สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคอหนังแนวฮีโร่จากค่าย Marvel Studios หรือ MCU (Marvel Cinematic Universe) ที่จะได้ชมภาพยนตร์ เปิดตัวเฟส 5 อย่าง “แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ : ตะลุยมิติควอนตัม” ( Ant-Man and the Wasp: Quantumania) กำหนดฉายวันที่ 15 ก.พ. 2566 เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากโลกสงบสุข เหล่าฮีโร่อเวนเจอร์ไปสู้ศึก The End Game จนได้รับชัยชนะ “สกอตต์ แลง” หรือ แอนท์-แมน (รับบทโดย “พอล รัดด์”) กลายเป็นนักเขียนชื่อดัง ขณะที่แฟนสาวของเขา “โฮป แวนดายน์” หรือ เดอะ วอสพ์ (รับบทโดย “อีแวนเจไลน์ ลิลลี”) ผันตัวไปทำมูลนิธิเพื่อสังคม
ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “แคสซี่ แลงก์” ลูกสาวคนสวยของ “สกอตต์ แลง” (รับบทโดย แคทริน นิวตัน) ทำสิ่งประดิษฐ์มาโชว์คนในครอบครัว แต่กลับผิดพลาดเปิดประตูมิติดูดสมาชิกทุกคนหายไปในมิติควอนตัม พวกเขาจะสามารถหลุดออกมายังโลกปัจจุบันได้หรือไม่ ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้นครับ
จุดแข็ง ตัวหนังมีความยาวกว่า 2 ชม. แบ่งเป็น 2 เส้นเรื่อง ระหว่าง “แอนท์-แมน” กับ “ดร.เจเนท แวนดายน์” (รับบทโดย มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์) การดำเนินเรื่องมีความรวดเร็วแตกต่างไปจาก 2 ภาคที่ผ่านมา สาเหตุมาจากได้มือเขียนบทใหม่อย่าง “เจฟฟ์ เลิฟเนสส์” ผู้เขียนบทแอนิเมชั่นซีรีส์สายปั่น “Rick and Morty” (ข่าวแว่วมาว่าโดนจองตัวให้เขียน ‘Avengers: The Kang Dynasty’ ในเฟส 6 ไปแล้ว) หนังมีการใส่ความเป็นแฟนตาซีโดยเฉพาะมีสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่น เรียกว่าเป็นจุดขายของเรื่องนี้ก็ว่าได้ สำหรับมุกตลกพอกล้อมแกล้มเฮฮาได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะฝืดตามสไตล์ตัวเอกอย่าง “สกอตต์ แลง” ส่วนฉากแอ๊คชั่น CG ทำออกมาได้ดุเดือดพอประมาณ แต่ก็ยังไม่ถึงขนาด End Game “เพย์ตัน รีด” ผู้กำกับจาก 2 ภาคแรก ยังคงคุมโทนผลงานไว้คงเส้นคงวา ฉากไม่ได้โหดร้ายเกินไป คุณหนู ๆ ดูกันได้สบาย
สิ่งที่น่าจะจับตามองและถือเป็นตัวละครที่เด่นมาก ๆ ก็คือ “แคง” ผู้พิชิต หรือ Kang The Conqueror (รับบทโดย จอนาทัน เมเจอส์) ก่อนหน้านี้เขาไปโผล่อยู่ในซีรีส์ “โลกิ” ในฐานะ He Who Remains หรือ “ผู้ที่ยังคงอยู่” ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกไปแล้วว่าหากเขาตาย “แคง” ที่ว่าร้ายกาจที่สุดจะต้องออกมาแทนที่อย่างแน่นอน ซึ่งในตอนจบของซีรีส์นั้น “ซิลวี่” ได้ลงมือสังหาร He Who Remains จริง ๆ ความวายป่วงจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความจริงแล้ว “แคง” ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรเลย เพียงแต่เขาเป็นนักวิชาการประวัติศาสตร์และนักฟิสิกส์ระดับปรมาจารย์ ใช้เทคโนโลยีในศตวรรษที่ 40 สวมชุดเกราะต่อสู้ขั้นสูงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง บวกกับความเชี่ยวชาญด้านการเดินทางข้ามเวลา ทำให้เขารู้ว่าจะจัดการยังไงกับอริที่ต่อต้านเขา ทั้งพลังกายและสมองเข้าขั้นเกินเทพ ตัวละครนี้เลยต้องไปกันยาวถึงเฟส 6 แน่นอน
จุดอ่อน หนังก็ยังคงแทรกดราม่าครอบครัวไม่ต่างอะไรจาก 2 ภาคแรก แถมตัวละครใหม่กลับใช้ไม่คุ้มค่า มองได้ว่าถูกเนิฟหรือลดความเก่งลงไปซะดื้อ ๆ ที่น่าปวดหัวหนักมาในเวลานี้ก็คือ ปกติแล้วหนังแนวฮีโร่จะโชว์ความสุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งเช่น CG สวย ๆ โดดเด่น หรือไม่ก็บู๊เดือดสุด ๆ แต่สำหรับเรื่องนี้กลับพบว่า CG พอดูได้ไม่หวือหวา ความตลก…ก็ตลกไม่สุด ซีนบู๊…ก็ไม่ได้เดือดอะไรมากมาย ความดราม่า..ออกจะเนือย ๆ คือถ้าไม่ตั้งใจดูถึงขั้นหลับกันได้ง่าย ๆ ขนาดเว็บมะเขือเน่ายังให้คะแนน 61%
3/5 สำหรับหนังแนวแอ๊คฮีโร่ ที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี เป็นการเปิดตัว เฟส 5 ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะ “แคง” ผู้พิชิต หรือ Kang The Conqueror ที่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ท้ายที่สุดสำหรับฉาก End-Credits 2 ฉาก ที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด!
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Marvel Studios