อีกทั้งยังมีกระแสประเทศกองเชียร์แต่ละฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายยูเครน เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ นี่ก็ทำให้ผู้คนบางส่วนในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงในไทย อดคิดถึงคำว่า “สงครามโลก!!” ไม่ได้…

“สงครามโลกครั้งที่ 3” ทั่วโลกหวั่น ๆ ลือ ๆ มานาน

เป็นไปได้แค่ไหน??…ว่าในไม่ช้าไม่นาน “จะเกิด??”

ทั้งนี้… “มีโอกาสเกิดน้อยมาก…แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสจะเกิดนะ” …นี่เป็นการระบุโดย รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และกับเรื่อง “สงครามโลก-เวิลด์ วอร์” กับโอกาสเกิด “ครั้งที่ 3” โดยโยงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน นักวิชาการอิสระท่านนี้ยังแจกแจงผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาอีกว่า… ถามว่าทำไมถึงบอกว่ามีโอกาสนำสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 น้อยหรือต่ำ?? ทั้งที่ดูเหมือนสงครามนี้ก็เป็น การสู้กันของ 2 ขั้วอำนาจโลก คือฝั่ง รัสเซีย กับฝั่ง สหรัฐอเมริกา หรือนาโต…

คำตอบของคำถามนี้ก็คือ… โดยตรรกะแล้ว สหรัฐอเมริกาเป็น ประเทศมหาอำนาจด้านระเบิดปรมาณู อันดับ 1 และอันดับ 2 คือ รัสเซีย ซึ่ง 2 ประเทศนี้มีอาวุธระเบิดปรมาณูแบบทำลายล้าง รวมกันเท่ากับ 90% ของโลกโดยแต่ละประเทศจะมีประมาณ 4,500 ลูกขณะที่ จีน มีระเบิดปรมาณูแค่ 320 ลูก ฉะนั้น อาวุธยุทโธปกรณ์ของอเมริกากับรัสเซียมันมหาประลัยเลย!! แล้วนึกภาพดู… “ถ้า 2 ประเทศนี้สู้รบกัน บอกได้เลยว่าตายทั้งคู่!!” …ดังนั้น สงครามโลกครั้งใหม่จึงมีโอกาสเกิดน้อย

รศ.ดร.สมชาย ระบุต่อไปว่า… ในอดีต ช่วงที่เกิด “สงครามเย็น” ถามว่าทำไม สหภาพโซเวียต ถึงไม่รบกับอเมริกา?? ก็เพราะรู้ดีว่า “ถ้ารบกัน…ตายทั้งคู่!!” ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นักวิชาการคนหนึ่ง ชื่อ จอห์น แนช ได้รับรางวัลโนเบลจากการค้นพบทฤษฎีเกม ซึ่งเขาทำนายได้ว่าจะไม่เกิดสงคราม เพราะต่างฝ่ายต่างก็สร้างระเบิดปรมาณู ถ้าหากฝ่ายหนึ่งสร้าง แล้วอีกฝ่ายไม่สร้าง เกิด “สงครามโลกครั้งที่ 3” ไปแล้ว เพราะฝ่ายสร้างต้องเล่นงานฝ่ายไม่สร้าง ฝ่ายไม่สร้างก็ต้องพยายามสู้ แต่เมื่อมีการสร้างทั้งคู่…

“ต่างฝ่ายต่างเกลียดกันแค่ไหน…ก็ไม่รบกัน!!”

ฉันใดก็ฉันนั้น… ถึงยุคนี้ จากสหภาพโซเวียตกลายเป็น รัสเซีย กับ อเมริกา ในยุคนี้ โอกาสที่จะเกิด “สงครามโลกครั้งที่ 3” มันน้อยนิด เพราะถ้ารบกันเมื่อไหร่ก็ตายทั้งคู่… “แต่ก็ต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะอาจเกิดกรณีมีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดไป ยกตัวอย่างเหตุการณ์ปี 1962 ตอนนั้นก็เกือบจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้ว!!” …นักวิชาการท่านเดิมระบุ

พร้อมสะท้อนขยายความเหตุการณ์ปี 1962 ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาว่า…มีเหตุการณ์ในปี 1962สหภาพโซเวียตแอบส่งขีปนาวุธให้คิวบาทางเรือ แต่อเมริกาจับได้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็ส่งเครื่องบินติดขีปนาวุธไปบินอยู่บนน่านฟ้าของเรือสหภาพโซเวียต ซึ่งตอนนั้น อเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี หากประเมินสถานการณ์ผิดพลาดแล้วสั่งยิงเรือ เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แน่นอน เพราะสหภาพโซเวียตต้องต่อสู้แน่แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ฉะนั้นก็ต้องมีการปรึกษาหารือกัน

“เขาก็รู้ว่ามันมีวิธีหลีกเลี่ยงได้ คือต้องให้มัน วิน-วิน ถ้าไปยิงเขา ใครที่เป็นผู้นำต้องสู้แน่ เพราะประชาชนจะมีความรู้สึกว่าถูกรังแก กรณีนี้จึงมีการหลีกเลี่ยงไม่ให้พังทั้งคู่ คือ ถอยคนละก้าว ทางด้านอเมริกาบอกว่า เฮ้ย!!…คุณโซเวียตถอนเรือออกนะ ผมก็จะถอนกำลังนาโตจากตุรกี ซึ่งที่ตุรกีเป็นกองกำลังนาโตที่สำคัญน้อยกว่าเพื่อน ในที่สุดก็เป็นการ รักษาหน้ากันและทำให้ไม่ต้องรบกัน อันนั้นก็เป็นเคสตัวอย่าง…กรณีถ้าเกิดความผิดพลาด…” …ทาง รศ.ดร.สมชาย แจกแจงเหตุการณ์ในอดีต…

แจกแจง “เกือบ” ในอดีต และก็เทียบกับปัจจุบัน ว่า…

“รัสเซียกับอเมริกาก็คงไม่รบกัน…การชนกันตายทั้งคู่เกิดยากมาก” ถ้าจะเกิด…คืออาจมีการประเมินสถานการณ์ต่ำจนเกินไป ถ้ารัสเซียประเมินสถานการณ์แบบหลังชนฝา หรือนาโตมีการท้าทายในลักษณะเข้าช่วยยูเครนรบเต็มที่ กรณีนี้จะนำสู่การสู้รบใหญ่ แต่นาโตก็รู้ ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร่วมสู้รบ แม้แต่อาวุธที่ส่งให้ยูเครนก็ไม่ใช่พิสัยไกล ยิงเฉพาะในขอบเขต เพราะกลัวว่าอาจเกิดการยิงข้ามเข้าไปในเขตรัสเซีย ขอบเขตอยู่ตรงชายแดนก็อาจเข้าไปได้ อาจเกิดการยั่วยุจนเกิด “แอกซิเดนท์

กับ “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” นักวิชาการท่านเดิมชี้ว่า… จบ-ไม่จบ มี 4 สถานการณ์คือ รัสเซียได้ดินแดนที่ต้องการ แล้วมีการเจรจาโดยยูเครนยอมเสีย ก็อาจจบตรงนี้ หรือรัสเซียชนะบางส่วนแล้วรบขยายต่อ ก็จะยังยืดเยื้อ หรือเศรษฐกิจรัสเซีย ยูเครน กระทบรุนแรงจนจำเป็นต้องเจรจากันเพื่อจบศึก หรือจบ-ไม่จบอยู่ที่ประชาชน 2 ฝั่ง ใครอดทนได้นานกว่า ซึ่งไม่มีใครตอบได้…

ทั้งนี้ สรุปปิดท้าย “โอกาสเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3” ทางนักวิชาการอิสระท่านเดิมสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาด้วยว่า… “คนก็กลัวกันว่า…รัสเซียขู่ฟ่อ ๆ เรื่องระเบิดปรมาณู ถ้าใช้จริง โอกาสเกิดสงครามใหญ่ก็สูงขึ้น หมายความว่าคุณใช้ระเบิดปรมาณูข่มขู่ประเทศอื่น ไม่ใช่แค่ยูเครนนะ แต่มันหมายถึงการข่มขู่สมาชิกนาโต แต่ขณะเดียวกัน แม้มีการใช้ระเบิดปรมาณู แต่เป็นแบบถล่มเฉพาะเป้าหมายขอบเขตที่แคบ ไม่ใช่แบบถล่มนางาซากิ ถ้าเป็นเช่นนั้นโอกาสเกิดสงครามใหญ่ก็ยังมีไม่มากนัก ยกเว้นมันเกิดมีความผิดพลาด ที่นาโตอาจมีความรู้สึกว่าคุณจะใช้ปรมาณูขนาดนี้ ถ้าคุณชนะก็เป็นภัยคุกคาม ถ้าอย่างนั้นอย่าใช้นะ ถ้าใช้ก็จำเป็นต้องเกิดสงครามกัน” …ทาง รศ.ดร.สมชาย วิเคราะห์ไว้

“สงครามโลกครั้งที่ 3” นั้น “โอกาสจะเกิดมีน้อยมาก

แม้ “ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสเกิด” นี่ก็น่าคิด

ก็ “หวังว่าโลกจะไม่หวั่นจนเศรษฐกิจทั่วโลกยิ่งพัง“.