“10 เรื่องด่วน ทำทันที! ยืนยันจะทำงานแข่งกับเวลา ทุกนาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราคือผู้แทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ มาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 กล่าวเอาไว้ภายหลังนำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ และเตรียมนำไปแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งก็มีหลายข้อที่แทบจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
การเริ่มเดินหน้าการทำงานของ รัฐบาลแพทองธาร 1 โดยมี คณะรัฐมนตรี แทบจะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ กระทรวงใหญ่หน้าเดิม ๆ เกือบครบถ้วน มีเข้ามาใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เคยมีผลงานเป็น อดีตรมช.คลัง,อดีตรมว.พลังงาน มาก่อน เชื่อจะมาช่วยเสริมในเรื่องการค้าและเศรษฐกิจ เพราะรอบปีที่ผ่านมาเป็น บทเรียนล้ำค่าพรรคเพื่อไทย นายกฯ เศรษฐายังไม่ทันจะขับเคลื่อนโชว์ผลงานต้องพลาดท่าตกเก้าอี้ด้วยฝีมือของบรรดานักร้อง
ท่ามกลางมรสุมปัญหาต่าง ๆ ที่ยังคงอยู่รอการแก้ไข หนำซ้ำยังมี ปัญหาเฉพาะหน้า เกิดขึ้นตลอด ยิ่งเดือน ก.ย.-ต.ค.ทุกปี หนีไม่พ้นปัญหาภัยธรรมชาติน้ำท่วมพายุถล่ม ตอนนี้ นายกฯ แพทองธาร และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ดูแลกรมชลประทาน ต่างก็มือใหม่ป้ายแดง สถานการณ์มวลน้ำเหนือ กำลังไหลหลากลงมาภาคกลาง ปลายเดือน ก.ย. ยังเฝ้าลุ้นจะมี พายุอีกกี่ลูก ถาโถมเข้ามาอีก
การรับมือแก้ปัญหาต้องรอบคอบรัดกุมมองข้ามกันไม่ได้ เดี๋ยวจะแปรเปลี่ยนเป็น ตำบลกระสุนตก แค่ไปหยิบยก เขื่อนแก่งเสือเต้น นำมาพูดไม่ทันไรกระทบความรู้สึกคนในพื้นที่ จู่ๆชาวบ้านรวมตัว ถึงขั้น ทำพิธีสาปแช่งเผาพริกเผาเกลือ เผาโลง 3 นักการเมือง ที่ออกมาหนุนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ยังไม่ทันทำงานเป็นทางการงานเข้าซะแล้ว
หรืออีกปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ ธานี การสั่งปิดศูนย์เรียนรู้เมียนมา (มิตตาเย๊ะ เมียนมา) หลังจากมี ไวรัลคลิปวิดีโอ นักเรียนชาวเมียนมา นับพันเข้าแถวเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติไทย ตามด้วยเพลงชาติเมียนมา ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องรีบไปตรวจสอบ ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ มีนักเรียนชาวเมียนมามากถึง 1,200 คน จัดการศึกษา ระดับอนุบาล และระดับ Grade 1- 10 รวม 21 ห้องเรียน มีผู้สอน 30 คน (ชาวเมียนมา 24 คน ชาวไทย 6 คน) ใช้หลักสูตรการเรียนของเมียนมา แต่เพิ่มวิชาภาษาไทย ถ้าเรียนจบมีหนังสือรับรองความรู้แต่ละระดับชั้น ไว้นำไปเป็นหลักฐานใช้สอบเทียบความรู้กับเขตพื้นที่การศึกษาของเมียนมา หากสอบผ่านจะได้รับวุฒิการศึกษาเมียนมา
แต่เมื่อพบว่า ศูนย์ฯ ดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายไทย จัดตั้งโรงเรียนไม่ได้รับใบอนุญาต แม้กระทั่ง ครูผู้สอน ชาวเมียนมา ก็ไม่มีใบอนุญาต ตอนนี้จึงมีคำสั่งปิด พร้อมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง ส่วนกลุ่มนักเรียน ทางศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ฯ ยืนยันผู้ปกครองสามารถนำลูกหลานมาเข้าเรียนตาม โรงเรียนสังกัด สพฐ., สังกัดกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโรงเรียนเอกชน ได้ตามขั้นตอน ปัจจุบันในหลายจังหวัดก็มีบรรดาลูกหลานแรงงานข้ามชาติเข้ามาเรียน
นับเป็นอีกปัญหาเฉพาะหน้าที่โผล่เข้ามาแบบเหนือความคาดหมายอีกเรื่อง จนทำให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยเรื่องนี้ จี้ให้รัฐบาลเร่งทบทวน นายกฯ แพทองธาร และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน คงต้องลงไปดูปัญหาใกล้ชิดเป็นพิเศษ
เชื่อว่ายังมี “ศูนย์เรียนรู้เด็กข้ามชาติ” ลักษณะนี้ อีกหลายแห่งทั่วประเทศ แม้จะโยงใยหลายมิติ ทั้งด้านการศึกษา แรงงาน ความมั่นคง รวมไปถึงสิทธิมนุษยชน เหนือสิ่งอื่นใดต้องจัดระเบียบให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายไทยเช่นกัน!!.
………………………………………
เชิงผา