ใครจะคิดว่าศึกซักฟอก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ที่เพิ่งผ่านพ้นไป จะสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นกับ “3 ป.” ที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างลึกซึ้งและ ยาวนาน

แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะออกมายืนยันว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร.  ไม่มีการปรับโครงสร้างพรรค  รวมถึง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ก็ยังดำรงตำแหน่งเหมือนเดิม  พร้อมทั้งบอกที่ต้องออกมาชี้แจง เนื่องจากมีกระแสข่าวการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จนทำให้ลูกพรรคตกใจ

ครับ…ก็ได้ยินข่าวกลุ่ม 4 กุมาร ซึ่งมี “นายอุตตม สาวนายน” เป็นแกนนำ จะกลับมาร่วมกับพรรคแกนนำรัฐบาลอีกครั้ง ถ้าเป็นความจริง ต้องถามจะแบ่งสันปันส่วน ถ่วงดุลอำนาจกันอย่างไร เพราะอย่างน้อย ๆ รัฐบาลก็อยู่ได้อีกปีกว่า ๆ ใครก็อยากเข้ามามีส่วนในการแชร์อำนาจครั้งนี้

จริง ๆ ใครตามข่าวก็คงรู้  หลังพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ เข้ามามีบทบาทดูแลพรรคแกนนำรัฐบาล ช่วยสร้างเอกภาพให้เกิดขึ้น  เลือกตั้งซ่อมครั้งใด พปชร.ก็กวาดชัยชนะทุกสนาม คุมเสียงในสภา ให้หัวหน้ารัฐบาลเบาใจได้ บรรยากาศก็เหมือนสมัย “บิ๊กป้อม” รับราชการ ก็เป็นที่รักของพี่ ๆ น้อง ๆ ในกองทัพ เรื่องนี้ “นายกฯ ลุงตู่” ก็น่าจะรู้ดี เพราะได้รับการเกื้อหนุนจาก “พล.อ.ประวิตร” นับตั้งแต่รับราชการ และก้าวเข้ามาทำงานการเมือง

ดังนั้นเมื่อ “นายกฯ ลุงตู่” จัดหนักเสนอปลด ทั้ง “ผู้กองธรรมนัส” และ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ให้พ้นไปจาก ครม. ทั้ง ๆ ที่บุคคลทั้งสองถือเป็น มือทำงานคนสำคัญ ของหัวหน้าพปชร. คนหนึ่งเป็นเลขาธิการพรรค คนหนึ่งเป็นเหรัญญิกพรรค เลยถูกตีความไปต่าง ๆ นานา

แต่เป็นใครก็คงเข้าใจความรู้สึกหัวหน้ารัฐบาล หลังได้ยินได้ฟังคำบอกเล่าจาก แกนนำพรรครัฐบาล การเสาะหาข้อมูลจากทีมงานใกล้ตัว ส.ร. 1  ด้วยผลคะแนนโหวตไม่วางใจสูงสุด เลยอาจเชื่อมโยงไปถึง “บีไฮน์เดอะซีน” ซึ่งถูกมองคิดการณ์ใหญ่  หวังรวบรวมเสียงส.ส. พรรคต้นสังกัดให้ได้สัก 40 คน ผนวกกับ ล็อบบี้พรรคเล็ก ให้งดไว้วางใจนายกฯ เรียกว่าคิด ฆาตกรรมกลางสภา

ตั้งเป้าหมายไปถึงขั้น ถ้าหัวหน้ารัฐบาลมีอันเป็นไป จะผลักดัน “บิ๊กป้อม” ให้เป็นนายกฯ ส่วน “ร.อ.ธรรมนัส” ก็ได้รับโบนัส เข้าไปสวมบท “รมว.กระทรวงมหาดไทย” อีกทั้งช่วงชุลมุนทางการเมือง ใครตามข่าวคงได้ยินน้องรองถามพี่ชายสุดที่รักด้วยประโยค “พี่อยากเป็นนายกฯ หรือ” คำตอบที่ได้รับคือ ไม่ต้องการรับตำแหน่งสำคัญ

อีกทั้งช่วงก่อนศึกซักฟอก “คนแดนไกล ก็โหมข้อมูลผ่านคลับเฮาส์ถล่มใส่ “นายกฯ ลุงตู่” แบบมีนัย มีเงิน 2 พันล้านเข้ามเกี่ยวข้อง หมาเฝ้าบ้านที่รับใบสั่ง บางตัวถึงกับใช้สื่อรัฐไล่ฟัดแบบจมเขี้ยว ส่วนนอกสภามือปืนรับจ้างที่หายหน้าหายตาไปนานก็หวนกลับมาเคลื่อนไหว แต่ดันผิดคิว มวลชนไม่มาตามนัด เลยปิดวิกไปแบบเงียบ ๆ

เลยไม่มีใครได้เห็นรัฐบาลสูตร “พปชร.” จับมือ “พท.”  แล้วมีพรรคเล็กร่วมเป็นกองหนุน ส่วน “พี่โทนี่ วู้ดซัม” ก็หายหน้าหายตาหลบไปเลียแผลใจ  เมื่อช่วยเปิดศึกซักฟอกนอกสภา แต่กลับไม่มีใครให้ค่า ไร้ความเห็นความสนใจ  ปัดโธ่เอ่ย…อยู่ในสภาพ นักโทษหนีคดี ขณะที่คุณวิพากษ์วิจารณ์ คนยอมรับกระบวนการตรวจสอบ ถามจริง ๆ เถอะคนในสังคมเขาจะเชื่อใคร แม้ว่าจะเลี้ยงขี้ข้าม้าใช้ไว้คอยเป็นกองหนุนก็ตาม

อ้อ…แล้วถ้าใครยังจำได้  ในช่วงพรรคฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นักตรวจสอบบางคนใช้ ภาษาพ่อขุนรามคำแหง ด่านายกฯ แบบหยาบ ๆ คาย ๆ แต่ไม่มี ส.ส. พรรค พปชร. ลุกขึ้นประท้วงคอยตัดเกม แตกต่างจากเวลา “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และ“นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ”  รมว.คมนาคม ซึ่งทั้งสองเป็นแกนนำพรรค ภท. ได้รับการปกป้องจากเพื่อนร่วมพรรค  เชื่อเถอะ ใครเป็น “พล.อ.ประยุทธ์” ก็คงอดเจ็บปวดใจไม่ใช่น้อย

แต่บทสรุปของความสัมพันธ์ของพี่น้อง “3 ป.” คงต้องลุ้นข่าวหัวหน้ารัฐบาลจะผลักดัน “บิ๊กป้อม” ให้นั่งเก้าอี้ “มท.1” หรือไม่ เพื่อช่วยนำนโยบายฝ่ายบริหารไปสู่แนวทางปฏิบัติ สนองความต้องการสมาชิกพรรคแกนนำรัฐบาล  เพราะการใช้ชีวิตของ  “ลุงป้อม” ไม่ติดภาพเจ้าขุนมูลนาย ใคร ๆ ก็เข้าพบได้ แตกต่างจาก “รมว.มหาดไทย” คนปัจจุบัน.

———–
เขื่อนขันธ์