สัปดาห์นี้…มีหนังใหม่เข้าฉายกันชนิดแน่นโรง ซึ่งก็เป็นผลดีสำหรับผู้ชม เพราะท่านสามารถเลือกชมหนังแต่ละแนวที่ตัวเองชื่นชอบได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หนึ่งในนั้นจะมีหนังที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ “ดูหนังกับหมี” ขอแนะนำให้ลองไปชมกัน นั่นก็คือ “The End We Start From อุ้มลูกฝ่าวิปโยค” โดยเรื่องนี้จะเป็นหนังเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผู้ชมต้องลุ้นกันว่า “แม่ลูกอ่อน” จะรอดจากความหายนะต่าง ๆ ได้หรือไม่

เรื่องย่อ The End We Start From อุ้มลูกฝ่าวิปโยค เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ต่อเนื่องจนเป็นเดือนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้คุณแม่มือใหม่ (รับบทโดย โจดี้ โคเมอร์) ต้องกระเตงลูกไปอยู่ที่บ้านเกิดของ “อาร์” (รับบทโดย โจเอล ฟราย) ผู้เป็นสามี ที่เป็นพื้นที่ป่าเขาสูงน้ำท่วมไม่ถึง แต่ปัญหาสำคัญที่ครอบครัวนี้ต้องเผชิญก็คือ การขาดแคลนน้ำดื่มและอาหารการกินที่สมบูรณ์ เหมือนดังเช่นครอบครัวอื่น ๆ ก่อนจะนำพาหายนะแบบที่ประดังกันเข้ามาไม่หยุด จิตใจของคุณแม่ยังสาวต้องพังทลายลง

ทางรอดทางเดียวก็คือ การเดินทางเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงเพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยที่สุด แต่เรื่องก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ระหว่างทาง…เธอจะต้องเจออะไรบ้าง สัญชาตญาณความเป็นแม่และการเอาตัวรอด คงต้องงัดออกมาใช้ให้หมด บทสรุปของการฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

จุดแข็ง เป็นงานหนังดราม่าชีวิต ที่ค่อนข้างจะเรียล หรือ “สมจริง” โชว์ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์แบบตรงไปตรงมา บางอย่างก็ชวนให้ขบคิดว่า หากเราต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น จะตัดสินใจอย่างไร บทหนังค่อนข้างเล่นกับความรู้สึกของคนเป็นแม่ เพราะต้องเดินเท้าไปพร้อม ๆ กับการดูแลลูกน้อย ดังนั้น คนเป็นแม่มาดูเรื่องนี้ จะรู้เลยว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร อินกว่าคนอื่นแน่นอน องค์ประกอบหนังหลายสิ่งก็ดูสมจริง มีความสวยงามในตัวเอง โทนท้องฟ้าสีเทาหม่น ๆ ฝนตกพรำ ๆ มีบทเพลงประกอบที่มีทั้งสนุกสนานและเศร้าสลด

จุดอ่อน ถึงแม้ว่าหนังจะดำเนินเรื่องแบบคาดเดาอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังมีจุดด้อยอยู่มาก โดยเฉพาะอารมณ์ของหนังที่มันดูราบเรียบเกินไป แถมฉากระทึกขวัญก็ดันไม่ได้ขยี้ให้สุด มีดาราดังตัวแม่เหล็กอย่าง มาร์ก สตรอง (Kingsman 1-2), เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (Doctor Strange) และ แคทเธอรีน วอเตอร์สตัน (Fantastic Beasts) แต่บทของพวกเขา กลับยังไม่มีความโดดเด่นอยู่ดี เรียกว่าเสียของ ใช้ไม่คุ้ม ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว อาจต้องถามตัวเองว่า “…คุณยังเชื่อว่าในความสิ้นหวัง ยังไงก็ยังคงมีความหวังอยู่เสมอหรือไม่?…”

3/5 สำหรับหนังดราม่าชีวิต ความยาว 102 นาที แถมติดเรต R (13+) มีฉาก “วาบหวิว” หลายสิ่งอย่าง ผู้ปกครองต้องพิจารณาหากนำเด็กเข้าไปชม หนังเล่นกับความรู้สึกโดยเฉพาะเหล่าคุณแม่ทั้งหลาย ดูแล้วคิดถึงลูกแน่นอน

———————————————

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Mongkol Major Mongkol Cinema