มีพะยูนเสียชีวิตต่อเนื่อง และพบว่ามีพะยูนถูกฆ่าเพื่อเอาเขี้ยวติดต่อกันแล้วถึง 2ตัว โดยที่สันนิษฐานเช่นนี้เนื่องจากพะยูนที่เสียชีวิตนั้นมีแค่ตัวแต่ส่วนหัวหาย”เนื้อความดังกล่าวข้างต้นเป็นหลักใหญ่ใจความจากข้อมูลที่น่าตกใจ ที่ทาง ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ระบุไว้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังพบ “พะยูน” เสียชีวิตในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในสภาพที่ “มีแค่ตัวหัวหาย” ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลท่านดังกล่าวระงับอารมณ์ไม่ไหว ประณาม “มือชั่วตัดหัวพะยูน” หลังมีการตั้งข้อสังเกตว่า พะยูนเสียชีวิตเพราะถูกฆ่า” และถ้าใช่ การฆ่าลักษณะนี้…

น่าจะ “มีใบสั่งจากกลุ่มคลั่งของขลัง?

เพื่อ “เอาเขี้ยวพะยูนไปทำเครื่องราง”

ทั้งนี้ ไม่ว่าการเสียชีวิตของพะยูนกรณีดังกล่าวข้างต้นจะเป็นไปตามที่มีการสันนิษฐานหรือไม่…ที่แน่ ๆ “ความเชื่อที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็มีคนหลงเชื่อ!!อย่างการ “ใช้เขี้ยวพะยูนทำเป็นเครื่องรางของขลังได้??”นี่มีอยู่จริง… และนอกจากพะยูนแล้วก็ยังมี “ความเชื่อชวนอึ้ง” กรณีอื่น ๆ อีก ซึ่งก่อนหน้านี้ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ทางวัดแห่งหนึ่งออกมาเผยว่า… ตะแกรงเหล็กสำหรับใช้เผาศพผู้เสียชีวิตบนเมรุถูกขโมย” และก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยไว้ว่า…หากไม่ได้เป็นฝีมือขี้ยาที่มาขโมยไปขายเนื่องจากช่วงนี้เหล็กราคาดี ก็อาจ “ถูกขโมยไปทำของขลังตามความเชื่อ” โดยที่ “ความเชื่อที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็ดันมีคนหลงเชื่อ!!นั้น…กรณี“สิ่งของเกี่ยวกับศพคนตายมีฤทธิ์ขลัง??นี่ก็เป็นอีกความเชื่อเครื่องรางของขลังที่มีอยู่จริงเช่นกัน

ในสังคมไทย“ความเชื่อแบบนี้ยังมีอยู่”

ยังมีคนเชื่อ “แม้ไทยเป็นยุคดิจิทัลแล้ว”

ในเมืองไทยข่าวคราวเรื่องราวชวนอึ้งทำนองนี้มีมานานนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ซึ่งกรณี “ชิ้นส่วนสัตว์” และรวมถึง “สิ่งของเกี่ยวกับศพ” นั้น…ความเชื่อเชิงขลังน่าจะเลือนหายไปก่อนกรณีอื่น ๆ…แต่ก็กลับยังมีอยู่ อย่างการ “เชื่อแบบที่เกี่ยวข้องกับศพเกี่ยวกับคนตาย” นั้น ในมุมความเชื่อกรณีนี้ก็มีการ “เชื่อสิ่งของต่าง ๆ หลากหลาย” ที่ไม่น่าเชื่อ…ก็ยังเชื่อ

ความเชื่อในแบบที่เกี่ยวข้องกับศพ-เกี่ยวกับคนตาย ความเชื่อ “ของขลังจากผี” ในไทยยังมีกระแสชวนอึ้งอยู่เนือง ๆ อาทิ “เชือกจากศพ” ที่ถูกมองเป็น “เครื่องรางชนิดหนึ่ง??” โดยมีทั้ง “เชือกที่ทำจากผ้าดิบห่อหุ้มศพ” หรือไม่ก็อาจมาจาก “เชือกมัดตราสัง” หรือสายสิญจน์ที่ใช้ในพิธีศพตามคติความเชื่อในการทำพิธี โดยของที่เชื่อว่าขลังประเภทนี้ มีทั้งความเชื่อในเรื่อง “เมตตามหานิยม??” รวมไปจนถึงความเชื่อเรื่อง “ให้โชค?-ให้ลาภ?” ที่ปัจจุบันก็ยังมีคนที่เชื่อเรื่องนี้ไม่น้อย…

และจากเรื่องราว “ของขลังเครื่องราง” ที่ผสมปนเปเรื่อง “ไสยศาสตร์” นี้เอง…ทำให้ในแต่ละปี“มีเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจความเชื่อธุรกิจของขลังจำนวนมหาศาล”และถึงยุคออนไลน์…ไม่นานมานี้ก็เคยมีกระแสครึกโครมในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการ “เปิดช่องทางออนไลน์ค้าขายชิ้นส่วนจากศพ?-อวัยวะจากศพ?” โดยมีการเน้นย้ำถึง “ความขลัง??” เพื่อดึงดูดความสนใจของคนที่เชื่อถือเรื่องแบบนี้ เพื่อทำให้ผู้จะซื้อเกิดความรู้สึกเชื่อมั่น …นี่ก็เป็นอีกกรณีชวนอึ้ง!!

ฉายภาพ “การเชื่อของขลังฝังรากลึก”

จน “ทำให้มีธุรกิจมนต์ดำไสยศาสตร์”

อย่างไรก็ตาม กรณี “ของขลังจากศพ??” นี่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ขอพลิกแฟ้มแจงข้อมูล “กฎหมาย” ย้ำไว้…หากใครอุตริ หรือใครเชื่อจน “กระทำกับศพ”ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมีโทษทั้งจำคุก-ทั้งปรับ!! กล่าวคือ… ความผิดฐานทำให้ศพเสียหาย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท, ความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศพ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท และที่ขอเน้นย้ำไว้ด้วยคือ…ยังมี ความผิดฐานกระทำอนาจารแก่ศพ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท รวมถึงความผิดฐานกระทำชำเราศพ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท

ส่วนการ ประกาศออนไลน์ขายสิ่งของชิ้นส่วนจากศพ การกระทำนี้ก็ มีความผิด รวมถึงเข้าข่ายบางมาตราของ ...ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษสูงถึงขั้นจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ-ทั้งปรับ …ขณะที่กรณี “ของขลังจากชิ้นส่วนสัตว์??” รวมถึง “พะยูน” นั้น ก็ มีกฎหมายเอาผิด และมีโทษหนัก!!เช่นกัน

ทั้งนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ขอปิดท้ายโดยพลิกแฟ้มข้อมูล “เตือนสติ”จากทาง พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งท่านระบุไว้สรุปได้ว่า… เหตุที่ไสยศาสตร์ยังเฟื่องฟูอยู่ได้ในยุคที่เจริญเช่นนี้ เพราะความเข้าใจหลักธรรมะของผู้คนมีไม่เพียงพอนั่นเอง จึงหลงเข้าหาคนหวังประโยชน์ที่พูดจาชักจูงโน้มน้าวเก่ง ซึ่งนี่ก็รวมไปถึง หลงกับความเชื่อต่าง ๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้ซึ่งถ้าเข้าใจหลักธรรมะได้ลึกซึ้งพอ ก็คงจะไม่ต้องหลงไปหวังพึ่งพิงพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ …นี่เป็นการเตือนสติ “ผู้ที่เชื่อ”เรื่องแบบนี้…ที่เชื่อแล้วจ่ายเงินเพื่อให้ได้มาก็เท่ากับเป็น “ผู้สนับสนุนการกระทำผิด”

ความเชื่อไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องเชื่ออย่างมีหลัก ไม่ให้เป็นความงมงาย การที่สังคมมีความเชื่องมงายมากล้นจนเกินไป ย่อมไม่ใช่เรื่องดี และยิ่งอันตรายถ้าเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยน” …ทาง พระพยอม ท่านย้ำเตือนไว้

เชื่อขลัง” ที่ “เป็นเหตุให้สัตว์ต้องตาย”

หรือ “แม้แต่คนตายก็ต้องเดือดร้อน”

บาปเห็น ๆ” นี่ “จะขลังได้เช่นไร??”.

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์