ณ เวลานี้ ยังไม่มีใครคาดเดาสถานการณ์ราคาน้ำมันต่อจากนี้ได้ ว่าจะลดลง จะเพิ่มขึ้น จะทะยานไปจนถึงจุดไหน?กันแน่ นั่นก็หมายความว่า…ประชาชนคนไทยทั้งประเทศยังต้องตั้งหน้าแบกรับภาระการใช้ชีวิตที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

เพราะอะไร? คำตอบง่าย ๆ เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าราคาน้ำมันจะแพงขึ้นขนาดไหน ราคาสินค้าต้องพุ่งขึ้นตามไปด้วยทุกครั้ง แต่พอราคาน้ำมันลดลง กลับกลายเป็นว่าสินค้า อาหารการกิน สินค้าอุปโภคบริโภค ก็ไม่ลดราคาลงมา

เรื่องราวเหล่านี้!! เป็นวิถีการดำรงชีพ ที่คนไทยทั้งประเทศต้องอยู่แบบนี้มาตลอดชีวิต แม้ทุกครั้งรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องได้ออกสารพัดมาตรการมาบรรเทาเบาบาง

และโครงการหนึ่ง!! ที่คนไทยทั้งประเทศ!! ต้องไม่พลาดเช่นกัน คือ โครงการที่น... เดลินิวส์ ได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทบางจาก ช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคในโครงการ “ลิตรละบาท” ซึ่งเริ่มต้นแล้วทาง “นสพ.เดลินิวส์” ฉบับวันที่ 23 ..นี้

โดยบางจากฯ จะมอบส่วนลดการเติมน้ำมันในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ ที่เข้ามาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขา

เพียง….ตัดคูปองบนหน้านสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันจันทร์ที่ 23 วันพุธที่ 25 และวันศุกร์ ที่ 27 พ.ค. 65 นี้ นำมาแสดงเป็นส่วนลดเมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ตั้งแต่ 10 ลิตรขึ้นไป จะได้รับส่วนลดลิตรละ 1 บาท


ทั้งนี้คูปองมี 2 ใบ มูลค่าใบละ 10 ลิตร เท่ากับส่วนลดใบละ 10 บาท โดยจำกัดการใช้คูปองไม่เกิน 2 ใบต่อการเติมน้ำ 1 ครั้ง เริ่มใช้สิทธิ์คูปองส่วนลดได้ตั้งแต่ วันที่ 23 พ.ค. 65 ถึง วันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.นี้

โครงการนี้ถือ เป็นหนึ่งในมาตรการที่บางจากฯ จัดขึ้นเพื่อช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคในสภาวะปัจจุบัน นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรสมาชิกบางจากฯ ที่มีต่อเนื่องตลอดปี 65

นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่ น.ส.พ. เดลินิวส์ ได้ คัดสรรออกมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนในยุคข้าวยาก หมากแพง เช่นนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างที่บอก แม้ว่ารัฐบาลจะใช้หลัก “พึ่งตัวเอง” ในการแก้ไขปัญหาปากท้องในเวลานี้ แต่ก็ยังมีภาคเอกชน อีกหลายแห่ง ที่ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยทั้งประเทศ

เอาเป็นว่า… เพื่อประคองชีวิตในยามทุกข์ยากเช่นนี้ เราๆ ท่านๆ ก็ต้องแสวงหา “ประโยชน์” จากสารพัดโครงการที่ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จัดทำขึ้น

ด้วยสถานการณ์พลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในเวลานี้ “กุลิศ สมบัติสิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้ให้เห็นว่า ภาครัฐได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยใช้เงินไปกว่า 1.12 แสนล้านบาท แล้ว

อย่างไรก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า ด้วยโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ ด้วยโครงสร้างของระบบการใช้พลังงาน ที่พึ่งพาฟอสซิล และไทยยังเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงาน จึงทำให้คนไทยทั้งประเทศหนีไม่พ้นวิกฤติที่เกิดขึ้น

จากการพึ่งพา “ฟอสซิล” มากเกินไป จึงต้องมีการปรับปรุงแผนพลังงานชาติกันใหม่ โดยวางแผนไว้ว่าในปี 73 การพึ่งพาฟอสซิลจะลดน้อยถอยลงไป แล้วกลายเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อผลิตไฟฟ้า ให้ได้ 50% ขณะที่ในปี 83 การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะทะยานไปอยู่ที่ระดับ 30% ของกำลังการผลิตรถยนต์

ทั้งหมด ยังเป็นแผนระยะยาว ในอีก 20 ปี ข้างหน้า แม้!!อาจไม่ทันใจประชาชนคนไทย แต่การมีเป้าหมาย หรือปักธง!!ไว้ให้ชัดเจน ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร?

เช่นเดียวกับ…การจัดทำแผนพัฒนาชาติฉบับที่ 13 ที่จะประกาศใช้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่ได้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง จากที่พึ่งพิงรายได้จากต่างชาติ ก็หันไปสู่เศรษฐกิจในประเทศ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยใช้การวิจัยและนวัตกรรม

ทั้งหลายทั้งปวง…ก็เพราะเวลานี้ โลกไม่ปกติ ทุกคนต้องปรับตัวให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง ต้องพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อรับกับวัฐจักรใหม่ของเศรษฐกิจ เพราะใครจะรู้ได้ว่า เมื่อหมดวิกฤติไวรัส เมื่อหมดวิกฤติสงคราม แล้วจะมีวิกฤติอะไรตามมาอีก!!

แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนต้องอย่าพลาดโครงการ “ลิตรละบาท” โดยเด็ดขาด!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”