ทีมชาติไทย ประกาศชื่อนักเตะออกมาจนได้ ในการอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติญี่ปุ่น วันที่ 1 ม.ค.67

จริงๆ ก็ประกาศช้าแล้ว ก็ยังดีเลย์มาอีก 1 วัน คือเดิมจะปล่อยวันที่ 18 ธ.ค. แต่สโมสรไม่ตอบรับกลับมาเสียที

เคาะไปเคาะมา ครบจนได้ กับขุนพลชุด “อิชิอิ 1”

ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์), ปฏิวัติ คำไหม(ทรู แบงค็อก)

กองหลัง ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์), จักพัน ไพรสุวรรณ, สันติภาพ จันทร์หง่อม (บีจี ปทุม), สุพรรณ ทองสงค์ (ทรู แบงค็อก), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี),นิโคลัส มิคเกลสัน (โอบี โอเดนเซ)

กองกลาง สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม), ปกเกล้า อนันต์, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (ทรู แบงค็อก), พิชา อุทรา, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (เมืองทอง), บดินทร์ ผาลา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (การท่าเรือ), สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล), เอกนิษฐ์ ปัญญา (อูราวะ เรด ไดมอนส์), กฤษดา กาแมน (ชลบุรี)

กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา (บีจี ปทุม), ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน)

ดูจากรายชื่อแล้ว ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรมากนัก และหน้าตาไม่ค่อยต่างจากยุค มาโน โพลกิง

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังเจ็บอยู่ เช่นเดียวกับ พรรษา เหมวิบูลย์ ไม่สมบูรณ์

ศิวรักษ์ คัมแบ๊ก เช่นเดียวกับ รุ่งรัฐ ที่ทำได้ดีกับสโมสร แต่เจ็บในก่อนเกมคัดบอลโลก 2 นัดแรก รวมทั้ง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ศิษย์เก่า อิชิอิ

สันติภาพ จันทร์หง่อม แบ๊กขวาจากบีจี ที่ด่าหลุดจอ อยู่ในทีมด้วย

น่าจับตา ทรงของ อิชิอิ ว่าจะออกมาอย่างไร กับการเจอยักษ์ใหญ่อย่าง ญี่ปุ่น

ยุค มาโน โพลกิง แม้เราจะเป็นเสือในอาเซียน แต่พอขึ้นชั้นไปเลยจากนั้น กลับกลายเป็นแมวเหมียว ไม่มียุทธวิธี จะเอาชนะ หรือดึงเสมอทีมใหญ่ๆ ได้ดีพอ

นี่เป็นจุดที่ อิชิอิ ต้องมาอุดรูรั่ว สมัยนี้ศาสตร์ฟุตบอลไปไกล การจะอุด จะยันทีมใหญ่มันเป็นไปได้ สำคัญที่วินัย

ผลแข่งขันไม่ต้องพูดถึง รอจับตากันอีกว่าว่า อิชิอิ จะต้านทาน ญี่ปุ่น ได้ขนาดไหน

และอีกเรื่องที่ต้องจับตา สำหรับทีมชาติไทย ย้อนไปถึงการประกาศชื่อ

ปัญหาสโมสร ยึกยัก ดูเชิง ยังรบกวนการทำงาน

วิธีการ โค้ชติ๊กชื่อมาก่อน แล้วผู้จัดการทีมไปขอสโมสร อาจจะดูนุ่มนวล แต่ต้องถามว่า “มันใช่หรือไม่” ในเมื่อฟีฟ่าเดย์ สโมสรต้องปล่อย และโดยสปิริต ทีมชาติต้องมาก่อน

แทนที่จะส่งหนังสือแจ้งสโมสร แล้วประกาศโครมออกมาเลย ใครเจ็บ ก็เอาแพทย์สมาคมบอลไปตรวจ ไม่ไหวก็เปลี่ยน

คนไหนเจ็บบ่อย สังคมจะได้รู้กันไป

ใช้วิธีไปขอแบบนี้ เหมือนร้องขอความเห็นใจจากสโมสร ทั้งที่นี่คือฟีฟ่าเดย์ เมื่อชาติต้องการตัว คุณต้องให้ ไม่ใช่เล่นแง่

บทเรียนที่ผ่านมา มันไม่ได้สอนใจบ้างเลยหรือ.

*** วุฒินล ***