กลายเป็นเรื่องชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายในเงื้อมือศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4  รับคำร้อง 40 สว. ยื่นร้อง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี  ให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี  เหตุตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า “พิชิต” ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่ง จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลกรณีถุงขนม 2 ล้านบาท เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ พร้อมสั่งให้นายกฯเศรษฐายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15  วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

แต่งานนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ “นายกฯเศรษฐา” หยุดปฏิบัติหน้าที่  พร้อมตีตกไม่รับคำร้อง “พิชิต”เหตุเจ้าตัวลาออกแล้ว ตัดไฟแต่ต้นลมก่อนไฟลามทุ่ง

ขณะที่นายกเศรษฐาก็ลุ้นระทึกข้ามทวีป ระหว่างสมบทเซลล์แมนไปประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค. ในการเข้าร่วมประชุมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ก็ได้มีการโทรกลับมาสอบถามคณะทำงาน แม้จะรู้ว่าได้ไปต่อ แต่ก็ยังลูกผีลูกคน ต้องรอกระบวนการศาลในขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไม่ทันก็อาจมาขอขยายเวลาออกไป ทั้งนี้อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญจะอนุญาตหรือไม่

การที่“พิชิต”ชิงไขก๊อกตัดหน้าศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดรับไม่รับ คำร้อง 40 สว. พูดชัด ว่า เรื่องนี้ เป็นวาระเป็นวงจรอุบาทว์ “นายกฯเศรษฐา”บริหารประเทศดีๆ มาทำให้เกิดการกระทำแบบนี้ให้ผู้นำประเทศต้องออกจากตำแหน่ง มีเพื่อนใน สว.รู้เห็นการกระทำ ขอความเป็นธรรมคนของใครทำอะไร ขอไม่พูด

เล่นเอากระดานการเมืองสั่นสะเทือน เพราะถูกเดินเกมรุกฆาต จากสว.กลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งมาจากขั้วอำนาจเดิม ยังคงทำหน้าที่ในช่วงรักษาการณ์ออกฤทธิ์ทิ้งทวน เดินเกมเงียบ ล่ารายชื่อดักทุบหัวแม่ทัพ

เป็นการส่งสัญญาณกระตุกขา “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ว่า อย่าเหิมเกริม เพราะลีลา “นายใหญ่” หลังได้รับการพักโทษก็เดินเกมแบบไม่กลัว ไม่เกรงใจใคร วางแผนขยายปีกทวงบัลลังก์อำนาจทางการเมือง อย่างเปิดเผย

ทั้งวางหมากเดินเกมในเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกฯอบจ.) ที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า และตียาวถึงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา (ปธ.สว.) ที่วางค่ายกลดัน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี สามีเจ้แดง “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” น้องสาว นายใหญ่ลงชิงเก้าอี้สว. เชียงใหม่

ซึ่งดูแล้วมีคุณสมบัติที่ “ฟูลออฟชัน” ทั้งประสบการณ์บารมีและพี่เลี้ยง ที่สำคัญยังวางเกมจะดึงน้องเลิฟ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหญิง กลับบ้านแบบสวยๆ

แต่เกมนี้ยังมีอีกฟาก ตั้งข้อสงสัยการตั้ง “พิชิต” จะเป็นการวางยา “นายกฯเศรษฐา”หรือไม่

โดย“รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แปลกใจที่พรรคเพื่อไทย มีหลายคนที่จะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีได้ทำไมจึงเลือกตั้ง “นายพิชิต” ทำให้คิดต่อว่า มีการวางยากันหรือไม่ เป็นปัญหาภายในของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีเสถียรภาพ คงไม่ใช่การพยายามฟอกขาว “นายพิชิต”

“แต่อาจมีกระบวนการบางอย่างทำให้นายกฯหลงเชื่อหรือไม่ “นายกฯเศรษฐา” อาจมีประสบการณ์การเมืองไม่มากนัก ไม่เท่าทันหรือไม่ สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ หลังปรับ ครม. มีรัฐมนตรีลาออก 3 คน กระทบทุกภาคส่วนที่เสียความเชื่อมั่น เพราะเป็นรัฐบาล ไร้เสถียรภาพ รัฐบาลควรเป็นตัวอย่างตั้งคนมีคุณสมบัติ ความสามารถ แต่การตอบแทนบุญคุณ เปลี่ยนผลัดกันทุก 6-7 เดือนไม่ควรเกิดขึ้น

ถ้าดูตามไทม์ไลน์การเมืองตอนนี้ต้องจับตาแบบไม่กะพริบ เพราะคดีร้อนในศาลรัฐธรรมนูญมีทั้งยุบพรรคก้าวไกลและถอดถอน “นายกฯเศรษฐา” จะถูกเดินในเวลาไล่เลี่ยกัน

โดยพรรคก้าวไกล หลังยื่นขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญครั้งที่ 3 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 2 มิ.ย.67 และหลังจากที่ศาลได้รับแล้วก็จะพิจารณา ก่อนที่จะมีการนัดอ่านคำวินิจฉัย ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิดเดือนมิ.ย.ก็น่าจะชะตากรรมของพรรคก้าวไกล 

ขณะที่กำหนดการยื่นคำร้องแก้ข้อกล่าวหา “นายกฯเศรษฐา”ภายใน 15 วัน ดูแล้วช่วงเวลาใกล้ไล่เลี่ยกัน แต่เชื่อว่า “นายกฯเศรษฐา”คงต้องสู้ตามกระบวนการโดยชั้นต้นจะต้องยื่นขอศาลรัฐธรรมนูญขอขยายเวลา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญจะให้ขยายหรือไม่

หากช่วงเวลานั้นมาถึง ศาลรัฐธรรมนูญฟันเปรี้ยงสั่งยุบพรรคก้าวไกลสส.มี โอกาสเกิดวงจรอุบาทว์เพราะสส.152 คนของพรรคก้าวไกลต้องหาพรรคสังกัดภายใน 90 วัน ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างรอช้อนดูดเข้าพรรค ก็ต้องรอดูว่าจะมีงูเห่าสีส้มเลื้อยเข้าพักร่วมรัฐบาลอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมีความเป็นได้สูง ที่สำคัญเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลจากแต้มสส.ที่เพิ่มขึ้นมา

และถ้าชีวิตการเมืองของ “นายเศรษฐา”ต้องตกอับ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อำนาจการต่อรองของพรรคเพื่อไทยก็จะลดน้อยถอยลง กลายเป็นเรื่องของโมเมนตัมทางการเมืองสะเทือน ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตาว่าอนาคตของ “นายกฯเศรษฐา”จะเป็นอย่างไร เกมการต่อรองในพรรคร่วมจะดุเดือดขนาดไหนหาก “นายกฯเศรษฐา”ต้องเจออุบัติเหตุทางการเมือง 

ปฏิเสธไม่ได้ปมร้อนรัฐบาลมีไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่การปรับคณะรัฐมนตรี “ครม.เศรษฐา 1/1” ก็มีรัฐมนตรีลาออกถึง 3 คน คนแรก ปานปรีย์ พหิทธานุกร  ลาออกจากการเป็น รมว.ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.67 หลังมีพระราชกิจจานุเบกษา ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.เพียงไม่กี่อึดใจ เหตุถูกลดชั้นจากรองนายกฯเหลือเพียงแค่ตำแหน่งรมว.คลังอย่างเดียว ตามมาด้วย กฤษฎา จีนะวิจารณะ”ทำหนังสือลาออกจาก รมช.คลัง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.67  เหตุน้อยใจถูกลดชั้นจากรัฐมนตรีช่วยเบอร์หนึ่ง กลายมาเป็นรัฐมนตรีช่วยเบอร์บ๊วย แถมยังได้ดูงานแค่สังกัดกระทรวงการคลังเพียงหน่วยงานเดียว ถูกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยรวบไปหมดแถม“ขุนคลังคนใหม่” นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ก็ยังเป็นคู่ปรับเก่าสมัยแข่งขึ้นปลัดกระทรวงการคลัง

ล่าสุดคนที่ 3 “พิชิต” ที่ต้องไขก๊อกลาออกหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพียง 19 วัน เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในการตัดสินใจของ “นายกฯเศรษฐา”เลือกคนเข้ามาทำงานมีปัญหา

ปมร้อนของ “นายกฯเศรษฐา” ที่ยังต้องจับตากรณีโครงการแจงเงินดิจิทัลวอล์เล็ต 1หมื่นบาท ที่จะดันทุรังฝ่าขวากหนามเดินหน้ากันไปอย่างไร เพราะหลายคนบอกว่าเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายมีช่องโหว่

 ขณะที่ข้าว10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าว ที่ล่าสุดถึงแม้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ออกมาการันตีคุณภาพข้าว ที่กระทรวงพาณิชย์ส่งไปให้ตรวจ ผลออกมาดี ไม่มีสารตกค้าง การปนเปื้อนจากสารพิษ จากเชื้อรา กระทรวงพาณิชย์รับลูกเตรียมประมูลขายหาเงินเข้าประเทศ เป็นการปูทางถึงข้อเท็จจริงใหม่ ในคดีโกงจำนำข้าว และต่อท่อไปสู่การนำ “นายหญิงปู ยิ่งลักษณ์”กลับ สู่มาตุภูมิ

แต่ปมร้อนยังไม่หมดและจะประมาทไม่ได้อีกเรื่อง คือ เรื่องของกลุ่มเยาวชนที่ดูแล้วยังไม่จบลงง่ายๆ เป็นเรื่องใหญ่ที่จะไปดูถูกพลังเยาวชนไม่ได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ การเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่เลือกวิธีการอดอาหารประท้วงในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ 109 วันจนร่างกายเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นขณะถูกคุมขังอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ ก่อนถูกนำส่งต่อมายัง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี จนกระทั่งมาเสียชีวิตในวันที่ 14 พ.ค.2567  ยังกลายเป็นประเด็นปัญหา เพราะกรมราชทัณฑ์ยังอ้ำอึ้งชี้แจงไม่เคลียร์ รอกวันกลายเป็นไฟสุมขอนรอวันเผาวอดในที่สุด

งานนี้ต้องจับตาการวางหมากพลิกเกมกระดานการเมือง ของ“รัฐบาลเศรษฐา”ภายใต้ปีกของ “นายใหญ่ ทักษิณ” จะสะดุดขาตัวเองจนเกมการเมืองเปลี่ยนมือพลิกขั้วหรือไม่. 

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่