ส่วนใหญ่ก็จะได้กลับเข้าสู่การเรียนแบบปกติเกือบเต็มรูปแบบแล้ว หลังจากทางกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้โรงเรียนทุกแห่งกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ปกติ โดยในส่วนของพ่อแม่ผู้ปกครองซึ่งเคยวุ่น ๆ รูปแบบใหม่ ๆ กับการเรียนแบบเลี่ยงโควิดของลูกหลาน มาถึงเปิดเทอมปีนี้ก็คงกลับมาวุ่นรูปแบบเดิม ๆ

เสียงโอดผู้ใหญ่ช่วงเปิดเทอมดังเซ็งแซ่เหมือนเดิม

ขณะที่ “เสียงเด็ก ๆ กับเปิดเทอม” นี่ก็น่าลองฟัง

และในมุมนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็มีเสียงมาสะท้อน…

เริ่มจากเสียง น้องจ๋า นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน จ.นนทบุรี ที่ได้บอกเล่ากับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเรียนในโรงเรียนปกติอีกครั้ง ว่า… ตื่นเต้นมากกับเปิดเทอมครั้งนี้เริ่มจาก ตื่นเต้นที่จะได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่ จากชุดนักเรียน ม.ต้น ก็จะเป็นชุดนักเรียน ม.ปลาย ส่วนเรื่องที่สองคือ ตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนอีกครั้ง และอีกเรื่องคือ ตื่นเต้นที่จะได้ใช้ชีวิตนักเรียนแบบปกติ จากที่กิจกรรมชีวิตทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปหมดสิ้นเชิงเพราะมีโควิด-19 ระบาด

“นับวันรอเปิดเทอมเลย เพราะช่วงที่ต้องเรียนออนไลน์เหงามาก เพราะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ หรืออาจารย์เลย เพื่อน ๆ ก็บ่นกันทุกคน พอจะได้กลับเข้าโรงเรียนอีกครั้งจึงทำให้พวกเราดีใจมาก แต่ก็มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป เช่น จากเดิมแค่ต้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนของตัวเอง แต่เปิดเทอมใหม่คราวนี้เราต้องเตรียมผลตรวจ ATK ด้วย เพื่อใช้ส่งให้กับอาจารย์ ก่อนที่จะกลับเข้าห้องเรียน” …เป็นคำบอกเล่าของนักเรียนชั้น ม.4 คนนี้

“ตื่นเต้น” ที่เปิดเทอมคราวนี้จะได้ไปโรงเรียน…

แต่ในความตื่นเต้นก็ต้องมีการ “เตรียมตัวเพิ่ม”

ด้าน น้องโอ๊ค นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางเขน กรุงเทพฯ บอกกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ว่า… พอรู้ว่าจะได้กลับไปเรียนปกติก็รู้สึกดีใจมาก ที่จะได้นั่งเรียนในห้องเรียน ได้เจอเพื่อน ๆ อีกครั้ง ส่วนสิ่งที่ต้องปรับตัวใหม่รับเปิดเทอมปี 2565 หลังจากไม่ได้ไปโรงเรียนมานานมาก นอกจากการที่ยังต้องระวังโควิดแล้ว นักเรียนรายนี้บอกว่าก็มีตั้งแต่เวลาตื่นนอนใหม่ ต้องตื่นเช้าขึ้นเพื่อเผื่อเวลาเดินทาง และอีกเรื่องคือ ต้องปรับแก้ชุดนักเรียนตัวเดิม เพราะช่วงเรียนออนไลน์ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมเหมือนตอนไปโรงเรียน ทำให้น้ำหนักตัวขึ้น จนชุดเดิมที่เคยใส่นั้นคับแล้ว ซึ่งพ่อแม่ก็เอาไปปรับแก้มาให้แล้ว

“ผมอยู่ห้องเดิม เพื่อนกลุ่มเดิม ก็คงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก จะมีก็ชุดนักเรียนที่ต้องแก้หน่อย เพราะผมอ้วนขึ้น แต่ตอนนี้ก็พร้อมมากแล้วครับที่จะได้กลับไปเรียนแบบปกติอีกครั้ง”…นักเรียนชั้น ม.2 คนนี้บอกเล่า

ส่วน น้องฟาน นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก็ได้บอกเล่ากับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงความรู้สึกที่ได้กลับเข้าห้องเรียนแบบปกติอีกครั้งในช่วงเปิดเทอมปี 2565 หลังจากที่ต้องเรียนออนไลน์ภายใต้ยุคโควิด-19 ระบาดมานาน โดยระบุว่า… รู้สึกดีใจที่จะได้กลับไปเรียนในโรงเรียน เพราะช่วงที่เรียนผ่านระบบออนไลน์นั้นรู้สึกว่ายังขาด ๆ อยู่…

“ตั้งแต่สอบเข้า ม.1 ได้ ก็ได้ไปโรงเรียนแค่ไม่กี่ครั้งเอง จึงดีใจที่จะได้เจอเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน และอีกอย่าง การได้กลับมาเรียนแบบปกติก็น่าจะช่วยเติมเต็มความรู้ที่ขาดไปในช่วงที่ต้องเรียนออนไลน์ได้”

ทั้งนี้ นักเรียนชั้น ม.2 คนนี้ยังสะท้อนเพิ่มเติมว่า… เรื่องที่ทำให้รู้สึกเป็นกังวลมากที่สุด ไม่ใช่กังวลกลัวจะติดโควิด-19 แต่เป็นเรื่อง กลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อน และอีกเรื่องหนึ่งที่รู้สึกกังวลคือ กลัวครูจะอัดวิชาให้มากเกินไป เพื่อชดเชยหรือทดแทนที่ต้องเรียนออนไลน์มานานอย่างไรก็ตาม แม้จะกังวล แม้จะกลัว แต่ก็จะพยายามเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด และตั้งใจจะเรียนให้ดีที่สุด เพราะ สงสารพ่อแม่ที่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายการเรียน ยิ่งตอนนี้ข้าวของแพง ก็ยิ่งรู้สึกสงสารท่านมากขึ้น

“เราเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้ในเรื่องเงิน ก็เลยอยากจะตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เพื่อให้ผลการเรียนออกมาดีที่สุด อย่างน้อยก็คงจะช่วยทำให้พ่อแม่หายเหนื่อยได้บ้าง” …เป็นความตั้งใจของนักเรียน ม.2 คนนี้ ที่สัญญากับตัวเองไว้

ขณะที่ น้องเมล์ นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนอีกแห่ง ก็สะท้อนความรู้สึกผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ว่า… เมื่อทราบข่าวว่าโรงเรียนจะกลับมาเปิดเรียนปกติอีกครั้ง ยอมรับว่า…มีหลายอารมณ์-หลายความรู้สึก ความรู้สึกแรกก็คือ ดีใจ ตื่นเต้น ที่จะได้ไปโรงเรียน จะได้เจอเพื่อน ๆ แต่อีกอารมณ์หนึ่งก็มีแว่บ ๆ ที่รู้สึกไม่อยากไป เพราะ กลัวที่จะต้องปรับตัวใหม่อีกครั้ง เนื่องจากเคยชินกับวิถีเรียนออนไลน์มาเกือบ 2 ปี แต่อย่างไรก็ตาม นักเรียนคนนี้ก็ได้ย้ำหนักแน่นว่า… แม้จะมีกังวลใจบ้าง แต่ก็จะตั้งใจเรียน เพราะ สงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น ในการหารายได้มาให้พอกับค่าใช้จ่าย

“เราก็อยากจะช่วยพ่อแม่ด้วยการพยายามประหยัด อย่างชุดนักเรียนก็ไม่ได้ขอให้ซื้อให้ใหม่ ก็ใช้ของเก่าไปก่อน เพราะยังใช้ได้อยู่ เราโตพอจะรับรู้ความเหนื่อยของพ่อแม่ได้แล้ว ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ก็ทำให้เรายิ่งเป็นห่วงท่าน” …นักเรียน ม.3 คนนี้บอกด้วยเสียงจริงจัง …ซึ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่าง “เสียงของเด็ก ๆ กับเปิดเทอมปี 2565”

ส่วนใหญ่ต่างก็ “ตื่นเต้น-ดีใจที่จะได้ไปโรงเรียน”

และรวมถึงยังมีประเด็น “น่าดีใจสำหรับพ่อแม่

คง “คลายทุกข์รายจ่ายเปิดเทอม” ได้ไม่น้อย.