เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมอายุ 61 ปี เป็นคนรูปร่างท้วม ลงพุงเล็กน้อย มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน เป็นมาได้กว่า 7 ปีแล้ว ต้องกินยาควบคุมน้ำตาลอยู่ทุกวัน ไปพบแพทย์รับการตรวจต่าง ๆ ทุก ๆ 3 เดือน ผลการตรวจล่าสุดพบว่ามีระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์สูงมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ต้องกินยาลดไขมันเพิ่มอีกอย่าง แต่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ รู้สึกตัวเองว่าค่อนข้างหงุดหงิดง่ายมาก เครียดและโมโหง่าย ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นอนหลับยากมาก และยังตื่นบ่อยเมื่อตื่นแล้วกว่าจะหลับลงได้ก็ใช้เวลานาน ตื่นนอนแล้วไม่แจ่มใสสดชื่นเหมือนแต่ก่อน ที่น่าตกใจมากคืออารมณ์ความรู้สึกทางเพศหายไปเฉย ๆ อวัยวะเพศไม่ค่อยตื่นตัว ไม่แข็งเหมือนเดิม ยิ่งมาอ่านการให้ความรู้ของคุณหมอโอ เกี่ยวกับชายที่มีอาการพร่องฮอร์โมน ซึ่งอาการคล้ายกันมาก คำถามก็คือ การเสริมฮอร์โมนเพศชาย จะช่วยอาการดังที่กล่าวมานั้น ไม่ทราบว่าจะส่งผลช่วยให้อาการเบาหวานกับไขมันในเลือดลดลงด้วยหรือไม่ครับ

ด้วยความนับถือ
บริพันธ์ 61

ตอบ บริพันธ์ 61
การลงพุง เป็นสัญญาณอันดับแรกที่แสดงถึงการพร่องของฮอร์โมนเพศชาย คือ ถ้ามีเส้นรอบเอวเกินกว่า 94 เซนติเมตรในคนตะวันตก และเกินกว่า 90 เซนติเมตรในคนตะวันออก ในชายที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมและเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับเทสโทสเตอโรนในเลือดต่ำกว่าปกติ การเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนอาจจะช่วยในการรักษาเมตาบอลิซินโดรมและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีการศึกษาในระยะเวลา 52 สัปดาห์ ได้ศึกษาผลของการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยมีหรือไม่มีการรับเทสโทสเตอโรนทางผิวหนังในชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำและเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2

โดยชายทั้งหมด 32 คน ซึ่งมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำ (เทสโทสเตอโรนต่ำกว่า 12.0 nmol/L) ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะเมตาบอลิกซินโดรมจาก Adult Treatment Panel III และ International Diabetes Federation รับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย 16 คนได้รับเทสโทสเตอโรนเจล 50 mg ทุกวันวันละครั้ง ในระหว่างการศึกษานี้ไม่มีการให้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่าระดับเทสโทสเตอโรน, เบาหวานแอบแฝง (HbA1c), ระดับน้ำตาล, ไขมันดี, ไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด และรอบเอวดีขึ้นในกลุ่มการทดลองทั้งสองกลุ่มหลังจากรักษาเป็นเวลา 52 สัปดาห์

นอกจากนี้พบว่าในกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรน ผลการตรวจเหล่านี้จะพัฒนาดีกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้มาก โดยกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรนทุกคนจะมีระดับเบาหวานแอบแฝงน้อยกว่า 7.0% และพบว่าร้อยละ 87.5 ของเบาหวานแอบแฝงน้อยกว่า 6.5% ขณะที่กลุ่มที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย โดยไม่มีการให้ฮอร์โมนมีเพียง 31.3% เท่านั้นที่มีอาการดีขึ้น การรักษาด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและรับเทสโทสเตอโรนผ่านทางผิวหนังเป็นเวลา 52 สัปดาห์สามารถช่วยรักษาภาวะเมตาบอลิกซินโดรม และควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีขึ้นได้ ผลตามมาคือความแข็งแรงทางเพศจะดีขึ้นอย่างนึกไม่ถึง อารมณ์หงุดหงิดจะลดลง เพิ่มความสดชื่นและมั่นใจได้ดีมาก.

…………………………………
ดร.โอ สุขุมวิท51