เพราะนี่ผ่านมาเกือบ 8 เดือนแล้ว ของการประกาศสงครามกับโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ขณะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดจึงได้ประกาศมาตรการใหม่เพิ่มเติม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้คนอเมริกันอีกหลายล้านคน หันมาฉีดวัคซีน เพราะหากใครยังไม่ยอมถลกแขนเสื้อ ให้หมอหรือพยาบาลปักเข็มให้ละก็ จะต้องเผชิญกับความร้ายกาจใหม่ ของเชื้อโรคร้ายที่อาจทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น กระทบระบบสาธารณสุขของประเทศ และแน่นอนเศรษฐกิจของประเทศก็จะยิ่งฟื้นตัวช้า

ประธานาธิบดีไบเดนบอกว่า เราอดกลั้น แต่ความอดกลั้นของเราเหลือน้อยเต็มที และคนที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนสร้างผลเสียอย่างมากให้กับเรา เป็นพวกไม่ฉีดวัคซีนคนกลุ่มน้อย

ถ้อยแถลงดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ สะท้อนชัดเจนอย่างที่สุดเช่นกันต่อสาธารณชนว่า ผู้นำสหรัฐเองก็ไม่พอใจกับการบริหารจัดการไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลในการรับมือกับการแพร่ระบาด และยังมีเรื่องการเยียวยาอีก ที่สำคัญเขาถึงกับตำหนิคนส่วนน้อยที่มาเตะถ่วงคนส่วนใหญ่ แถมยังมีคำพูดแรง ๆ ไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐบางราย ที่คอยช่วงชิงหรือแสวงหาประโยชน์จากความกลัววัคซีน เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

“คนกลุ่มน้อยที่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งกลุ่มน้อย ทำให้เราไม่สามารถหลุดออกมาจากสถานการณ์ลำบากได้ การเอามาการเมืองมาเล่นกับโรคระบาดทำให้ผู้คนเบื่อหน่าย และยังทำให้คนไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องมาจบชีวิตลงด้วย”

ทัศนคติอย่างเด็ดเดี่ยวของผู้นำสหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่ายังมีชาวอเมริกันอีกมาก ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติของเขาแทนที่จะไปโยงถึงความไม่เห็นด้วยจากบางคน ซึ่งโดยข้อเท็จจริงที่ต้องการสื่อให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่นั้นเขาฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว ก็เพื่อประโยชน์ของตัวคนฉีดวัคซีนเองนั่นแหละ คือไม่ป่วยร้ายแรงถ้าติดเชื้ออะไรแบบนั้น ซึ่งผู้นำสหรัฐก็พยายามที่จะปกป้องการทำหน้าที่ของตัวเองในประเด็นสำคัญที่สุด สำหรับชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง

การกลับมาติดเชื้อเพิ่ม ทำให้คะแนนนิยมของผู้นำสหรัฐตกต่ำลง โดยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือโพลของเอพี-เอ็นโออาร์ซี เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ร้อยละ 54 ของชาวอเมริกันเห็นด้วย กับการทำหน้าที่ผู้นำประเทศในการบริหารจัดการ ช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ แต่คะแนนนิยมนี้ลดลงมาจากร้อยละ 66 ของเดือนก.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันลดลงและนักการเมืองอิสระด้วย

คะแนนนิยมที่ลดลงมา ประจวบเหมาะกับช่วงการ์ดตกในช่วงฤดูร้อน เพราะการติดเชื้อเพิ่มในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่คาดไว้ นั่นก็หมายความว่า ยังมีการระบาดก็เลยยังไม่จ้างคนทำงาน และประเทศอาจได้รับบทลงโทษทางเศรษฐกิจ หากยังควบคุมการแพร่ระบาดไม่ได้

สองเดือนก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศความเป็นอิสระ จากการแพร่ระบาด แม้กว่าร้อยละ 75 ของชาวอเมริกันได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม แต่สหรัฐก็ยังพบการติดเชื้อรายใหม่วันละ 300 ราย และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเกือบสองเท่าของตัวเลขผู้เสียชีวิต เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ผู้นำสหรัฐยังได้พูดถึงคนอเมริกันที่ยังกลัวการระบาด เพราะได้รับวัคซีนไปแล้วเข็มเดียวว่า เมื่อคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนกันแล้ว คนที่ฉีดเข็มเดียว อาจไม่พอใจที่คนไม่ฉีดวัคซีน เพราะคุณอาจติดเชื้อได้ แล้วก็ยังมีคนที่ฉีดแล้วก็ยังติดได้อีก เขาจึงให้คำมั่นว่าจะเร่งรัดดำเนินการเรื่องเข็มที่สาม หรือบูสเตอร์ สำหรับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอเพื่อให้ได้เร็วที่สุดในเดือนนี้ เพื่อให้มีการปกป้องคุ้มกันได้นานขึ้นโดยเฉพาะจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ผู้นำสหรัฐหวังว่ามาตรการใหม่จะทำให้การควบคุมโรคสามารถตรวจสอบได้ และการเอาชนะไวรัสได้นั้น จะต้องเอาชนะการเมินเฉยของคน 80 ล้านคน ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้ได้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AP