี้ทำไร

“หนูเรียนจบ ป.ตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ม.กรุงเทพธนบุรี เป็นนักกีฬามวย หนูก็รับงานเป็นวิทยากรและเป็นเทรนเนอร์สอนวิชามวยไทยกับศิลปะป้องกันตัวค่ะ เรียกได้ว่าทำงานสายตรง พอมาช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกอย่างก็ปิดตัว มวยไทยชกไม่ได้ ฟิตเนสปิด ก็ต้องเปลี่ยนมาขายทางออนไลน์ รับสอนฟิตเนสส่วนตัว ซึ่งลูกค้าผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่ชื่นชอบมวยไทย เพราะว่าเล่นแล้วมันได้ทุกสัดส่วน เบิร์นไขมันได้ดีที่สุด และก็เป็นกระแสนิยมกันมากอีกด้วย”

ดราม่าประเคนอาวุธหนักใส่ผู้ชายในข่าว

“จริง ๆ พื้นฐานหนูไม่ใช่เป็นคนที่ไม่ยอมคนนะคะ แต่ไม่ชอบให้ผู้ชายมาคุกคาม ก็เลยต้องจัดหนักค่ะ และนี่ก็ไม่ใช่เคสแรก เมื่อก่อนหนูก็เคยเจอรุ่นพี่คุกคาม มาแกล้งเปิดกระโปรงอะไรบ้าง มันทำให้จิตใจเราไม่ดี หนูเชื่อว่าบางคนที่โดนไม่กล้าพูดอะไร และเคสนี้หนูก็คิดว่าเขาเล่นผิดคนค่ะ”

มองพวกคุกคาม/บูลลี่ยังไง

“สังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว ชายหญิงเท่าเทียมกันหมด พี่เห็นนักมวยหญิง MMA มั้ย ถ้าผู้ชายบางคนไปเล่นผิดคน จะเกิดอะไรขึ้น คุณไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นอะไรมา คุณไปทำอะไรที่ไม่น่ารัก ไม่โอเค มันก็ไม่คุ้ม ที่สำคัญเราก็มีศักดิ์ศรีกันทุกคน ฉะนั้นเลิกคุกคามผู้หญิงในทุก ๆ ด้านได้แล้วค่ะ”

อยากบอกอะไรถึงผู้หญิงที่ถูกคุกคาม

“เราไม่ควรที่จะเงียบ หนูเชื่อว่าผู้หญิงที่โดนกระทำ 70 เปอร์เซ็นต์ เลือกที่จะเงียบเพื่อให้เรื่องจบ ๆ ไป เพราะไม่อยากเสียชื่อเสียง กลัว อาย แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ เราต้องพูดไปเลยว่าเราโดนกระทำ อย่าปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวล เราไม่รู้ว่าจะไปกระทำกับใครอีก อยากบอกผู้หญิงทุกคนว่าถ้าเราอยู่จังหวะที่ไม่รู้จะบอกใครก็ให้ตะโกนดัง ๆ เลย ถ้ามีเวลาหรือโอกาส ก็ควรจะฝึกเทคนิคการป้องกันตัวไว้ อย่างมาเรียนมวยไทยก็ได้ อย่างน้อยก็ทำให้เราแข็งแรงและยังป้องกันตัวเองได้อีกด้วย”

ความฝันสมัยเด็ก ๆ

“หนูเป็นคนห้าว ๆ และไม่คิดว่าจะไปประกวดความสวยความงามกับใครได้ แต่ฝันที่หนูอยากจะทำก็คือหนูอยากเป็นสตั๊นต์แมน (สตั๊นต์เกิร์ล/Doble Actress) เพราะหนูเคยเห็นสตั๊นต์เกิร์ลจากเบื้องหลังการถ่ายทำคิวบู๊ มันเท่มาก ๆ เลยอยากลองทำบ้าง ยิ่งพอได้ไปดูหนังของพี่จีจ้าแล้วมันยิ่งชอบเข้าไปอีก ไม่คิดว่าพี่เขาจะเก่งและทำได้ดีมาก ๆ”

มีงานจากต่างประเทศมั้ย

“ตอนแรกหนูมีงานไปสอนมวยที่จีน แต่สัญญานานเป็นปี ก็เลยไม่รับปาก ตอนนี้โคกับพี่ที่เป็นนักธุรกิจด้านมวยไทยที่ภูเก็ต มีโปรเจคท์ดึงชาวต่างชาติเข้ามา ก็จะไปร่วมงานค่ะและยังมีหนังจากต่างชาติเข้ามาอีกค่ะ”

ห้าว ๆ ก๋ากั่น แล้วทำอาหารเป็นมั้ย

“หนูทำอาหารพอได้ อย่างผัดกะเพรา หรือโจ๊ก เพราะที่บ้านขายโจ๊ก คุณป้าเปิดร้านโจ๊กฮ่องกง ที่เยาวราช ชื่อร้านโจ๊กฮ่องกง สวนมะลิ ซอย 1 หนูก็เลยมีพื้นฐาน แต่หนูชอบอาหารแนวอีสาน ส้มตำ ลาบไก่ย่าง ชอบมาก ส่วนอาหารฝรั่ง ไม่ชอบเลยเพราะว่ามันจืด เราชอบรสจัดมากกว่า”

ดีใจที่สุด

 “ก็คงเป็นมวยไทยค่ะ หนูดีใจที่ได้เรียนมวยไทย เพราะนำมาต่อยอดชีวิตได้เยอะถึงเยอะที่สุด แล้วยังนำมาสอนคนอื่นได้อีก หนูก็หวังว่าการที่หนูเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จะนำมาประยุกต์กับมวยไทยแล้วสอนคนภายนอกได้ด้วยค่ะ”

เสียใจที่สุด

“ก็มาจากมวยไทยนี่ละค่ะ ก็ตอนที่แอบไปต่อยมวยไทยแล้วแพ้มาไฟต์แรก กลับบ้านมาเจอหนักเลย มาแบบเป็นชุดคอมโบ ชุดใหญ่ไฟกะพริบ หนูโดนไล่ออกจากบ้านเลย เก็บกระเป๋าแล้วค่ะ แต่ไม่กล้าไป แอบอยู่แถว ๆ นั้นล่ะค่ะ”

ไอดอลในดวงใจ

“หนูชอบพี่บัวขาว บัญชาเมฆ (ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ) ชอบสไตล์ที่พี่เขาแข็งแรง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ หนูเห็นในข่าวแค่เหงื่อของพี่บัวขาวแฟนคลับชาวญี่ปุ่นยังซื้อเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยค่ะ คือพี่เขาต้องขนาดไหนถึงมาได้ขนาดนี้ หนูว่าพี่เขาว้าวและเจ๋งมาก ๆ ค่ะ”

ฝันที่ยังทำไม่สำเร็จ

“เรื่องมวยไทย หนูคิดว่าสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่ที่หนูฝันและอยากทำให้ได้คือการเป็นสตั๊นต์เกิร์ลค่ะ ถ้ามีผู้ใหญ่ในวงการให้โอกาส หนูก็อยากลองดูสักครั้ง หนูเคยเจอพี่กุ๊ก สตั๊นต์แมนของพี่จา พนม ที่ภูเก็ต ตอนนั้นได้พูดคุยและได้ร่วมสตั๊นต์หน้างานด้วย พี่กุ๊กบอกว่าลองมาฝึกดูก็ได้”

“หนูเองอยากมีฟิตเนสและค่ายมวยไทย รวมทั้ง MMA ด้วยค่ะ อยากทำแบบวันสต็อปเซอร์วิส คนที่มาใช้บริการจะได้ออกกำลังกายและเรียนวิชาต่อสู้ไปในตัว อยากทำคอร์สที่แบบว่าจบในนั้นได้เลย มาเรียนแล้วได้ครบ เรียนแล้วใช้ได้จริง อยากให้ผู้หญิงเปลี่ยนความคิดว่าผู้หญิงก็แข็งแรงและสู้ผู้ชายได้เหมือนกัน”

สเปกแฟนหนุ่มเป็นยังไง

“หนูโสดอยู่ค่ะ คงไม่มีใครกล้าจีบ ส่วนสเปกชอบแบบสูง ขาว หน้าตี๋ ๆ แบบจีน ซึ่งหนูคิดว่าคงหายากค่ะ”

ฉายา “ขวาท่อนซุง” มายังไง

“หนูเป็นคนขาใหญ่ พอได้มาฝึกกับพี่สุขเกษม เกียรติชาญสิงห์ อดีตยอดมวย เขาก็จะแซวว่า “ขวาท่อนซุง” มาอีกละ แต่ก็เข้ากับฉายานี้นะคะเพราะขาขวาหนูหนักมาก ไม่เชื่อไปดูในคลิปสิ ใครโดนต้องเป็นสะดุ้งทุกคนแน่นอน เพราะว่าหนักพอ ๆ กับผู้ชายเลย”

ให้เลือกอยากชกกับใครที่สุด

“หนูอยากต่อยกับพี่บัวขาวค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองเอาแข้งขวาไปทาบพี่บัวขาวดู อยากให้พี่บัวขาวรู้ว่าแข้งขวาหนูหนักจริงมั้ย แต่ยกเข่าห้ามบังนะคะ”

สุดท้ายมีอะไรจะฝากบ้าง

“ตอนนี้โซเชียลออนไลน์จับต้องง่าย การที่เราคอมเมนต์ความเห็นอยากให้ระวัง อะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดเรื่องไม่ดี มันสะท้อนมาหาตัวเองมาจากสิ่งเหล่านี้ อยากให้น้อง ๆ หันไปเล่นกีฬา อยากส่งเสริมตรงนี้

ตอนนี้หนูมีโครงการนำมวยไทยไปสอนในโรงเรียนต่างจังหวัดกว่า 10 จังหวัด น้อง ๆ บางคนคิดว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่ใช้ความรุนแรง หนูเคยคุยกับหลายคน น้อง ๆ บอกว่าเรียนมวยไทยแล้วเจ็บเลยกลัว หนูบอกไปว่ามวยไทยไม่จำเป็นต้องปะทะ อยากให้ลองมาเรียนพื้นฐานและเทคนิคดูก่อน หนูเชื่อว่าถ้าเราปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ อาจจะเริ่มตั้งแต่ ม.1 นำวิชามวยไทย ซึ่งเป็นมรดกของชาติไทย เข้าไปเป็นวิชาพลศึกษาสอนในโรงเรียน เชื่อว่าจะสร้างประโยชน์อย่างมากให้กับคนที่เรียนได้อย่างแน่นอนค่ะ”

ติดตามผลงาน “น้องพลอย” ได้ที่ เฟซบุ๊ก : Pareploy Saeaia, IG : pareploy, Tiktok : pareploy

ขอบคุณสถานที่ : Artisan’ Factory Cafe & Restaurant

วอน อ่อนวงค์…เรื่อง / พีระพันธ์ แผนดี…ภาพ