@วันที่ “เศรษฐา ทวีสิน” รับตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” สังคมไทย ก็มีการ”ครหา” ว่าเป็น”นายกนอมินี” วันที่ “อุ๊งอิ๋ง” แพทองธาร ชินวัตร เธอ”เลื่อนชั้น” จาก”หัวหน้าครอบครัว” มาเป็น” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” สังคมไทยก็”ครหา”ว่า”ประเทศนี้มีนายกรัฐมนตรี2 คน และวันที่มีคน”พลัดบ้านพลัดเมือง” กลับมารักษาตัวที่”ชั้น 14 “สังคมไทยก็ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลนี้ มีนายกรัฐมนตรี 3 คน สุดท้ายทั้งหมดคือ”กับดัก” ที่ สร้างความ”อ่อนแอ” และความ”ไม่เชื่อมั่น” ต่อ”ผู้นำประเทศ” ที่คนไทย”ด้อยค่า” ผู้เป็น”ผู้นำประเทศ”ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น หากต้องการให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่าง”มั่นคง”……โดยเฉพาะข่าวการเตรียม”ปรับ ครม.” ในปลายเดือน มีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้  ทั้งที่”รัฐบาล”เพิ่งทำงานผ่านไปเพียง 6 เดือน แสดงให้เห็นว่า “ผลงาน” ที่ผ่านมา” ไม่เข้าตา” ผู้ที่มี”อำนาจ” ที่เป็น”ตัวจริง” ของ”รัฐบาล” ใช่หรือไม่ หรือ แสดงว่า ที่ผ่านมาได้มีการ”ต่างตอบแทน” โดยการให้ตำแหน่ง”รัฐมนตรี” กันไปแล้ว และการ”ปรับ ครม. ครั้งนี้ต้อง”ตอบแทน” ผู้ที่ยัง”รอคิว” การเป็น”รัฐมนตรี” อยู่ ใช่หรือไม่ หรือถ้าไม่ใช่” ก็ แสดงว่า” 6 เดือน ที่ผ่านมา มี”รัฐมนตรี” ที่”โลกลืม” อยู่หลายคน ที่”จำเป็น”ต้อง”เขี่ยทิ้ง” เพราะ”ผลงาน” ที่ไม่”ผ่านโปร”……ข่าวว่า”เพื่อไทย” ต้องการที่จะได้”กระทรวงแรงงาน” ที่เป็นโควตา” ของ”ภูมิใจไทย” กลับมา”กำกับดูแล” เพราะต้องการที่จะ”ขึ้นค่าแรง” ตาม นโยบายที่”หาเสียง”เอาไว้กับประชาชน” รวมทั้งอีกหลายกระทรวง ที่อาจจะมีการ”สลับเก้าอี้” ในการ”ปรับ “ครม. ครั้งนี้ ซึ่งก็ต้องติดตามกันแบบ”เกาะติด” ว่าปรับแล้ว “ดีกว่า” หรือ”แย่กว่า” และ “รัฐมนตรี” คนไหนบ้างที่ต้อง”เก็บของกลับบ้าน” …..

@ผ่านไปแล้วกับปรากฎการณ์”ช้างเหยียบนาพญาเหยียบเมือง” ของ”นายกนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่นำเอา “รัฐมนตรี” หลายกระทรวง เดินทางมา”ตรวจราชการ”ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น “ เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคการเมืองที่ ถูกจับตามอง ว่าจะ”รอดสันดอน” ของการถูก”ยุบพรรค” หรือไม่ และยังมี”สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถูก”วิพากษ์วิจารณ์” ว่าเป็น “รัฐมนตรีที่โลกลืม” ทั้งที่อยู่กระทรวงสำคัญ ที่มี”บทบาท” ในการ”ปั๊มเงิน”ให้กับประเทศ เพราะเป็นผู้ดูแลการท่องเที่ยว  แต่”บทบาท” ในการ”สื่อสารกับสังคม” มีน้อยกว่าน้อย   การได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้ คงจะได้เห็น”ไอเดีย” การ พัฒนาการท่องเที่ยวที่อยู่”ท่ามกลางดงระเบิดและควันปืน” เพื่อใช้การ”ท่องเที่ยว” เพื่อ”ดับไฟใต้” ซึ่งเคยเป็น”ไอเดีย” ของ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ” อดีต “รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา” ของ”พรรคภูมิใจไทย” ที่เขียนแผนไว้แต่ไม่ได้ทำ เพราะใน “รัฐบาลนิดหนึ่ง”  “เสี่ยเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ ถูกให้ไปทำหน้าที่” จับกัง 1 “ คือ “ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ทำให้ไม่ได้สานต่องานการท่องเที่ยวตามความต้องการ…..และ” พ.ต.อ.ทวี สองส่อง “ รัฐมนตรีกระรวงยุติธรรม ซึ่งกำลัง”ขับเคลื่อน” การดับไฟใต้” กองใหม่ นั้นคือเรื่องการ”ยาเสพติด”  ที่”ครึ่งหนึ่ง” ของ”ยาเสพติด” ที่ ขบวนการค้ายาเสพติด ส่งผ่านชายแดนทางภาคเหนือ,อิสาน.” และชายแดน”กาญจนบุรี” ล้วนแต่ถูกส่งมายัง”จังหวัดชายแดนภาคใต้” จนวันนี้พื้นที่ของ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็นแหล่งพักยาเสพติด ก่อนส่งออกไปยัง”มาเลเซีย-สิงคโปร์” เพื่อ”ลงเรือ” ไปยัง”ประเทศต่างๆที่เป็น”ตลาดใหญ่ของยาเสพติด”…..

@การเดินทางมา”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ครั้งนี้ของ”นายกนิด” และคณะ” เน้น”  ที่ต้องการ ดูงานด้านการพัฒนา การส่งเสริมอาชีพ และการท่องเที่ยว เพื่อที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว โดย”หลักคิด”ถ้า”เศรษฐกิจดี” คนในพื้นที่มีอาชีพ มีเงินใช้ สถานการณ์การก่อการร้ายจะลดลง รวมทั้งการส่งเสริม”พหุวัฒนธรรม” ในพื้นที่ ซึ่งเห็นได้จากที่ “คณะนายกรัฐมนตรี” เดินทางไปเยือน “ศาสนสถาน” ทั้งที่เป็น “ศูนย์รวมจิตใจ” ของคนไทยพุทธ เช่น”วัดช้างให้” อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง” หรือ”ศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนียว “มัสยิดกลางปัตตานี “มัสยิดกรือเซะ” และมีการ”ไหว้ศาลหลักเมือง” ทั้งใน จ.ปัตตานี และ ยะลา …..แต่ น่าเสียดาย ที่”นายกนิด” และ”คณะรัฐมนตรี เลือกที่จะไปเยือนพื้นที่ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่อง”การก่อการร้าย” อย่าง อ.เบตง จ.ยะลา เมืองชายแดน ที่ เศรษฐกิจ ดีอยู่แล้ว และเป็นเมืองที่ นักท่องเที่ยว ทั้งไทย-มาเลเซีย เข้ามาท่องเที่ยวอย่าง”ล้นหลาม” ถึง “นายกนิด” ไม่มาเยือน “เบตง” ก็เป็นเมือง ที่สามารถเติบโตได้ด้วย”ศักยภาพ” ของตนเองอยู่แล้ว….แต่กับพื้นที่ซึ่งมีปัญหา อย่าง”บันนังสตา” จ.ยะลา อย่าง”หนองจิก” จ.ปัตตานี และอย่าง”รือเสาะ” จ.นราธิวาส ที่เป็นพื้นที่”สีแดง” ไม่ได้อยู่ใน”โปรแกรม” ในการมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ ….

@ที่สำคัญ มีการพูดถึง”ปลานิลสายน้ำไหล” แล”ปลาพลวง” ที่เป็นอาหารของ”เศรษฐี” หรือ”ผู้มีอันจะกิน” เพราะ “ปลาหนึ่งตัวราคา 3,000 บาท  ส่วนเรื่อง”ลองกอง,มังคุด,ทุเรียน” ที่เป็นปัญหาของ”เกษตรกร” ที่เป็นคน”ส่วนใหญ่” ของพื้นที่มีการพูดถึง….เรื่อง”ยาเสพติด” ที่”ชาวบ้าน” ต้องการให้เร่งแก้ และไม่เห็นด้วยกับการ”ครอบครองยาบ้า 5 เม็ดไม่ผิดกฎหมาย” และเรื่องของ”น้ำกระท่อม” ที่มีการ”ต้มขาย” จน”เต็มพรืด” ทั้ง”สองข้างถนน” และในทุก”ชุมชน” เสียดายที่”นายกนิด” เดินทางด้วย”เครื่องบินเล็ก” จึงไม่ได้เห็นภาพ สองข้างทางที่เต็มไปด้วย”ธุรกิจการค้าน้ำกระท่อม” และ”ธุรกิจการค้าน้ำมันเถื่อน” ของ”ถนนทุกสาย”ที่ถูกขนาดนามว่า”สินค้าโอท็อป” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นแหละคือ”วิถีชีวิต” ของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง และนี่คือปัญหา”พื้นฐาน” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องแก้ไข….และที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง”ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่”ประชาชน” เห็นว่าเป็น”หัวใจ” ของปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”เศรษฐกิจ”สังคม, การศึกษา  ยากจน ,ว่างงาน, ยาเสพติด”  และ” ความรุนแรง , หญิงหม้าย, เด็กกำพร้า” ล้วนมาจาก”รากเหง้า” ของ”การก่อการร้าย” แต่ในการ”สัญจรค้างแรม” ใน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ของ”นายกนิด” ไม่มีเรื่อง”เหล่านี้” ให้”ประชาชน” ได้ยินแม้แต่”วลีเดียว” เป็นการ”เสียของ” ที่”น่าเสียดาย” สำหรับการเดินทางลงพื้นที่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ครั้งนี้  ทั้งที่ขณะนี้”จังหวัดชายแดนภาคใต้” กำลัง”ร้อนระอุ”ที่เกิดจาก”ความขัดแย้ง” จากการเดินทางไป”พูดคุยสันติสุข”ของ”ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.)ในฐานะ”หัวหน้าคณะพูดคุยฯของรัฐบาลไทย กับ”หิพนี มะเระ” หัวหน้าคณะพูดคุยของ”บีอาร์เอ็น “ ที่กำลัง”บานปลาย” โดย “นักวิชาการมหาลัย”  อดีต “ทหารใหญ่” และ”กูรู” ที่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง”ไฟใต้”ออกมา”คัดค้าน” การ”พูดคุยสันติสุข” ที่กำลังเป็นเรื่องของ”คณะผู้พูดคุย” ถ้าไป”คล้อยตาม” ข้อเสนอของ”บีอาร์เอ็น” เพราะการ”แบ่งแยกดินแดน” เป็นการ”ขบถ”และ”รัฐธรรมนูญไทย” เขียนไว้ชัดเจนว่า” อาณาจักรไทยแบ่งแยกไม่ได้”…..

@เชื่อเถอะ  การ”ทุ่มเท”เพื่อการพัฒนา”เศรษฐกิจ” ไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่แก้ที่”ต้นตอ” ของปัญหาความรุนแรงที่เกิดจาก”ขบวนการแบ่งแยกดินแดน. ซึ่งเกิดจาก” บีอาร์เอ็น” และการ”ยุติ” ขบวนการบีอาร์เอ็น ไม่สามารถ ”ยุติ”ได้ด้วยการ”พูดคุย” กับ”บีอาร์เอ็น” แต่”ไฟใต้” จะ”ยุติ”ได้ ด้วยการ”พูดคุย” กับ”รัฐบาลมาเลเซีย” ให้เป็นผู้ดำเนินการกับ”บีอาร์เอ็น” ที่ตั้ง”ฐานที่มั่นใน”รัฐกลันตัน” ประเทศมาเลเซีย….ยกตัวอย่าง ถ้า”บีอาร์เอ็น”ไม่หยุดการ”ก่อการร้าย” และต้องการทำลาย”เศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว” ในพื้นที่ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลลงทุน  และ”เอกชน” ทุ่ม”เม็ดเงิน” และ”งบประมาณ” ไม่ว่าจะเท่าไหร่ แค่”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” วางระเบิดแสวงเครื่อง”  ลูกละไม่กี่บาท” เพียง ตูม สอง ตูม ใน หัวเมืองเศรษฐกิจ  ใน สถานที่ท่องเที่ยว ,ร้านสะดวกซื้อ ,ปั๊มน้ำมัน, อย่างที่” บีอาร์เอ็น” ชอบทำ “เม็ดเงิน” และ”งบประมาณ” ที่ใช้ในการ”พัฒนา” ก็จะ”สูญเปล่า” ก็ เขียนไว้ให้คิด ไม่ได้เขียนไว้ให้กลัว เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ เกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2565 ที่”ดับฝัน” การ”พัฒนา” ของ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต. ) สมัยที่ “พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร” เป็น”เลขาธิการ ศอ.บต. ที่”มุ่งมั่น”ในการ”พัฒนา”เศรษฐกิจ การค้าชายแดน และ การท่องเที่ยว เจอการ เผา การระบิด ปั๊มน้ำมัน และ ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ ทุกอย่างก็”พังพาบ” และอีกเรื่องที่”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีต้องให้ความ”สนใจ” คือต้องมี”รองนายกฝ่ายความมั่นคง” เพื่อทำหน้าที่”กำกับดูแล” และ”รับผิดชอบ” ในเรื่อง”ความมั่นคง” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่ปล่อยให้”กองทัพ” ที่มี”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” รับผิดชอบเพียงหน่วยเดียว เพราะถ้า”กองทัพ” และ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ทำได้ดี ทำได้จริง สถานการณ์ของ”ไฟใต้” คงจะไม่”ยืดเยื้อ” ยาวนายมาถึง 20 ปี อย่างที่เห็น และเป็นอยู่ ปรับ “ครม.ครั้งหน้า หวังว่าจะได้เห็น” นายกนิด” ให้ความสำคัญกับเรื่องของ”ไฟใต้” ที่เป็นเรื่อง”ความมั่นคง” มากว่าเรื่องของ”ปลานิลสายน้ำไหล” และเรื่องของ” ปลาพลวง”…..

@ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ”สนามบินเบตง” ที่กลายเป็น”สนามบินร้าง” เพราะไม่มี”แอร์ไลน์” บริษัทไหนให้ความสนใจ หลัง”นกแอร์” โบกมือ”บ้ายบาย” เพราะบินแล้ว”เจ๊งบ้ง” วันนี้ข่าวว่ามี”แอร์ไลน์” ที่ชื่อว่า” อีซี่แอร์ไลน์” สนใจที่จะเปิด”ไฟล์บิน” จาก”สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ไปยัง สนามบินเบตง วันละ 6 เที่ยวบิน โดยค่าโดยสารจะมีการ”เคาะ” กันที่ 2,000-3,000 บาทต่อที่นั่ง เป็นเครื่องบิน 12 ที่นั่ง ดังนั้น”ค่าโดยสาร” จึงถือว่า”แพง” แต่ก็ถือเป็น”ข่าวดี” สำหรับผู้ที่ต้องการความ”รวดเร็ว” ในการเดินทาง ก็จะไม่”ติเรือทั้งโกลน” แต่จะเฝ้า”ภาวนา” ให้ “อีซีแอร์ไลน์” ประสบความสำเร็จ เพื่อ ที่จะเห็น”การบิน” ในระยะสั้นๆในเส้นทางของภาคใต้” เช่น”หาดใหญ่-กระบี่” หรือ”หาดใหญ่ –เกาะสมุย” และ”หาดใหญ่-นครศรีธรรมราชหาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี” เป็นต้น….ส่วนที่มีการเตรียม”ขยายรันเวย์” ของ สนามบิน ให้เป็น”มาตรฐาน” เพื่อไว้รองรับเครื่องบิน “โบอิ้ง 737” ให้สามารถ”ขึ้นลง”ได้นั้น ก่อนที่จะลงมือในการ”ก่อสร้าง” ให้ กระทรวง หรือ”หน่วยงาน” ที่รับผิดชอบต้อง  “แกแจะนายู” หรือ” เจรจา” กับ”รัฐบาลมาเลเซีย” ให้เรียบร้อยก่อน  เพราะถ้าเป็นเครื่อง”737” การ”ขึ้นลง” ต้อง”ล้ำน่านฟ้า” ของ”มาเลเซีย” ไม่ใช่คิดแต่”เม็ดเงิน” ในการ”ก่อสร้าง” โดยไม่”ใส่ใจ”ว่า หลังสร้างเสร็จ ถ้า”รัฐบาลมาเลเซีย” ไม่ “อนุญาต” ให้บิน”ล้ำน่านฟ้า” ของเขา ก็จะเป็นการ”สูญเปล่า” ในเรื่องของ”งบประมาณ”อีกครั้ง   นี่แหละที่เคยบอกว่าเรื่องที่”เสียหาย” กว่าการ”ทุจริต” หรือ” “คอร์รัปชั่น” คือการใช้”งบประมาณ” ที่”สูญเปล่า” เพราะการ”คอร์รัปชั่น” ยังสามารถหา”พยานหลักฐาน” เพื่อเอา”คนผิดเข้าคุก” แต่เรื่องการทำโครงการที่ใช้”งบประมาณ” แล้ว”สูญเปล่า” สำหรับประเทศนี้”หาคนมารับผิด” ไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว….

@เรื่องสำคัญอีกเรื่อง สำหรับการ”พัฒนาสนามบินเบตง” ให้มีความพร้อมในการ”ใช้งาน” คือเรื่องของ”คลังน้ำมัน” ที่ต้องมีใน “สนามบิน” เพราะ”สนามบิน” ที่ไม่มี”แท็งค์ฟาร์ม”  เครื่องบินที่ไป”เบตง” ต้อง”โหลดน้ำมัน” ทั้ง”ไป-กลับ” ที่กลายเป็น ภาระของการบรรทุกน้ำหนัก” ซึ่งเป็นปัญหาของ”การบิน”ของทุกสายการบินรวมทั้ง”เครื่องเหมาเช่า” หรือ”ชาร์เตอร์ไฟล์”…..เรื่องของ”ความมั่นคง”การ”พูดคุยสันติสุข” ภายใต้”รัฐบาลนิดหนึ่ง” ที่ให้”พลเรือน” เป็น”หัวหน้าคณะ” เริ่มต้น”ยกแรก” ก็” สับสนอลหม่าน” เพราะปล่อยให้”พูดกันคนละที” แสดงความคิดเห็นกัน”คนละทิศคนละทาง” วันนี้ทั้ง”นักวิชาการ” ทั้งอดีต”เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง” อดีต”นายทหารใหญ่” ที่เคยทำหน้าที่ใน จชต. ต่างออกมา แสดงความ”วิตกกังวล” กับ”เส้นทางการพูดคุย” ที่เห็นชัดว่า” คณะพูดคุย” ของ”รัฐบาล” ที่มี”ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.)ทำหน้าที่”หัวหน้าคณะพูดคุย” กำลัง”เพลี่ยงพล้ำ” ให้กับ” กลเกมกลโกง” ของ”บีอาร์เอ็น” ก็ต้องติดตามดูว่า”การพูดคุยยกที่สอง” ระหว่าง”คณะเทคนิค” ของทั้งสองฝ่าย ในวันที่ 7-8 มีนาคม ที่จะถึงนี้จะออกมาในรูปแบบไหนจะเป็น”ลำไม้ไผ่” หรือ”บ้องกัญชา” เดี๋ยวรู้ ก็บอกให้รู้ว่า “ประธานคณะเทคนิคฝ่ายไทย”คือ” พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์” แม่ทัพน้อยที่ 4  ซึ่งเป็น”นายทหาร” ที่”รู้ไส้รู้พุง”ของ”บีอาร์เอ็น” เป็นอย่างดี เชื่อเถอะ ถึงไม่คืบหน้าก็ไม่”แพ้ทั้งการะดาน”แน่นอน….

@เรื่องของที่ดิน”สปก.4-01” ที่มีการ”รุกล้ำ” ไป”ปักหมุด” ในเขต”อุทยาน” ที่  จ.นครราชสีมา จนเป็นเรื่องราวที่ความจริงเป็น”เรื่องใหญ่” แต่” เจ้ากระทวง” ทั้งสองกระทรวงพยายาม”ผลัดกันเกาหลัง” เพื่อให้กลายเป็นเรื่อง” เล็กๆ” นั้น ในพื้นที่ของ”ภาคใต้” หลายพื้นที่ มีการยึดเอาที่”สปก.4-01 “ ที่เป็น”สวนปาล์ม” ที่หมด “สัมปทาน” จาก”บริษัท” ทั้งของ”ต่างชาติ” และ”นายทุนไทย” มาเป็นของ”นักการเมือง” และของผู้มี”อิทธิพล” โดยเฉพาะใน จ.กระบี่ สืบค้นให้ดีๆ จะพบว่า ณ วันนี้ ที่ “สปก 4-01” กลายเป็นที่ดินที่มี”โฉนด” กว่า 6,000 ไร่ ที่เป็นของ”นักการเมือง” ไปแล้ว บรรดา”นักร้อง” ทั้งหลายไม่สนใจที่จะ”เปิดโปง” กันบ้างหรือ….

@พัทลุง”เมืองคนด้น “ ( คนดุ ) ล่าสุด คนสนิทของ”แป้ง นาโหนด”  หรือ”เชาวลิต ทองด้วง” ที่รู้จักกันในนาม”หมีขาว ป่าบอน” ถูก “ถล่ม” ด้วยอาวุธปืนสงครามทั้ง”เอ็ม 16 และ คาร์บิน” จนพรุนไปทั้งร่าง เคยเขียนไว้หลายครั้งว่า “ปืนสงคราม” ยังมีอยู่มากมายในพื้นที่ของ จ.พัทลุง ที่”กวาดล้าง”ไม่เคยสำเร็จ เปลี่ยน “ผบก.ภ.จว.” มาแล้ว หลายคน ก็ไม่เคยทำให้”อาวุธสงคราม” หายไปจากพื้นที่ ครั้งนี้ได้ “พล.ต.ต.ญฐกรณ์ กาญจนาภรณ์” มาเป็น”ผู้การ” สถานการณ์ความไม่สงบของจังหวัดพัทลุง ก็ยังเหมือนเดิม หรือนี่คือ”ซอฟต์พาวเวอร์”ของ”บรรพบุรุษ”ของ”เมืองลุง” ที่ต้อง”อนุรักษ์”ไว้….ส่วน”ข่าวคราว”ของ”แป้ง นาโหนด” หรือ”เชาวลิต ทองด้วง” นักโทษหลบหนี”เรือนจำนครศรีธรรมราช” ที่มีข่าวว่า”หลบซ่อน” อยู่ในประเทศเพื่อนบ้างนั้น  วันนี้”ข่าววงใน” ที่เชื่อถือได้ แจ้งว่า”แป้ง นาโหนด” กลับมานอน”ทอดหุ่น” สบายใจเฉิบ อยู่ในพื้นที่ของ”พัทลุง” นานแล้ว โดยอยู่ใน”ซุ้มใหญ่”ของ”นักการเมือง”  ถ้าเป็นจริง อีกไม่นานคนมี”ข่าวใหญ่” เพราะ”ตำรวจ” ไม่ได้มีเพียงกลุ่มที่ให้ความคุ้มครอง”แป้ง นาโหนด” เพียงกลุ่มเดียว “ตำรวจ” ที่ต้องการตัว”แป้ง นาโหนด” เพื่อ”ล้ม” กลุ่มที่ให้ความ”คุ้มครอง” แป้ง นาโหนด” ก็มี   ตัวอย่างของ” กำนันตุ้ม” คนดังของ”เมืองลุง” ที่ หลบหนีคดี”ประหารชีวิต” ของ”ศาลฏีกา” อยู่ในการ”อารักขา” ของ “กลุ่มอิทธิพล” สุดท้าย ก็หนีไม่พ้น”เงื้อมมือ” ของ”ตำรวจ” จาก”ส่วนกลาง”…..

@หลายวันก่อน รถตู้บรรทุกบุหรี่หนีภาษีจากท่าเรือแห่งหนึ่งจาก จ.ตรัง มาเกิด”อุบัติเหตุ” ชนท้ายรถ”กระบะ” ของชาวบ้านใน อ.กงหรา จ.พัทลุง ภายในรถมี”บุหรี่หนีภาษี” 250 ลัง มูลค่าหลายล้านบาท หลังเกิดเหตุมี”นายตำรวจระดับนายพล” สั่งการให้”ปล่อยของกลาง” แต่”ร้อยเวร” เจ้าของคดีไม่ยอม และมีการ”ขอร้อง” อย่าให้”เป็นข่าว” แต่”นักข่าว”ไม่ยอม ถามกัน”ให้แซด” ว่า “นายพลตำรวจ” คนนั้นเป็นใคร ก็ตอบให้รู้กันว่า มีข่าวว่าเป็น”ลูกพี่ใหญ่”ของ” แป้ง นาโหนด” และ วันนี้ยัง”รับราชการ” อยู่ ส่วน”เกี่ยวพัน” กับ” เจ๊ ก ไก่” เจ้าของ”บุหรี่เถื่อน”อย่างไร เป็นหน้าที่ของ “เดอะโต้ง” พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี  ผบช.ภ. 9 ต้องไป”พิสูจน์ทราบ” เอาเอง…..ส่วนใน”น่านน้ำอันดามัน” ด้าน จ.สตูล วันนี้ ไม่มีมีเพียง”น้ำมันเถื่อน”และ”บุหรี่เถื่อน สุราเถื่อน” ที่ถูก”ลักลอบ” นำเข้าจาก”เกาะลังกาวี” ประเทศมาเลเซียเพียงเท่านั้น ยังมีการนำเข้า”สินค้าหลบหนีภาษี” อื่นๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ล่าสุด” ศรชล” ของ กองเรือภาคที่ 3 จับกุม เรือขนสินค้าหลบหนีภาษีในน่านน้ำสตูลได้ถึง 4 ลำ ด้วยกัน ในน่านน้ำอันดามัน จ.สตูล มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการ”สกัดกั้น” สินค้าหลบหนีภาษี ทั้ง”ศรชล” ของ”กองเรือภาคที่ 3 “ มีทั้ง”ตำรวจน้ำ” มีทั้ง”ศุลกากร” และ”สรรพสามิต” ถ้าทั้งหมดร่วมมือกัน มีหรือที่”ของเถื่อน” จะ”หลบรอด”ไปได้…..

@ยังเป็นปัญหาใหญ่ สำหรับการ”ระบาด” ของ”ยาเสพติด ที่”ผู้เสพ” กลายเป็น”ผู้ป่วยทางจิต” และกลายเป็น”ฆาตรกร” และ”ภัยสังคม” เช่นผู้”ติดยาเสพติด” ที่ อ.เทพา จ.สงขลา”ใช้มีดฟัน “สองผัวเมีย” แรงงานรับจ้างสวนปาล์ม เสียชีวิตอย่าง”อนาถ” และ”คนติดยา” ในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ขโมยรถ ที่จอดอยู่ในตลาด ขับหลบหนี  เจ้าหน้าที่ด้วยการ”ชนดะ” มาจนมุม เจ้าหน้าที่ในท้องที่ จ.พัทลุง รายหลังโชคดี ที่ เจ้าหน้าที่ จับกุมได้ โดยไม่มีการ”เสียเลือดเนื้อ” ทั้งสองเหตุการณ์  จากการ”สอบสวน” พบว่ามาจาก”การเสพ” ที่”มากขึ้น” ของ”ผู้เสพ” เนื่องจาก” ยาบ้ามีการคาถูก” เม็ดละ 20 บาท ทำให้ มีความสามารถเสพได้วันละหลายเม็ดจึงทำให้”บ้ามากและบ้าเร็วขึ้น” วันนี้ปัญหาของ”ยาบ้า” จึงไม่ใช่เรื่อง”ครอบครอบ 5 เม็ด” แล้วเป็น”คนป่วย” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะ”ยาบ้ามีราคาถูก” อีกต่างหาก เรื่องนี้”นายกรัฐมนตรี” และ”เสนาบดี” กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้อง”รู้ปัญหา” และต้อง”แก้ให้ตรงประเด็น” วิธีเดียวที่ได้ผลคือต้อง” สกัดกั้น” การ “ลำเลียง” ยาเสพติดจาก”ชายแดนเพื่อนบ้าน” ที่ต้องได้ผล    ส่วนเรื่องการ”เอาผู้เสพ” ออกจาก”ชุมชน” เพื่อการ”บำบัด” วันนี้ยังห่างไกลจากความสำเร็จ อย่างใน จ.สงขลา “สมนึก พรหมเขียว”  ผวจ.สงขลา ทำทุกวิถีทางในการนำเอา”คนเชือน” หรือผู้มีอาการ”ทางจิต” ออกจาก”ชุมชน” เพื่อแก้ปัญหาให้”สังคมปลอดภัย” แต่ยังติดที่”กลไก” ระดับ”ปฏิบัติการ” ใน ระดับ อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ยังไม่พร้อมกับปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น”งบไม่มี คนไม่พอ” และ”ส่วยยาเสพติด” ยังมีอยู่ ….

@ในขณะที่”ตำรวจ” ก็มีปัญหา จับคน”เสพยา” มาเป็น”ผู้ต้องหา” ผู้ถูกจับเป็น”ผู้เสพ”  อีก 2 วัน ผู้ถูกจับ กลับเข้า”ชุมชนหมู่บ้าน กลายเป็นปัญหา และเป็นข้อ”ครหา” กับ”ตำรวจ” ว่าไม่”เอาจริง”ปล่อยผู้ต้องหา เมื่อ” ผู้เสพ” ที่ถูกให้เป็น”ผู้ป่วย” กลับมายัง”ชุมชน” ก็ไม่มีหน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่ติดตามการ”บำบัด” เพราะ เจ้าหน้าที่”ไม่พร้อม” วันนี้ ปัญหาของ”ยาเสพติด” จึงเป็นเรื่อง”สวยหรู” แต่ไม่”เป็นจริง” มีคน 700,000 คน ที่ ติดยาเสพติด 400,000 อยู่ในเรือนจำ 300,000 เป็น”ผู้ป่วย” อยู่นอกเรือน ถ้าเอา 300,000 คน ที่เป็น”ผู้ป่วย” เข้าเรือนจำด้วย จะ”แออัดยัดเยียด”ขนาดไหน และวันนี้มี”ผู้เสพ” อีก กี่แสนคน ที่ยังไม่เข้าสู่”ขบวนการ”ของ”ผู้เสพ” ที่ยังอยู่ใน”ชุมชน” ถ้าจะ”จับจริง” และให้”เรือนจำ” เป็นที่”คุมขัง”เรือนจำทุกเรือจำ อย่างว่าจะ”นอน” เลยเอาแค่”ยืน” ก็จะไม่มีที่ยืนด้วยซ้ำ  นี้คือเรื่องจริงของสถานการณ์”ยาเสพติด” ของประเทศไทย….

@จำได้ว่าครั้งที่”ทักษิณ ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” สมัยแรก มีการ”ลงนาม” พื้นที่”ทับซ้อน”ของแหล่งก๊าซ “เจดีเอ”ใน”อ่าวไทย” ระหว่าง ไทย-มาเลเซีย โดยมีการสร้างโรงงานแยกก๊าซที่ อ.จะนะ จ.สงขลา และมี”เอ็นจีโอ” ประท้วงด้วยการประกาศ”มึงสร้างกูเผา” มีการ”ปะทะ”ระหว่าง”ตำรวจ” กับ”เอ็นจีโอ” กลางในเมืองหาดใหญ่  เป็นข่าวดังทั่วโลก “ทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศไทยครั้งนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” กับ”ฮุน มาเน็ต” ผู้นำประเทศกัมพูชา กำลัง”เจรจา” เรื่องการแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่”ทับซ้อน” ที่เป็น”แหล่งก๊าซธรรมชาติ” ระหว่าง ไทย-กัมพูชา  ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะ”ออกหัวออกก้อย” เพราะมีเรื่อง”พื้นที่เขตแดน” ที่ไม่ง่ายเหมือนกับที่”อ่าวไทย” ระหว่าง ไทย กับ มาเลเซีย แต่ที่มีคนสงสัยคือการ”ให้เปล่า” ของ”ไม้หมอนรถไฟ” ของ”การรถไฟแห่งประเทศไทย” ที่ยกให้กับ”กัมพูชา” โดยที่ ไม่มีการ”ประชาสัมพันธ์” ให้คนไทยได้รับรู้ เรื่องนี้มีการ”วิพากษ์วิจารณ์”กันมากว่ามีอะไรที่”แอบแฝง” อยู่หรือไม่อย่างไร ผู้ว่าการรถไฟ จะไม่ตอบข้อ”ข้องใจ” ของประชาชนเลยหรือ โดยเฉพาะใครเป็นผู้”อนุมัติ” ในการ”ให้เปล่า” ครั้งนี้….

@เรื่องของ” สตอ.ชวนิล จินดามณีกาศ”  พลขับสำรอง ของ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า” เกิด”คลุ้มคลั่ง” ไล่แทง ชาวบ้าน ที่ขับรถ ผ่านโรงพัก ตาย 1 บาดเจ็บ 1  ยังกลายเป็นข้อ”ถกเถียง” ของ ประชาชน เพราะไม่แน่ใจว่า ในแต่ละ หน่วยงาน ของ ตำรวจ ยังมี”ผู้ป่วย” ประเภทนี้อยู่” มาก น้อย “ แค่ไหน และถ้าเป็น”ผู้ป่วย” ควรหรือไม่ ที่ยังให้”ปฏิบัติหน้าที่” อยู่ในหน่วย เพราะไม่รู้ว่า วันไหน เมื่อไหร่ จะกลายเป็น”คนร้าย” ไล่”เข่นฆ่า” ชาวบ้านชาวช่อง เรื่องนี้” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. ต้อง”สั่งการ” ให้”ตำรวจป่วยทางจิต” หยุด ปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะ รักษาหาย  อย่าให้”ประวิติศาสตร์ซ้ำรอย” เกิดขึ้นอีกเลย….

@หลังจากเวลานานถึง 6 เดือน ในที่สุด”คำสั่ง คสช.” จำนวน 3 ฉบับ ที่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีต”นายกรัฐมนตรี” ใช้ในการ”บอนไซ” ให้” ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต..) ให้อยู่ภายใต้”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า “ก็มีการนำเข้า สภาผู้แทนราษฎร เพื่อของความเห็นชอบในการ “ยกเลิก” คำสั่งทั้ง 3 ฉบับ อีกไม่นาน “ศอ.บต. ก็จะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง  มี พรบ. ที่เป็นของ ศอ.บต. ในการ”ขับเคลื่อน” งานด้านการพัฒนา และ สังคมจิตวิทยา อย่างในอดีตก่อนที่จะมีการ”ยึดอำนาจ” ก็ได้แต่หวังว่า “พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการ ศอ.บต. จะ นำพา ศอ.บต. ให้เป็น หน่วยงานที่เป็น”ที่พึ่ง” ของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหมือนในอดีต….

@ปิดท้ายที่”น้ำมันเถื่อนกลางทะเลอ่าวไทย” ซึ่งไม่รู้ว่าได้”ไฟเขียว” จากหน่วยงานไหน จึงมีการ”ลำเลียง” นำมันเถื่อนจากประเทศมาเลเซีย นำขึ้นฝั่งที่ ท่าเรือประมงหลายแห่งในภาคใต้ อย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” มี รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกได้คันละ 40,000 ลิตร ไป รถขนถ่ายจากเรือขึ้นรถ คืนละไม่ต่ำกว่า 10 คัน “จุดหมายปลายทาง” คือ”จังหวัดทางภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ถามว่าถ้าไม่มี”ไฟเขียว” จะทำได้หรือไม่ รอง ผบ.ตร. ท่านไหน ที่ทำหน้าที่ “หน.ตร. ปนม.” ตรวจสอบด้วย เพราะนี้ไม่ใช่เรื่อง”ผิดกฎหมาย” อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ”อาชญากรทางเศรษฐกิจ” ด้วย…..

@ใครที่เดินทางไป”ท่องเที่ยว” หรือไปทำ”ธุระปะปัง” ใน” รัฐเปอร์ลิส” ประทศมาเลเซีย ต้อง เติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อให้เพียงพอกับการเดินทาง”ไป-กลับ” เพราะ”กฎหมาย” ของ”รัฐเปอร์ลิส” ห้ามรถยนต์ที่เป็นป้ายทะเบียนไทย เติมน้ำมันในปั๊ม เพราะ”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน” จากประเทศไทย นำรถยนต์”ดัดแปลง” ไปขนน้ำมันจากปั๊มมาเลเซีย ที่ ขายถูกว่าไทยลิตรละ  20 บาท ( เบนซิน ) และ ลิตรละ 14 บาท ( ดีเซล) ทำให้ผู้บริหารรัฐเปอร์ออกกฎหมาย ห้ามรถยนต์ไทยเติมน้ำมัน นี่คือความเดือดร้อนของคนไทยที่เกิดจาก”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ”…..

@แจ้งข่าวจาก สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ( สนต.) “ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล” นายกสมาคมฯ เชิญสมาชิก ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ในวันที่ 5 มีนาคม 2567  ณ ห้องประชุม โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เวลา 13 .00 น. เป็นต้นไปหลังจากจบประชุมใหญ่ฯ “แดดร่มลมตก” เชิญร่วมงาน”สังสรรค์วันนักข่าว” ที่”สระน้ำชั้นสาม” โรงแรมเดียวกัน “นกน้อยในป่าคอนกรีต”อย่าลืม…..แล้วพบกันอีกครั้งในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ….

——————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก

เวียนเทียนกลางวัน.  ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส นำมวลชนกว่า 500 คน ประกอบพิธีเวียนเทียนกลางวัน เนื่องในเทศกาลวันมาฆะบูชา ณ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธมณฑล อ.เมือง จ.นราธิวาส

ยกพาน-มอบทุน.   ปฏิพัทธ์ ชัยฤทธ์ เป็นประธานจัดงานยกพานครูถวายหลวงปู่เปลี้อง ตปคุโต เจ้าอาวาสวัดพังดาน ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนพังดาน 67 ทุน ณ วัดพังดาน ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

เยี่ยมมูโนะ.   อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี  พร้อมคณะ เยี่ยมชาวบ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส ที่ประสพภัยจากโกดังเก็บพลุระเบิด โดยมี สิทธิชัย สวัสดิ์แสง รอง ผวจ.นราธิวาส ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุป

มาฆบูชา.  พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา และครอบครัว ร่วมทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา โดยมี  อำนาจ ชูทอง รองผว จ.ยะลา เป็นประธานในพิธี ณ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

ไม่ทอดทิ้ง.   พล.ต. เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.กองพลทหารราบที่ 15/ ผ อ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ส่งมอบบ้านในกิจกรรม “ซ่อมสร้าง เสริมสุข“ ช่วยเหลือครอบครัวของ ศิริพร แก้วน้อย สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน กองพันหนองจิกที่ 2  จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคพาร์กินสัน และมีฐานะยากจน

ตรวจเยี่ยม  พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ,พ.ต.อ.พรหมพัฒน์ สนิทศรี รอง ผบก.ฯ/หน.สปพ.ศปก.ตร.สน. ,พ.ต.อ.สินชัย พาบับพา ผกก.สภ.กะพ้อ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม มว.ฉก.นปพ.ปัตตานี 33 อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับฟังบรรยายสรุปและปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน

เยือนมัสยิดกลาง.   เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจราชการ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเยี่ยมชมมัสยิดกลาง พบปะคณะกรรมการมัสยิดโดยมี พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมในพิธี

แก้ปัญหายาเสพติด.   พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อแก้ปัญหาการเอาชนะยาเสพติด และเยี่ยมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยได้ถ่ายภาพกับผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส

จงรักภักดี.   ชนนพัฒฐ์   นาคสั้ว สส. เขต 4 จ.  สงขลา  พรรคพลังประชารัฐ  นำข้าราชการผู้นำท้องถิ่นประชาชนและพลังมวลต่างๆใน อ.ระโนด จ.สงขลา แสดงพลังความจงรักภักดีต่อองค์พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ณ หน้าสำนักงานเทศบาลระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา

ส่งเสริมการท่องเที่ยว.  ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานในการแถลงข่าวกิจกรรมงานเทศกาลลูกลม ชมถ้ำเขาช้างหาย เรียนรู้วัฒนธรรมนาหมื่นศรี โดยมี จิราวดี อ่อนวงศ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง อดุลย์ หมื่นลึก นายอำเภอนาโยง วิโรจน์ เยาว์ดำ นายก อบต.หมื่นศรี  ประเสริฐ คงหมุน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน ณ นาตาสวน ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง

แก้หนี้.  ณ ห้องประชุมอันดามัน 1 พันธนันท์ นิลพัฒน์ ผอ.สพป.ตรัง เขต 2 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ข้าราชครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีข้าราชการครูลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินต่อไป

แถลงข่าว.  ณ ห้องประชุมลิบง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดตรัง บัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.ปปช.ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วยยุทธนา วิมลเมือง  เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ และ กฤษณะ สุขอนันต์ พนักงานไต่สวนระดับสูง ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณี มีการชี้มูลความผิดตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหา ชี้มูล กิจ หลีกภัย กับพวก รวม 13 ราย ว่าจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือในราคาที่สูงเกินจริง

ลุยไฟ.   กันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ร่วมพิธีลุยไฟ ประจำปี 2567 ณ มูลนิธิแม่กอเหนี่ยว อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเป็นศิริมงคล โดยมีประชาชนเข้าร่วมในพิธีลุยไปเป็นจำนวนมาก

ภัยแล้ง.  ปารเมศ เห้งสวัสดิ์  นายอำเภอสทิงพระ  พร้อมด้วย  ขนบ แท่นประมูล นายก  อบต.คลองรี  และ ปลัดอาวุโสอำเภอสทิงพระ  ลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาภัยแล้งและเตรียมความพร้อมในการสูบน้ำเข้าคลองอาทิตย์ให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้ง  ณ สถานีสูบน้ำคลองหนัง ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา

เยี่ยม ชคต.นพพร หนูเพชร  นายอำเภอเมืองยะลา  ลงพื้นที่  ต. ท่าสาป อ.เมือง ข.ยะลา เพื่อเยี่ยมเจ้าหน้าที่ชุด ชคต.รักษาหมู่บ้านพร้อมมอบของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการชุด ชคต.ท่าสาป อเมือง จ.ยะลา

สานสัมพันธ์.    นูรุดดีน ดะแซสาเมาะ ผจก.ส่วนบริหารภาพลักษณ์องค์กร และ มัณฑนา ภารา จากบริษัท ทรานส์ไทย – มาเลเซีย (ประเทศไทย ) จำกัด พบปะ ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมืภาคแห่งประเทศไทย เพื่อการสานสัมพันธ์ ณ ที่ทำการสมาคมฯ ถนนไทยอาคาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ฮูกุมปากัต.   พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการฝึกอบรมแนวทาง “ฮูกุมปากัต” (ธรรมนูญหมู่บ้าน) 9 ดี เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม 1 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

สร้างเครือข่าย.  มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา ลงพื้นที่ เปิดโครงการ สร้างเครือข่ายและพัฒนาศักยภาพแกนนำสภาเด็กและเยาวชน ในพื้นที่ ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีความสุขในการเรียน – มีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ควบคู่กับการพัฒนา ณ ร้านไลลา สวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา