การตั้งปณิธานปีใหม่หรือการตั้งเป้าหมาย การวางแผนชีวิตโดยคร่าว ๆ สำหรับปีใหม่เป็นธรรมเนียมยอดนิยมของชาวตะวันตกอย่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันก็เห็นคนไทยรับเข้ามาประยุกต์ใช้กับชีวิตแบบไทย ๆ ได้เหมือนกัน

นิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจของสหรัฐอเมริกา ได้เขียนบทความถึงการตั้งปณิธานปีใหม่ของชาวอเมริกันในหัวข้อด้านสุขภาพ โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจของนิตยสารเอง ซึ่งมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

การสำรวจนี้ทำขึ้นเมื่อเดือนต.ค. 2566 มีชาวอเมริกันที่เข้าร่วมตอบแบบสอบถามประมาณ 1,000 คน เพื่อค้นหาว่าหัวข้อยอดนิยมในการตั้งปณิธานปีใหม่เกี่ยวกับสุขภาพของคนอเมริกันมีอะไรบ้าง 

ผลปรากฏว่า จำนวน 62% ของผู้ตอบแทบสอบถามรู้สึก “กดดัน” ในการตั้งเป้าหมายชีวิตรับปีใหม่ แต่ถ้าแยกเพศด้วย จะพบว่า 64% ของฝ่ายหญิงจะรู้สึกกดดันเรื่องนี้ ขณะที่ฝ่ายชายมีเพียง 60% ที่รู้สึกแบบเดียวกัน 

เมื่อพูดถึงผลโดยรวมแล้ว ปรากฏว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าการปรับปรุงสุขภาพความแข็งแรงของร่างกายโดยรวมคือสิ่งสำคัญอันดับที่ 1 ในปี 2567 ขณะที่ 36% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าสุขภาพทางจิตใจและอารมณ์ที่แข็งแรงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยกลุ่มผู้หญิงจะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพกายที่แข็งแรงมากกว่ากลุ่มผู้ชาย เมื่อเปรียบเทียบกัน

สำหรับวิธีการเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า วิธีที่ได้ผลมากที่สุดคือ การคุมอาหาร (46%), สมัครเป็นสมาชิกสถานที่ออกกำลังกาย (43%), ใช้แอปพลิเคชันช่วยติดตามกิจกรรม (40%), ใช้แอปพลิเคชันช่วยนับจำนวนแคลอรี (33%) และใช้แอปพลิเคชันช่วยการฝึกสมาธิ (33%) 

นอกเหนือจากเรื่องสุขภาพแล้ว ทางนิตยสารยังได้สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้ออื่น ๆ ในการตั้งปณิธานปีใหม่ด้วย ซึ่งผลปรากฏว่า หัวข้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเรียงตามลำดับคือ 

– สุขภาพกาย (โดยรวม) ที่ดีขึ้น (48%)

– การเงินที่ดีขึ้น (38%)

– สุขภาพจิตที่ดีขึ้น (36%)

– ลดน้ำหนักให้ได้ (34%)

– ปรับการกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น (32%)

นอกจากนี้ยังพบว่า หัวข้อที่ได้รับความนิยมน้อยมากคือ เป้าหมายที่จะเดินทางท่องเที่ยวให้มากขึ้น (6%), ฝึกสมาธิเป็นประจำ (5%), ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง (3%), และทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (3%)

ในภาพรวมแล้ว ผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 80% เชื่อมั่นว่าตัวเองมีความสามารถที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่คนในกลุ่มราว 6% รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง กระนั้น ก็มีเพียง 20% ในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดที่ยืนยันว่าจะรับผิดชอบการไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้ได้.

ที่มา :  forbes.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES