จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ที่ชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. และครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 100 ของประเทศ โดยอัตโนมัติ ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ในระดับที่น่าพอใจ จากผลของโพลสำรวจ 1 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่ง

ทำให้คิชิดะมีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถนำพาพรรคแอลดีพีและพรรคโคไมโตะ พรรคร่วมรัฐบาลผสม ชนะการเลือกตั้งปลายเดือนนี้ ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายถึงได้ตั้งรัฐบาลบริหารปกครองประเทศต่อไปอีก

นางซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าฝ่ายนโยบายพรรคแอลดีพี เผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ว่า แอลดีพีต้องการแสดงให้ชาวญี่ปุ่นเห็นว่า พรรคมีมาตรการที่เด็ดขาด มีประสิทธิภาพ และสามารถปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมได้ พรรคต้องการทำให้ประชาชนผ่อนคลาย และมีความหวัง

ประชาชนต้องการเห็น รัฐบาลที่มีแผนเด็ดขาด ในการสยบไวรัสโควิด-19 และพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศที่กำลังอ่อนแอ

Nippon TV News 24 Japan

ผลสำรวจความคิดเห็นสาธารณะล่าสุด โดยหนังสือพิมพ์ซันเคอิ พบว่า ประมาณ 48% ของชาวญี่ปุ่นที่ตอบคำถาม ต้องการให้รัฐบาลภายใต้การนำของคิชิดะ แก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด ตามด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ และการจ้างงาน

มาตรการจัดการกับโควิด-19 ตามที่ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงของพรรค รวมถึง การจัดหายาต้านโควิด-19 แบบรับประทาน ภายในปีนี้ ส่วนการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เป็นวิสัยทัศน์ส่วนตัวของคิชิดะ ในการทำ “ทุนนิยมใหม่” ให้เป็นจริง โดยเน้นที่การเติบโตของเศรษฐกิจ และการกระจายความมั่งคั่ง

พรรคแอลดีพีจะขยายการสนับสนุน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และเสนอให้การอุดหนุนวิสาหกิจ หากหันเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่

นับว่าโชคดีสำหรับคิชิดะ ที่สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นหลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในวันที่ 11 ต.ค. น้อยที่สุดนับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่คิชิดะบอกว่า รัฐบาลจะไม่ชะล่าใจโดยเด็ดขาด และมีแผนรับมือสถานการณ์เลวร้ายสุด ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการระดมทรัพยากรสาธารณสุขเพิ่ม และเตรียมเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ประชาชน ในเดือน ธ.ค.

สำหรับวิธีการตอบสนอง ต่อค่าเงินเยนที่อ่อนลงผิดปกติ คิชิดะบอกว่ารัฐบาลจะจับตามองผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยบอกว่าค่าเงินเยนอ่อน จะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่ธุรกิจในญี่ปุ่น เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าจะสูงขึ้น

นโยบายสำคัญที่สุด ใน 3 ข้อที่ประกาศคือ ด้านความมั่นคง พรรคแอลดีพีจะ “พิจารณาใหม่” วิธีการตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวทางทหารถี่ขึ้นของจีน รอบช่องแคบไต้หวัน และหมู่เกาะทางฟากตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ญี่ปุ่นควบคุม แต่จีนอ้างกรรมสิทธิ์

รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม สูงขึ้นเกิน 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี โดยในช่วง 2–3 ทศวรรษล่าสุด งบรายจ่ายด้านกลาโหมของญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 1% ของจีดีพี

คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ระหว่างปี 2555–2560 และรัฐมนตรีกลาโหม ระหว่างปี 2560–2563 มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 49% จากการสำรวจโดยสำนักข่าวเอ็นเอชเค เมื่อบ่ายวันที่ 11 ต.ค. ถือว่าไม่สูง เมื่อเทียบกับอดีตผู้นำคนก่อนหน้าหลายคน แต่คะแนนนิยมต่อรัฐบาล ที่คิชิดะเป็นหัวขบวน อยู่ที่ 63% สูงกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ทำโดยนายกฯ โยชิฮิเดะ ซึงะ.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AP