สวัสดีปีใหม่ 2567 จ๊ะทุกๆ คน “yimyim” สาวสวยคนดี คนเดิม มานั่งแท่นบรรยายข่าวแบบเฉพาะกิจให้แฟนๆ ทุกคนรู้แล้ว ด้วยความที่ปีใหม่ทั้งทีเนอะ เราเลยไม่พลาดขอเปลี่ยนโหมดจาก 1 วันของซุป’ตาร์สุดหล่อสุดสวยในวงการบันเทิง มาเป็น 1 สัปดาห์ที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าข่าวไหนดี ข่าวไหนเด่น ข่าวไหนลึก ข่าวไหนที่แฟนๆ สนใจและติดตามมาที่สุดบนเว็บไซต์และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ งานนี้มาเช็กกันจ้า

อันดับที่ 5 สรุปดราม่า! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ปมถูกโยงแอบนัวแฟนเพื่อนเดือดจัดส่งท้ายปี66

มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ สำหรับข่าวนี้ที่นักร้องสาวหน้าใส เบียร์ เดอะวอยซ์ เจอมรสุมข่าวฉาวอีกรอบของปี โดยก่อนหน้านี้เธอมีข่าวเรื่องถูกแฟนเก่าปล่อยคลิปหลุดสุดหวิว ทำเอาหลายคนห่วงสาวเบียร์กันหนักมากมาแล้ว ซึ่งหลายคนก็ภาวนาขอให้สาวเบียร์อย่าเจออะไรร้ายๆ อีกเลย แต่แล้วก็เหมือนเธอจะเจอควันหลงมรสุมช่วงสิ้นปี หลังมีเพจดังออกมาใบ้ว่า “นักร้องสาวอดีตเดอะวอยซ์ วงในเมาท์ฉ่ำ เขาก็จัดวันคริสต์มาสกันเพิ่งผ่านมาวันเดียวเอง จัดกันแค่คนที่สนิทกัน 10 คน ก็ถ่ายก็กินอะไรปกติ หลังจากนั้น ผญ.คนนั้นเขาหลับ แล้ว ผช.กับอดีตเดอะวอยซ์สาว xxx กันในห้องทั้งๆ ที่แฟน ผญ.เขาก็อยู่ xxx บอกเลย xxx รอเลย” พร้อมกับโพสต์ว่าเหตุการณ์เกิดช่วงเทศกาลคริสต์มาส ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคมข้ามคืน 27 ธันวาคม และเปรียบตัวละครทั้งหมดเป็น เจ้าหญิง เจ้าชาย และหญิงขายถั่ว” หลังจากนั้นหลายคนก็โยงไปที่นักร้องสาวเซ็กซี่ ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ จนทัวร์แตกไปถล่มทุกช่องทางโซเชียลของนักร้องสาว จนวันถัดมา นักร้องสาวได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Bizcuitbeer ยืนยันว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่ข่าวออกไป 100% และในห้องมีกล้องวงจรปิด แต่ดราม่าก็ยังไม่วายมีคนออกมาป่วนสาวเบียร์เรื่อยๆ งานนี้ก็ต้องให้กำลังใจเธอและรอดูว่าเธอจะจัดการกับเกรียนและข่าวพวกนี้ยังไง แต่ที่รู้ๆ แฟนๆ มอบกำลังใจให้เบียร์อย่างมากมายทีเดียว

อันดับที่ 4 ‘บุ๋ม ปนัดดา’ เปิดใจ! รอหลักฐานชัดๆปมโดนโยงข่าวลือดาราท้อง

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับนางงาม พิธีกรและนักแสดงสาวคนดัง บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ขวัญใจของแฟนๆ เดลินิวส์ ที่ปีที่ผ่านมาทำเอาหลายคนพูดถึงเธอไม่น้อย เรียกว่าตั้งแต่พฤศจิกายน 2565 เลยดีกว่าที่เธอออกมาเปิดใจปมข่าวเมาท์ที่หลุดออกมาว่ามี 2 ดาราชื่อดังตั้งท้องใกล้คลอด แต่ไม่มีใครรู้ โดยคำใบ้คือ เป็นดาราดัง ระดับประเทศ อายุพอๆ กับ มดดำ คชาภา เป็นคนที่มดดำรู้จักมีผลงานตลอด เห็นอยู่หน้าจอทุกวันไม่มีสังกัด เป็นฟรีแลนซ์ไปได้ทุกช่อง จะคลอดก่อน รถเมล์ คะนึงนิจ และ ไอซ์ อภิษฎา ซึ่งก็ทำเอาหลายคนตกใจหนักมากและอยากรู้สุดๆ ว่าดาราคนดังกล่าวคือใครกันแน่ ต่างก็พากันคาดเดากันต่างๆ นานา ว่าเป็นใครกันแน่ และหนึ่งในดาราดังที่ถูกโยงถึงก็มีชื่อของ บุ๋ม ปนัดดา เพราะคำใบ้อายุ 40+ มีลูกเพิ่ม ก่อนที่สาวบุ๋มจะออกมาเปิดตัวลูกชายจริงๆ โดยเธอประกาศเรื่องลูกชาย น้องอเล็กซ์ ปุ๊บ อีกวันก็คลอดปั๊บ แถมยังพักฟื้นไม่ถึง 2 วัน ก็เดินหน้าลงพื้นที่ช่วยคนแล้ว และยังไปต่อที่งานพิธีกรอีก ทำเอาหลายคนประทับใจและชื่นชมเธอหนักมาก พร้อมกับแสดงความยินดีกับการที่เธอมีลูกชายสุดน่ารักเป็นรางวัลที่ดีให้กับชีวิตอีก และปัจจุบันก็อย่างที่เห็นกันเลย น้องอเล็กซ์ก็ได้ขโมยแฟนคลับของแม่บุ๋มไปจนได้ เมื่อใครๆ ก็พากันรักอเล็กซ์รักบุ๋มกันทั้งประเทศ ก็เนอะ แม่บุ๋มก็แสนจะใจดี น้องอเล็กซ์ก็แสนจะฉลาดเฮฮา อดส่องไอจีแม่ไม่ได้เลยจ้า อิอิ

อันดับที่ 3 ชาวเน็ตเตือน “เอส กันตพงศ์” แถลงข่าวแบบ “ปอ-ทฤษฎี” ดราม่าคงไม่เกิด!

เวียนมาถึงข่าวของพระเอกผิวเข้มสุดหล่อ เอส กันตพงศ์ กันบ้าง ที่เรื่องราวเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่หนุ่มเอสเกิดวูบกลางงานอีเวนต์ดังจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ท่ามกลางความตกใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เฝ้ารอดูอาการของหนุ่มเอสและขอให้เขาหายไวๆ จากนั้นภรรยาสาวของเอสอย่าง คิตตี้ คริสติน่า ก็ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวอาการของหนุ่มเอสว่า เขาอาการวิกฤติต้องดูอาการวันต่อวันและโพสต์รูปอัปเดตสถานการณ์เรื่อยๆ ก่อนที่จะเงียบหายไป ซึ่งหลายคนก็พยายามสอบถามทั้งโซเชียลของหนุ่มเอสและคนรอบข้างแต่ทุกคนก็เงียบ จนมีข่าวออกมาว่าหนุ่มเอสหายแล้วและยิ่งร้อนแรงจนกลายเป็นดราม่าเมื่อหนุ่มเอสมีรูปเชิญพระวัดดังไปทำบุญถึงเตียง โดยไม่ได้หมดสติแบบที่หลายคนเข้าใจ ทำเอาคนดราม่าตามต่อว่า พร้อมร้องขอให้เอสออกมาเปิดเผยการป่วยจริงๆ สักที ก่อนที่ 3 เดือนให้หลังแม่ ภรรยาและหมอที่รักษาหนุ่มเอสจะออกมาตั้งโต๊ะชี้แจงเรื่องราวต่างๆ โดยบอกว่าหนุ่มเอสฟื้นแล้วและขอฟื้นฟูร่างกายก่อน จากนั้นก็หายไปจนมีข่าวเรื่องที่หนุ่มหายดีแล้วออกมา ซึ่งหลายคนก็มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลายทีเดียว ทั้งเห็นใจและต่อว่าที่ปิดเงียบไม่ยอมออกมาพูดใดๆ อีกด้วย ซึ่งข่าวนี้ก็บอกเลยว่าฮอตและเป็นข่าวที่แฟนๆ เดลินิวส์ติดตามความเคลื่อนไหวจากเราเยอะมากๆ ในปีที่ผ่านมาทีเดียว เพราะห่วงหนุ่มเอสมากๆ อยากให้เขาหายไวๆ และล่าสุดหนุ่มเอสเองก็ดีขึ้นมากๆ และมีการออกมาเริ่มเล่นโซเชียลแล้ว แต่ขอเปลี่ยนไอจีใหม่ เพราะจำรหัสเข้าไอจีเก่าไม่ได้นั่นเอง

อันดับที่ 2 สุดเศร้า! เปิดวิบากกรรม “เมฆ วินัย” กักขังทรมานคนอื่น จนป่วยตัวเละสุดอนาถ

มากันที่ข่าวฮอตประจำเว็ปไซต์ของเดลินิวส์ที่มีคนติดตามเกือบ 7 วันเลยทีเดียว สำหรับอาการป่วยของพระเอกร้อยล้านอย่าง เมฆ-วินัย ไกรบุตร ที่ป่วยด้วยอาการตุ่มน้ำพองมานานแต่รักษายากี่ขนานๆ ก็ไม่หาย และมีทรุดกับทรงตัวมาตลอด ท่ามกลางความห่วงใยของแฟนๆ แต่ล่าสุดหลังจากเพื่อนสนิทอย่าง หนุ่ม คงกะพัน ได้เผยคลิปที่ อ.ไพศาล หมอดูดังทักหนุ่มเมฆเรื่องการแก้กรรมกับเจ้ากรรมนายเวรในอดีต ก็ถูกพูดถึงหนักมากในโลกออนไลน์ และมีคนมาติดตามข่าวดังกล่าว เพื่อเป็นกำลังใจให้หนุ่มเมฆผ่านเดลินิวส์ออนไลน์กันอย่างล้นหลาม โดยหนุ่มเมฆได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการดังทางช่องยูทูบ Dailynews LIVE-TH อย่างรายการ Dailynews POP โดยมีบางช่วงบางตอนที่หนุ่มเมฆ พูดถึงความเชื่อของตนเองเรื่องกรรม และบอกว่าอย่าสงสารเลยอีกด้วย

เมฆ เผยว่า “เรื่องที่หลายคนสงสารผม อย่าสงสารเลย มาอุดหนุนสินค้าผมดีกว่า ให้ช่วยผมทางนี้ดีกว่า ผมไม่ได้เปิดรับบริจาคใดๆ ซึ่งบางคนซื้อคอลลาเจน 1 หมื่นบาท แต่โอนมาให้ 5 หมื่นก็มี ซื้อ 1 พัน โอนมา 3 พันก็มี แล้วเขาก็หายไป เขาช่วยแบบนี้ก็ขอบคุณมากๆ จริงๆ ช่วยซื้อสินค้าผมดีกว่า แค่แอดไลน์ @winai88 ก็พอครับ ส่วนเรื่องโรคนี้ ถามว่าผมคิดว่าตัวเองจะหายไป บอกตรงๆ ผมเชื่อว่าผมจะหายดี และขอบคุณกำลังใจจากทุกคนจริงๆ ที่ส่งมาหาผม ผมมีความหวังว่าจะหาย ส่วนเรื่องดราม่าว่าผมอยากขายคอลลาเจนจนต้องทำตัวให้เน่าๆ แบบนี้ แล้วแต่ใครจะคิดครับ ไม่เป็นไร ใครจะคิดยังไงจะว่ายังไงก็แล้วแต่ ลำพังผมเองวันๆ เอาตัวรอด หาค่าเทอมลูก หาค่ายา ค่าเป็นอยู่ ลำบากพออยู่แล้ว ใครจะคิดยังไงไม่ว่าเลย คิดก็ไม่ว่า ด่ามาเลยครับ ผมรับได้ ผมไม่เจ็บแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ ผมเจ็บมากกว่าที่คุณคิด ผมไม่กลัวหรอกครับ คอมเมนต์ที่เข้ามาส่วนใหญ่ที่ว่า เราก็อโหสิกรรมครับ สบายใจมีความสุขจบ แต่ที่คนมองว่าไม่มีงานไม่มีเงินเลยมาสร้างกระแส อันนี้ใครจะมาทำตัวเองให้เป็นศพแล้วมาสร้างกระแส ไม่มีหรอก ใครคิดได้เก่งมาก ฉลาดมาก ผมจะไม่ทำให้ตัวเองเป็นศพ นอนติดเตียงเพื่อสร้างกระแส ไม่คุ้มค่าเลย”

อันดับ 1 “ต้องเต”ปลื้มรัฐบาลมอง “สัปเหร่อ”เป็น Soft Power วอนผลักดันเต็มกำลัง

สมมงและความปังของปีนี้จริงๆ สำหรับผู้กำกับชื่อดัง “ต้องเต ธิติ” เจ้าของผลงานชื่อก้องประเทศและเอเชียอย่างภาพยนตร์ “สัปเหร่อ” ภาพยนตร์นอกกระแสที่คนทั่วประเทศต้องรู้จักและถือเป็นการจุดความหวังให้กับคนรักหนังไทยได้ลุกขึ้นยืนด้วยความภูมิใจอีกครั้ง หลังเขาพาหนังทะยานกวาดรายได้ทะลุ 700 ล้านบาท ทำเอาหลายคนปลื้มใจหนักมาก และเพราะความปังของเขา เดลินิวส์ออนไลน์ จึงไม่พลาดคว้าตัวหนุ่มต้องเตมาคุยเรื่องนี้สักหน่อยผ่านรายการดังทางช่องยูทูบ Dailynews Live-TH อย่างรายการ Daily POP แบบจัดเต็ม

ต้องเต เผยว่า “รู้สึกดีใจมากๆ ที่ทุกคนให้การตอบรับภาพยนตร์สัปเหร่อขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ครับ ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจขนาดนี้ แต่เหตุผลที่ผมสนใจอยากทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับสัปเหร่อ เพราะต้องบอกว่าผู้บริหารและพี่ๆ มีการตั้งชื่อเรื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หนังสัปเหร่อตอนแรกมันเป็นหนังผีครับ แล้วเรามาสานต่อเรารู้สึกว่า ถ้าหนังชื่อสัปเหร่อ มันควรเล่าถึงอาชีพของสัปเหร่อด้วยไหม งั้นมันก็เล่าเรื่องสัปเหร่อให้คนเห็นอาชีพนี้ด้วย แล้วพอไปศึกษาจริงๆ อาชีพนี้มันมีคุณค่าจริงๆ มันหยิบตรงไหนมาใส่ได้บ้าง สาระมันเยอะไปไหม มันแน่นไปไหม คนดูจะโอเคไหม พยายามถามคนนั้นคนนี้แล้วสรุปได้ว่า เราคงหยิบมาแค่นี้แหละ หยิบมาพอให้เขาพอเข้าใจคติธรรมบ้าง”

“ส่วนเรื่องการเป็น Soft Power ที่รัฐบาลและคนสนใจผลักดันนั้น ผมเองแทบจะไม่รู้จักคำว่า Soft Power เลยจริงๆ คือมันแค่มีทุนเดิมจากจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์อยู่แล้ว แล้วเราก็มาสานต่อ ได้ปลูกฝังเกี่ยวกับคนที่เล่าเรื่องแบบนี้ พอรัฐบาลมองเห็นกับเรา เรารู้สึกคือไม่ได้ภูมิใจแค่หนัง แต่เรารู้สึกว่ามีรัฐบาลที่มองเห็นแล้วว่ามันจะไปต่อ แล้วตรงนี้เขาสามารถผลักดัน หรือซัพพอร์ตตรงนี้ให้ไปต่อได้หรือสนับสนุนวงการภาพยนตร์ให้ไปต่อได้ เราเลยรู้สึกว่า เราเป็นค่ายหนังเล็กๆ ที่สร้างปรากฏการณ์หรือกระแสให้รัฐบาลมองเห็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จริงๆ เรื่องมุมมองของภาพยนตร์ไทยที่ไม่ได้แพ้ชาติใดเลย สำหรับผมมองว่า ภาพยนตร์คือการเล่าเรื่องงานศิลปะในอีกแบบหนึ่ง มันไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ไม่รู้ว่าจะมีคนชอบหรือไม่ชอบ แต่รู้ว่าเราแค่อยากจะเล่าอะไรบางอย่างในหนังเรื่องนี้ แค่นั้นเลยในความคิดผม แต่เราก็พยายามให้ภาพเป็นสากลมากขึ้น อย่างภาษาเป็นอีสานจริงอยู่ แต่อยากให้คนที่ไม่ได้อยู่อีสาน หรือคนที่อยู่ต่างประเทศ เห็นแล้วเข้าใจ พยายามมากๆ เลยครับ แต่ก่อนไทบ้านเดอะซีรีส์ทำหนังแล้วให้คนอีสานอยู่ในเมืองคิดถึงบ้าน แต่เป็นหนังอีสานที่ทำให้คนเข้าใจทั้งประเทศว่านี่คืออีสาน ส่วนการต่อยอดการทำสัปเหร่อภาค 2 อันนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันนะครับ ก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยในสิ่งที่มันขับเคลื่อนได้ครับ คุยกับอุตสาหกรรมหรือพูดคุยกัน มันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ครับ”

และนี่คือทั้งหมดของความฮอตของข่าวบันเทิงที่ทันทุกกระแสของสังคมที่เรานำมาฝากกันตลอดปี 2566 และในปี 2567 นี้เดลินิวส์จะพาทุกคนไปเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของวงการบันเทิงแบบจัดเต็มและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและแชร์ข่าวของเราต่อไปเรื่อยๆ ด้วยนะคะ ขอบคุณจ้า


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย yimyim