โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานสำหรับอดีตไอดอล BNK48 รุ่นที่ 1 อย่างสาวสวย “เจน- กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์” สาวน้อยตาโตยิ้มหวานที่หลายคนหลงรัก และด้วยความน่ารักของเธอ บวกกับพลังในการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนับวันแฟน ๆ ยิ่งรักสาวเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยความฮอตของเธอ ทำให้วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” ขอนัดแนะเธอออกมาเคลียร์หัวใจและเรื่องรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่นครั้งแรกกัน รวมถึงผลงานต่าง ๆ ของสาวเจนด้วย จะมีอะไรบ้างมาติดตามกันจ้า

ทักทายแฟน ๆ สักหน่อย?

“สวัสดีค่ะ เจน กุลจิราณัฐค่ะ สวัสดีแฟน ๆ ของเดลินิวส์ทุกคนเลยค่ะ (ยิ้ม)”

ล่าสุดโดดมาเป็นนักแสดงเต็มตัว จะมีผลงานแสดงอะไรให้ได้เห็นกันบ้าง?

“จริง ๆ ตอนนี้เจนก็มีเรื่อง Homeroom 29 ตัวประกัน ที่จะฉายปีนี้แล้วก็มีเรื่อง “ถึงคุณภรรยา…จากสามีที่รัก” (My Wife’s Gunslinger God) ของ Haro Project ก็ปีนี้เหมือนกันค่ะ ทั้งสองงานก็ถ่ายเรียบร้อยแล้ว ปิดกล้องไปแล้วค่ะ ตอนทำงานก็มีชน ๆ กันบ้างก็คาบเกี่ยวกัน แต่สู้มาก ๆ ค่ะ”

ทั้งสองคาแรกเตอร์ต่างกันยังไง?

“ก็ค่อนข้างต่างค่ะ ถ้าทุกคนเห็นโปสเตอร์ที่ออกไป อย่างเรื่อง Homeroom 29 ตัวประกัน ก็เอามาจากของญี่ปุ่นก็เอามาทำเป็นเวอร์ชันไทย ส่วนอีกเรื่องจะเครียดเลย คือเป็นเรื่องแรกที่เจนเล่นหลังจากที่ออกมาจากการเป็นไอดอล มาทำด้านการแสดงเต็มตัว ก็เป็นอะไรที่ทำการบ้านหนักมาก แต่ว่าโชคดีที่มีพี่ผู้กำกับ คอยบอกและสอนว่าเจนตรงนี้รู้สึกยังไง ให้เข้ากับตัวละครมากที่สุด แต่ตอนนั้นก็รู้สึกผ่านพ้นมาได้ด้วยดี แล้วก็เรื่องถึงคุณภรรยาสุดที่รัก เป็นคอมเมดี้ ก็เลยค่อนข้างต่างกัน
แบบ 2 โลกเลย”

สองคาแรกเตอร์มันต่างกันสุดขั้ว วิธีสวิตช์อารมณ์มันมีสับสนไหม?

“สำหรับเจนเรื่องการสับสนบทอาจจะไม่ได้สับสนค่ะ แต่ว่าบางทีเราอาจจะเผลอรู้สึกกับตัวละครมากเกินไป บางทีเราออกมาแล้วเราไม่ได้เอาอารมณ์ความรู้สึกตัวละครออกมาด้วย เราอาจจะไม่รู้ตัว เลยเอานิสัยหรืออารมณ์ของตัวละครมาใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง ก็ต้องพยายามปรับค่ะ”

โหมดการเป็นนักร้อง ยังคิดถึงอยู่ไหม?

“จริง ๆ แล้วหนูชอบการเป็นนักร้องนะคะ ถึงแม้ว่าหนูจะเป็นนักร้องเสียงเพี้ยนแล้วก็ตาม (ยิ้ม) คือหนูชอบที่จะร้องเต้นอยู่บนเวทีที่เห็นแฟนคลับที่มันจอยแล้วมันสนุก ก็เลยยังคิดถึงอยู่”

เอาจริง ๆ เจนประสบความสำเร็จจากการเป็นไอดอลมาก ๆรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ทำงานในสิ่งที่รักในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปในตอนนี้?

“ถามว่ารู้สึกยังไง ต้องบอกว่ารู้สึกโชคดีมากกว่าที่ได้มีโอกาสทำด้านไอดอล ทั้งลองร้องลองเต้น ความจริงแล้วต้องอยู่ในวง มันเป็นอะไรหลายอย่างมาก ถ้าสมมุติเราไม่ได้อยู่ในวงก่อนเราจะไม่มีโอกาสสัมผัส จะไม่มีทางได้เจอ จะไม่มีทางได้รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง เพราะว่าต่อให้เราออกมาเนี่ยมันก็จะมีพี่ ๆ แบบนักแสดงท่านอื่น ๆ ถามว่าตอนอยู่ในวงรู้สึกยังไง ก็เลยรู้สึกว่ามันคนละประสบการณ์คนละความรู้สึกมากเลย และก็รู้สึกค่อนข้างดีใจที่ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ที่อยู่ในวง ได้ลองเอามาใช้ในด้านการทำงานด้วยค่ะ”

เจนได้เคยวาดฝันแรกให้ตัวเองไหมว่าจะทำงานในวงการบันเทิงหรือจะไปทำอะไร?

“ในวงการเอาจริง ๆ เจนไม่เคยวาดไว้เลย บอกเลยว่าเจนไม่เคยคิดทางด้านการแสดง ด้านเป็นไอดอล นักร้อง ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ก็ตอนเด็ก ๆก็คืออยากเป็นคุณครู หรือแบบอยากเป็นพยาบาลอะไรอย่างงั้น หรือไม่ก็แบบเป็นการบิน ไม่เกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย คือตอนเด็ก ๆ แม่ก็จะบอกน้องเจนลองไปแคสต์ ลองไปอะไรอย่างนี้ไหม เจนก็จะบอก แม่ หนูไม่ชอบ หนูจะไม่มีวัน โตไปเราทำด้านนั้นเด็ดขาด หลัก ๆคือหนูขี้อาย เพราะมันทำให้หนูไม่กล้า ที่จะไปแคสต์ที่จะทำงานด้านการแสดงต่าง ๆ (ยิ้ม) แต่ถ้าเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มาร้องมาเต้น คือเพื่อนที่สมัยก่อนที่จะมี cover dance ญี่ปุ่น เพื่อนก็มาชวนให้ไปเต้นสักหน่อย ก็เลยแบบเต้นให้เพื่อนก็ได้นาน ๆ ที ก็เลยเป็นว่าเข้าวงการเต้นโดยไม่รู้ตัว (หัวเราะ)”

จริง ๆ เจนนิยามตัวเองว่าอะไร?

“หนูรู้สึกว่าหนูเป็นอะมีบา(หัวเราะ) หมายถึงตัวอะมีบาค่ะ คือจะไม่มีตัวรูปลักษณ์ที่แน่นอน หนูคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อย ๆ หนูรู้สึกว่าหนูเป็นอะมีบา ไม่น่ารักเลย (หัวเราะ) เอาใหม่ หนูเป็นสไลม์ก็ได้ ตัวนี้มันเป็นของเหลว เคยดูการ์ตูนไหมคะ แนวของวิทยาศาสตร์ที่มันยืด ๆ สไลม์มันจะหนืด ๆ ยืดได้ค่ะ ที่เลือกอันนี้เพราะหนูคิดว่าหนูเปลี่ยนแปลงได้เรื่อย ๆ ไม่มีขอบเขต วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้อาจจะเป็นอีกแบบนึง”

ต่อไปมาพูดถึงครั้งแรกของเจนบ้าง ตอนแรกที่รู้ว่าได้เป็นไอดอลแน่ ๆ ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?

“ตอนนั้นจำได้ว่าออกมาจากห้องตอนที่เขาประกาศผลว่ามีใครผ่านบ้าง หนูก็เดินออกมาแล้วแม่มารอรับ แม่ก็แบบน้องเจนไม่เป็นไร กลับบ้านกันดีกว่า คือแม่คิดว่าเจนไม่ได้แน่ ๆ แล้ว เพราะตอนที่เขาให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง หนูคิดว่ากรอกเบอร์ตัวเองเขาก็เลยโทรฯ หาหนูว่า เออน้องผ่านนะให้มารอข้างหน้านะ แต่แม่ไม่ได้รับสาย พอแม่ไม่ได้รับสาย แม่ก็คิดว่าหนูไม่ผ่าน ก็เลยป่ะเดี๋ยวแม่พาไปกินของอร่อย หนูก็บอกแม่หนูผ่าน ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกเพราะเหมือนเป็นเรื่องโชคชะตา ประมาณว่าถ้ามันจะผ่านเดี๋ยวมันก็ผ่านแหละแม่ (ยิ้ม)”

งานแรกในวงการบันเทิงคืออะไร?

“ตอนที่อยู่ในวงก็น่าจะถ่าย Photo Set ที่รู้สึกว้าวคือตอนนั้นจำได้ว่าให้แนะนำตัว ที่มันรู้สึกใหม่กับเรามากว่าเอ๊ะทำไมต้องแนะนำตัวแบบมีคาแรกเตอร์ ก็มาพูดทุกครั้งให้แบบทุกคนฟัง ก็รู้สึกอายมากแต่ก็รู้สึกดีค่ะตอนนั้น (ยิ้ม)”

วิชาแรกที่ชอบเรียนมาก ๆ คืออะไร?

“คณิตศาสตร์มั้งคะ หรือวิทยาศาสตร์ค่ะเพราะตอนเด็ก ๆ หนูก็เคยฝันอยากเป็นนักบินอวกาศชอบแบบดาราศาสตร์อะไรอย่างนี้ค่ะ (ยิ้ม)

สีที่ชอบสีแรกคือสีอะไร เพราะอะไร?

“สีชมพู บาร์บี้หนูชอบบาร์บี้มาก (หัวเราะ)”

ตัวละครหรือการ์ตูนตัวแรกที่หนูชอบ และชอบเพราะอะไร?

“ก็บาร์บี้ค่ะ น่าจะนะคะ แต่หนูว่าอุลตร้าแมนแล้ว เพราะพี่ชายหนูชอบเราก็เลยค่อนข้างสับสนว่าบาร์บี้หรืออุลตร้าแมนเพราะก็ชอบดูเหมือนกัน”

รักแรกของเจนอยู่ตอนไหน เล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อย?

“รักแรกมันลืมยาก (หัวเราะ) จริง ๆ รักแรกหนูยังไม่รู้ด้วยซ้ำมันคืออะไร แต่ถ้าแบบคนนี้หล่อจังตอนอนุบาล 3 คือเป็นช่วงแบบเวลา
สั้น ๆ มาก เพราะเขาพึ่งเข้ามาแล้วก็ออกไปเลย แบบกำลังเรียน เป็นเพื่อนในห้อง ไม่ได้สารภาพรักอะไร เราก็แค่แบบอุ๊ อ๊ะปกติ”

สเปกแรกที่ต้องการจากเด็ก ๆ ถึงปัจจุบันคือแบบไหน?

“ก็คงจะเป็นคนที่สูงกว่า อยากสูงประมาณไหล่เขาค่ะ (ยิ้ม)”

เพื่อนคนแรกที่สนิทด้วยชื่ออะไร เล่าประสบการณ์ช่วงนั้นหน่อย?

“เพื่อนคนแรกก็เป็นตอนอนุบาล ชื่อพิมพ์ เป็นเด็กเรียน ไม่อยากจะยอมรับว่าตอนนั้นก็เป็นเด็กเรียน ก็รู้จักกันตั้งแต่อนุบาล พอเข้าประถมก็อยู่คนละห้อง ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเพื่อนคนแรกที่รู้สึกสนิทค่ะ”

ความภูมิใจแรกในชีวิตที่เจนทำสำเร็จคืออะไร?

“นับไม่ถ้วนเลยค่ะ เอาเป็นตอนเรียนหนังสือเก่งแล้วกัน ตอนที่ได้ที่ 4 ของห้อง น่าจะประถมปลายหรือ ม.ต้น มันนานมาก ประกวดหนูน้อยนพมาศ ตอนนั้นภูมิใจที่ตัวเองได้ลงประกวดแต่งเหมือนผีตานี แล้วหนูภูมิใจมากที่ได้แต่งชุดสีเขียวตั้งแต่หัวจดเท้า แบบสไบเขียว เขียวหมดเลย จำได้ที่บอกครูว่า ครูคะหนูอยากทาปากเขียว”

อาหารอย่างแรกที่อยากทาน แล้วสั่งตลอดคืออะไร?

“ก๋วยเตี๋ยวเรือหมู ไม่ใส่ลูกชิ้น ไม่ใส่เครื่องใน”

ประโยคแรกที่มักพูดกับแฟนคลับเสมอคืออะไร?

“Hi Hi เริ่มคุย แต่ถ้าเป็นจบประโยคก็จะแบบ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะที่คอยซัพพอร์ตกัน อันนี้เหมือนจะพูดค่อนข้างบ่อย”

สิ่งแรกที่อยากจะทำหลังจากนี้มากที่สุดในปีนี้คืออะไร?

“อยากหากิจกรรมอะไรที่ได้เจอแฟนคลับ แต่ว่าเป็นทำบุญดีกว่าค่ะเพราะใกล้วันเกิดแล้ว”

สุดท้ายแล้วฝากอะไรถึงแฟน ๆ ของเจนสักหน่อย?

“หนูก็ขอฝากช่องทางการติดตามแล้วกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กยูทูบนะคะคือ Janemiiiiiiii แล้วก็ฝากติดตามซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องด้วยนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้เจนด้วยนะคะ ขอบคุณค่า”

ยิ่งได้พูดคุยกับสาวเจนก็ยิ่งได้เห็นความน่ารักของสาวน้อยคนนี้ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ทำให้แฟน ๆ ประทับใจได้เสมอ อาจจะเพราะเอเนอร์จีและความน่ารัก เข้าถึงง่ายของสาวเจนที่มัดใจแฟน ๆ ไว้ได้อย่างอยู่หมัด ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแฟน ๆถึงยังคงรักและสนับสนุนสาวน้อยคนนี้ และเชื่อว่าแฟน ๆ จะรักเจนในแบบที่ “เจน” เป็นเจน
ที่น่ารักแบบนี้ตลอดไป ฝากเจนในฐานะนักแสดงและนักร้องของวงการบันเทิงด้วยจ้า.

เรื่อง : สมคิด แซ่คู ภาพ : ธนทัต จันทารักษ์ , ปวินทร์ณวัฒน์ ว่านเครือ