ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน.. จากที่เคยสุขภาพแข็งแรง แต่จู่ๆ โรคร้ายก็มาทำลายความสุขและสิ่งที่สร้างมาจนแทบไม่เหลืออะไร เพราะเงินทองต้องหมดไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว เมื่อไม่มีรายได้ ก็ต้องขายสิ่งที่มีเพื่อประทังชีวิตรอดไปวันๆ

อย่างชีวิตของ นายไสว เหลาผา อายุ 63 ปี และนางคำกอง เหลาผา อายุ 62 ปี สองสามีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก จากที่เคยมีความสุขกันตามประสาสองตายาย เพราะลูกๆ ต่างแยกไปมีครอบครัวกันหมด แต่วันหนึ่งก็พบว่านางคำกอง ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย เหลือเวลาอีกไม่นาน

นายไสวและนางคำกอง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 1 บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย สภาพบ้านเก่าทรุดโทรม ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกทยอยขายไปจนแทบจะไม่เหลือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งคู่ต้องออกมานอนกางมุ้งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน เพราะเวลาที่นางคำกองขับถ่าย เปลี่ยนแพมเพิส เข้าห้องน้ำจะได้สะดวก

นายไสว เล่าว่า เราสองคนอยู่กินร่วมทุกข์สุขกันมาร่วม 39 ปี เลี้ยงลูก 2 คน เติบโตและแยกครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัด พักหลังไม่มีใครมาเยี่ยมพ่อแม่ ก็เข้าใจว่าคงจะลำบากกันอยู่ เมื่อก่อนตนกับภรรยาทำอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ดำนา เกี่ยวข้าว กระทั่งช่วงปี 2541 นางคำกองได้ขี่รถจักรยานยนต์ข้ามสะพานไม้ แล้วเกิดเสียหลักล้มลง ทำให้หน้าอกไปกระแทกกับก้อนหิน ต่อมาจึงเกิดเป็นก้อนเนื้อเล็กๆ ใต้ราวนมข้างซ้าย ไม่มีอาการเจ็บปวด จึงไม่ได้ไปหาหมอ

ต่อมาเมื่อปี 2543 ก้อนเนื้อเริ่มโตและแข็งขึ้น นางคำกองจึงได้ไปโรงพยาบาล หมอแจ้งว่าต้องผ่าตัดและมีค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ด้วยฐานะที่ยากจน ตนกับนางคำกองจึงปรึกษากันว่าไม่ผ่าตัด เพราะช่วงนั้นไม่มีอาการเจ็บปวด

พอช่วงเดือน ก.พ. 2565 ก้อนเนื้อเกิดเป็นหนองและมีอาการเจ็บปวดมาก จึงไปหาหมอจนพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายแล้ว หมอได้ทำคีโมและให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยให้ยาตามอาการ และให้ทำใจ เพราะอาจเหลือเวลาอีกไม่นาน

“ทุกวันนี้ตนกับภรรยามีรายได้เพียงเงินคนชรารวมกันเดือนละ 1,200 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ยังดีที่มีเพื่อนบ้านหยิบยื่นความช่วยเหลือบ้าง ช่วง 1 ปีมานี้ ไม่มีเงิน เพราะตนเองไม่ได้ไปทำงาน ขาดรายได้ เนื่องจากต้องคอยดูแลเช็ดตัว หาข้าวปลาอาหารให้ภรรยา เวลาที่นางคำกองเจ็บปวดแผลที่เต้านม ก็จะร้องเรียกหาอยู่ตลอด”

ที่ผ่านมาจึงต้องขายข้าวของที่มีในบ้านไปจนหมด วันนี้ทั้งบ้านมีเงินเหลืออยู่ 3 บาท จึงเตรียมที่จะรื้อสังกะสีข้างบ้านไปขาย เผื่อจะได้สัก 30 บาท เอาเงินซื้อกับข้าวบ้าง จึงอยากวอนขอผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย

“แต่ละวันตนก็จะนั่งปรับทุกข์กับภรรยากันสองคน โดยนางคำกองบอกว่า ทำใจไม่กลัวตายแล้ว ตนเองก็สงสารเวลาที่เห็นภรรยาร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ทำได้ก็แค่เพียงดูแลกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะขออยู่เคียงข้างกันจนลมหายใจสุดท้าย ก่อนที่จะจากกัน” นายไสว กล่าวทิ้งท้าย

ต่อมาเรื่องของสองสามีภรรยาคู่ทุกข์ยากคู่นี้ ได้มีการกล่าวขานและเป็นข่าวออกไป จากนั้นได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเยี่ยมบ้าน โดย รพ.สต.พระบาทนาสิงห์ ได้นำถังออกซิเจนมาให้นางคำกองใช้ ส่วนทาง อบต. ได้นำถุงยังชีพมาให้ ขณะที่ผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือ 28,000 บาท ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายไสว 09-2891-7482

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : พันธลภ แสงทอง จ.หนองคาย
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..