กระทรวงคมนาคมคาดการณ์เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ วันที่ 11-17 เม.ย. ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล 17,141,489 คัน  และเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน รวม 16,908,078 คน-เที่ยว  

โฟกัสทางหลวงสายหลักหนาแน่นแน่นอน เหมือนเช่นทุกปี  กรมทางหลวง (ทล.) ยกเว้นจัดเก็บค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง  หมายเลข 7 (M7) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา–มาบตาพุดและM9  สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ช่วงบางปะอิน-บางพลี รวมทั้งช่วงพระประแดง–ต่างระดับบางขุนเทียน รวม 7 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.ถึงเวลา 24.00 น. วันพุธที่ 17 เม.ย. เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่านจากการทอนเงินและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้ประมาณวันละ 25 ล้านบาทหรือกว่า 175 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังเปิดให้ทดลองใช้บริการชั่วคราว(ฟรี) M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. และM6สายบางปะอิน – นครราชสี ต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปากช่อง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77.493 กม. โดยM6 จะให้บริการไปจนกว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดบริการตลอดเส้นทางเต็มระบบเก็บค่าผ่านทางในปี 2568

สำหรับM81 ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. จะเปิดให้วิ่งฟรีวันที่ 11-21 เม.ย.นาน 11 วันตลอด 24 ชม. จากนั้นตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. จะเปิดบริการช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. และปิดด่านวันอาทิตย์ เวลา 21.00 น. จนกว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดบริการตลอดเส้นทางเต็มระบบเก็บค่าผ่านทางในปี 2568  เท่ากับว่า สงกรานต์ปีนี้กรมทางหลวงเปิดมอเตอร์เวย์ให้วิ่งฉิวฟรีถึง 5 เส้นทาง

ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)  ยกเว้นจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษ(ทางด่วน)  จากเดิม 5 เส้นทาง เป็น 6 เส้นทางแบบจุกๆ  ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช  ซึ่งให้บริการฟรีเป็นครั้งแรก   ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)  รวม 7 วันในห้วงเวลาเดียวกัน 11-17 เม.ย.  ส่วนทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษอุดรรัถยา จะยกเว้นค่าผ่านทางช่วงเทศกาลสงกรานต์รวม 3 วัน ( 13-15 เม.ย.)  เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าด่านฯรวมทั้งแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายประชาชนได้ประมาณ 190 ล้านบาท หรือ 27 ล้านบาทต่อวัน

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง  บอกว่า  ได้สั่งการสำนักงานทางหลวงและแขวงทางหลวงทั่วประเทศตรวจสอบป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างให้พร้อมใช้งาน ตรวจสอบและแก้ไขจุดเสี่ยงและจุดอันตราย พร้อมบำรุงรักษาทางหลวงกว่า 52,000 กม. ให้อยู่ในสภาพดีและมีรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Mobile Service Car) เมื่อผู้ใช้ทางเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย  

ได้ขอความร่วมมือผู้รับจ้างก่อสร้างคืนผิวทางในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ หากพบว่ามีปริมาณจราจรหนาแน่นบนเส้นทางหลักจะประสานตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกด้านการจราจรหรือเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) เพื่อระบายรถ  พร้อมจัดเจ้าหน้าที่บริหารการจราจรในจุดติดขัดให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น     

พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 430 แห่ง แบ่งเป็น จุดให้บริการโดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ 136 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 205 แห่ง และจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและพักรถบรรทุก 89 แห่ง  ภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม. อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมถึงจัดเตรียมห้องน้ำสะอาดบริการประชาชนในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ 653 แห่ง 

ขับรถด้วยความระมัดระวัง รักษาวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด  ดูแลสุขภาพระหว่างการเดินทางเนื่องจากอากาศร้อนจัด ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย กลับบ้านและท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ด้วยความสุข สดชื่นและชุ่มฉ่ำหัวใจ.

—————
นายสปีด

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่