ฉายแววออร่าจัด “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับการพักโทษกลับมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นับวันยิ่งส่องแสงเจิดจ้า ยังคงเฉิดฉายไม่มีแผ่ว หลังเจอซุปเปอร์วีไอพี ระดับประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรี หลายสมัย อย่างสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือ สมเด็จฮุน เซน ที่มาเป็นแขกคนแรกเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเยี่ยม “อดีตรัฐมนตรี ทักษิณ” พร้อมรับเทียบเชิญส่ง  “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสส.พรรคเพื่อไทย ไปประเทศกัมพูชา วันที่ 14-15 มี.ค. ท่ามกลางโจทย์ร้อน กับการจับจ้องว่า จะมีการหารือถึงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลหรือไม่

และยิ่ง“สมเด็จฮุน เซน” ได้ออกมาย้ำว่า ที่มาครั้งนี้ไม่ได้มีการคุยเรื่องการเมือง แต่เพื่อเสริมสร้างความผูกพันในมิตรภาพ และมาย้อนความทรงจำ 32 ปีแห่งมิตรภาพ จึงทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เหนือกว่าอำนาจรัฐบาลที่อยากที่จะปฏิเสธได้

ทำให้กระดานการเมืองไทยร้อนระอุ  เพราะนับจากนี้ต้องถูกจับตา จับผิดกันเป็นพิเศษ เพราะ บทบาทของ “ทักษิณ” เริ่มปรากฏเด่นชัด จนเกิดกระแส “นายกฯสองสามคน” ที่ยังคงฟุ้งอยู่ในแวดวงการเมืองบัลลังก์ “นายกฯเศรษฐา” ถูกสั่นคลอน

ขณะเดียวกันก็ได้เห็นเส้นทางการสร้างทุ่งลาเวนเดอร์รองรับ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นแท่นนายกฯคนที่ 31 เป็นไปได้อย่างสวยๆ โดยเฉพาะการวางฐานการเมืองไว้ให้ ด้วยให้เข้าไปเป็นนักศึกษาอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 หรือที่เรียกว่าหลักสูตร มินิ วปอ.” เป็นการปูทางสร้างคอนเน็คชันเบิ้มๆ ไว้เป็นบันได

จึงเห็นบทบาทของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ต้องเร่งเครื่องเดินหน้าลุยงานกลบกระแสนายกฯสองสามคน สร้างแสงให้ตัวเองด้วยการลงพื้นที่แบบรัวๆ เดินหน้าสู้ท่ามกลางกระแสข่าวลือการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ออกมาเขย่าเก้าอี้รัวๆ

ล่าสุดล่องใต้ไป 3 จังหวัดชายแดน ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส แล้วมีกำหนดการต่อด้วยภาคอีสาน และก่อนหน้ากก็เดินเกมรุกตะลุยตรวจแฟลตทหาร แฟลตตำรวจ เพื่อดูความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นผู้น้อย บอกจะดูแลความเป็นอยู่ยกระดับคุณภาพชีวิตของทหาร และตำรวจชั้นผู้น้อยให้ดีขึ้น

พร้อมตั้งเวทีโชว์วิชั่น  8 ด้าน  ด้วยการ 1.ดันไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว 2.ศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (ฮับการแพทย์) 3.ศูนย์กลางอาหาร 4.ศูนย์กลางการบิน 5.ศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค 6.ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เมือง 7.ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล 8.ศูนย์กลางการเงินโลก

 ตั้งเป้า 4 ปี ยกระดับเกษตรกรดึงศักยภาพพุ่ง 3 เท่าสร้างโอกาสให้ประเทศ จุดพลุปลุกพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ร่วมกันส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลาน  และตั้งแต่ 6 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ความสงบ ความสมัครสมานสามัคคี ความร่วมใจกันของพวกเรา เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราจะเริ่มต้นให้ชาวโลกรู้ว่าแสงสว่างในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว

ล่าสุด “นายกฯเศรษฐา” จะเอาสนามบินสุวรรณภูมิเป็น ฮับการบินโลก ตั้งเป้า 6 เดือนแรกรับนักท่องเที่ยว 60ล้าน เป็นการฉายภาพกลิ่นอายความเจริญให้คนไทยหัวใจฟูๆ ท่ามกลางวาระงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2567 ที่จะเข้าสู่วาระ 2-3 เร็ว กว่าปกติ

และตามโรดแมปที่วางไว้ คือ วันที่ 20-21 มี.ค.สภาจะถกร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระที่ 2-3  ต่อจากนั้นก็เป็นคิว วุฒิสภาในวันที่ 25-26 มี.ค. ถกร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี67 ที่สภาให้ความเห็นชอบ และคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปนั้น ในวันที่ 3 เม.ย.67  จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการของกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ต้องรีบดำเนินการนำงบประมาณฯออกมาใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นช่วงที่เงินจะไหลเข้าไปในทุกหย่อมหญ้า โดยผ่านโครงการต่างๆ และถือได้ว่าจะเป็นช่วงเวลาในการพิสูจน์ฝีมือของ “รัฐบาลเศรษฐา 1” ว่าจะเสกเงินเข้ากระเป๋าประชาชนให้อยู่ดีกินดีได้อย่างไร 

ขณะที่เวทีสภาก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 9 เม.ย.67 โดยในช่วงของการพิจารณาร่างงบประมาณวาระ2-3วุฒิสภานั้น ทางสว.ได้ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้ครม.แถลงข้อเท็จจริง ชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 กำหนดไว้ในวันที่ 25 มี.ค.

แต่สำคัญ คือ วาระแห่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 หรือใช้การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ของฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกล ออกอาการยึกยัก ทั้งๆที่เป็นช่วงการเมืองร้อน

โดยประธานวิปฝ่ายค้าน “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ออกมาแย้มๆ ว่า ฝ่ายค้านอาจจะไม่มีการเปิดศึกซักฟอกรัฐบาลในสมัยประชุมสภานี้ ทำให้เจอกระแสสังคมรุมถล่มยับ

เล่นเอา “เดอะต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องรีบออกมาแก้เกม บอกฝ่ายค้านยังเดินหน้าที่จะยื่นซักฟองรัฐบาลแน่ และย้ำว่าพรรคก้าวไกลข้อมูลแน่นเต็มกระดาน แต่ยอมรับยังไม่ถึงขั้นมีข้อมูลทุจริตที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ จะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า

แม้ “เดอะต๋อม” จะออกมาพลิกเกมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่าความผิดหวังของด้อมส้มที่เกาะติดการเมืองอยู่ขอบสนาม เพราะโจทย์ร้อนการยื่นซักฟอกมีอยู่เพียบ ทั้งเรื่องนโยบายหาเสียงขายฝันที่ตอนนี้กลายเป็นฝันค้างไปแล้ว จากนโยบายโครงการเงินดิจิทัลวอล์เล็ต 10,000 บาท ค่าแรง 400 บาท แม้กระทั้งเรื่องของความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม กรณีการพา “ทักษิณ”กลับบ้านอย่างเท่ๆ

แต่เมื่อพรรคก้าวไกลปฏิเสธเปิดเวทีซักฟอกไม่ได้ ต้องโชว์ฝีมือลงดาบแบบไม่ไว้หน้าใคร แม้การเมืองไทยจะเป็นเรื่องของสูตรคณิตศาสตร์ คือ การนับมือสส.ในการโหวต ซึ่งก็ไม่มีการอภิปรายฯรอบไหนที่ ทำให้รัฐบาลตายกลางสภาได้แต่ก็จะเป็นการเปิดแผลให้ประชาชนได้เห็น และเป็นการแสดงบทบาทอย่างเข้มข้นที่ในการตรวจสอบรัฐบาล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับออกอาการยึกยักของพรรคก้าวไกล ทำให้หลายคนมองถึงความไม่จริงใจ หรือมีดีลลับพิเศษหรือไม่ เพราะขนาดการตรวจสอบเรื่องการกลับบ้านอย่างเท่ๆของ “ทักษิณ” ก็ดูจะเป็นแค่ฉากละคร

ถ้าที่สุดแล้วพรรคก้าวไกลไม่มีการอภิปรายฯ ในสมัยการประชุมสภาครั้งนี้  โอกาสที่จะได้ทำหน้าที่ในสภาในนามของพรรคก้าวไกล ก็ดูจะลูกผีลูกคน เพราะมีคดียุบพรรคกรณีล้มล้างการปกครองรออยู่ข้างหน้า

 นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้อนให้ติดตาม คือ ปมร้อนการปักหมุด ส.ป.ก.ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ “นายกฯเศรษฐา” เลือกเล่นเกมตัดไฟแต่ต้นลม โดยเรียก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์มาเคลียร์ใจ จนร.อ.ธรรมนัส ต้องออกมาแถลง นายกฯ จึงสั่งการให้ตนพร้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าว โดยยืนยันว่าทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีใครผิดใครถูก เนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ไม่มีใครมีเจตนาร้ายที่จะไปทำลายทรัพย์สินส่วนราชการของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน

“ยืนยันว่าหนังสือที่เจ้ากรมแผนที่ทหารนำเสนอต่อนายกฯ ระบุชัดเจนว่า พื้นที่ ที่ส.ป.ก.ไปปักหมุด อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน แต่เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ จึงเห็นว่าควรกันเป็นพื้นที่กันชน”

ทำเอา“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกมาสวนทันควัน ที่ส.ป.ก.ทับซ้อนเขาใหญ่เป็นของอุทยาน 100% พร้อมซัดกรมแผนที่ทหารอย่ามามั่ว พื้นที่ป่าเขาใหญ่ไม่มีแนวกันชน  การตัดสินของกรมแผนที่ทหาร ต้องพูดความจริงทั้งหมด เอารายละเอียดมาคุยกัน เรื่องจะจบง่าย แต่ถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องไม่จบแน่นอน พร้อมเปิดศึกชนทุกฝ่ายที่ศาลเรื่องนี้จึงเป็นศึกร้อนที่ต้องจับตาว่า ในที่สุดแล้วจะมีใครกล้าออกมาปกป้องผืนป่าอย่างจริงใจจริงๆ.