ใกล้จะ 50 บาทอยู่รอมร่อแล้วจ้า!! สำหรับราคาน้ำมันเบนซินในประเทศไทย แถมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา…ยังทำเอาเจ้าของรถกุมขมับ เพราะเล่นปรับขึ้น 2 วันติดวันละ 80 สตางค์ จนล่าสุด…ราคาน้ำมันเบนซิน พุ่งไปที่ลิตรละ 49.26 บาท เข้าไปแล้ว

มาวันนี้…ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเพดานราคาน้ำมันดีเซล จะทยอยปรับขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท เป็น 33 บาท หรือเปล่า หลังจากวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลยอมฝืนใจปรับขึ้นเพดาน เป็นลิตรละ 32 บาท และเตรียมปรับขึ้นอีกสัปดาห์ละไม่เกิน 1 บาท


ต้องยอมรับว่ารัฐบาลได้ประกาศนโยบายตรึงราคาดีเซลที่ลิตรละ 30 บาท มานานกว่าทศวรรษ แล้วก็ไม่มีใครตอบได้ด้วยว่าทำไม? ต้อง 30 บาท แล้วมีผลอะไรต่อระบบบ้าง

อย่างที่รู้ ๆ กันว่า..เหตุใหญ่ใจความของราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้น ก็มาจากเรื่องราวของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลก และในอีกหลายปัจจัย

รวมถึง!! สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ย่ำแย่ จนไม่สามารถจะหาเงินทุนมาสำรองจ่ายหรือควักจ่ายเพื่อโอบอุ้ม อุ้มชูบรรดาผู้ใช้น้ำมันได้อีกต่อไป

บมจ.ไทยออยล์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบได้ปรับขึ้นต่อเล็กน้อย เพราะตลาดกังวลอุปทานน้ำมันตึงตัวต่อเนื่อง หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีมติคงแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ในเดือน มิ.ย.นี้ ที่วันละ 432,000 บาร์เรลต่อวัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเบนซิน ที่ปรับราคาขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ฝั่งเอเชียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังไทยประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19

การยกเลิก Test&Go ให้กับนักนักท่องเที่ยว ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ แถมยังได้แรงหนุนหลังสหรัฐประกาศสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงกว่า 2.2 ล้านบาร์เรล

ส่วนน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสหภาพยุโรปเตรียมแผนลดการนาเข้าน้ามันสำเร็จรูปจากรัสเซีย ภายในสิ้นปี 65

ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มขาดแคลน หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของไทยที่ปรับลดลงในเดือน มี.ค.65 เพื่อความเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ ส่งผลให้ตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดีเซลจะตรึงตัวต่อเนื่อง

ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ต้องจับตาดูว่า…รัฐจะปรับเพดานน้ำมันดีเซล ขึ้นมากน้อยอย่างไร? เพื่อบรรเทาภาระที่กองทุนน้ำมันต้องเข้าไปโอบอุ้ม ตามสูตร “คนละครึ่ง”

ที่สำคัญ!! เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อน้ำมันแพง ทุกอย่างก็แพง สินค้าพาเหรดปรับขึ้นราคากันทุกวัน ทุกประเภท เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น ที่ยอมกางแขนกางขาตรึงราคาไว้ก่อนในช่วงนี้ ก็คงอดทนต่อไม่ไหวแล้ว!!

เพราะถ้าสต๊อกสินค้าเก่าหมด ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามต้นทุนที่ปรับขึ้น ว่ากันว่า…คงได้เห็นกลางปีนี้แหละที่สารพัดสินค้าจะเฮโลขึ้นราคาตามต้นทุนใหม่ที่ปรับขึ้น และเชื่อได้แน่นอนว่าภาครัฐคงไม่สามารถต้านทานกันได้อีกต่อไป ต้องปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน

การจะกรีฑาทัพให้เจ้าของสินค้าตรึงราคาไว้ก่อน เหมือนทุกวันนี้ ก็อาจทำให้สินค้าหายไปจากตลาด ยิ่งเท่ากับว่าเป็นความเดือดร้อนหนักขึ้นไปอีก

ไม่เพียงเท่านี้ เรา ๆ ท่าน ๆ คงได้เห็นอัตราเงินเฟ้อของประเทศ พุ่งสูงปรี๊ดทำลายสถิติในรอบ 13 ปี อีกครั้ง หลังจากที่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ทะยานไปอยู่ที่ 105.15 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.34% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.65%

เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น… ก็หมายความว่าราคาสินค้าและบริการ นั้นแพงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างเดือน เม.ย.65 ราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น 4.65%

มาจนถึงขั้นนี้!! เชื่อได้ว่า คนไทยน่าจะทำใจได้กับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น แต่ที่อดรนทนไม่ได้เนี่ย…ก็น่าจะเป็นวิธีการสื่อสารของรัฐบาล ที่ไม่สามารถอธิบายความหรือสิ่งที่สังคมต้องการคำตอบ อย่างตรงไปตรงมา!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”