เวียนมาบรรจบครบอีกปีแล้ว สำหรับการสิ้นสุดปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่ 2568 โดยปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่วงการบันเทิงไทยได้เติบโตและเห็นโอกาสหลายๆด้านที่เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นของอุตสาหกรรมนี้ และบอกเลยว่าปีหน้า 68 นั้นเป็นปีที่เข้มข้นและเป็นการพิสูจน์ฝีมือของคนทำงานโดยแท้จริง

งานนี้ “น้องยิ้มแฟนพี่ยง” เหยี่ยวข่าวสาวคนพิเศษได้มาประจำการเช่นเคย และไม่พลาดชวนวิเคราะห์แกะเกาวงการบันเทิงปี 68 กัน

ศึกหนักของ T-POP ที่ต้องฮึดสู้ K-POP ในใจแฟนๆ

เริ่มเลยดีกว่ากับวงการเพลง ที่บอกเลยว่าปีนี้ T-POP ทำได้ดีมากๆนะคะ เพราะปี 67 ที่ผ่านมามีหลายต่อหลายวงหรือนักร้องเดี่ยวในวงการทีป๊อบเกิดขึ้นมากมายและก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว มีทั้งคนที่ดังต่อเนื่องมาและดังต่อในปี 67 และคนที่เพิ่งเกิดใหม่ที่ฉายแววว่าปี 68 จะดังขึ้นอีก แต่อย่างที่บอก ถ้ามองภาพรวมวงการปี 68 นั้นเพลงไทยหรือ ทีป๊อบก็จะมีสีสันมีนักร้องเดี่ยวและกลุ่มเกิดใหม่แบบเพียบๆ แต่จะดังตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าก็ต้องรอดู

แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิเคราะห์และอิชั้นเองเห็นและแนวโน้มเป็นไปอย่างแน่นอนนั่นก็คือ K-POP หรือเพลงเกาหลี จากความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเขาก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในไทย ไม่ว่าจะเคป๊อบเกิดใหม่หรือเคป๊อบที่ดังอยู่แล้ว และแยกยูนิต แยกเมมเบอร์มาขายแฟนมีตติ้งที่ไทยก็มากันให้ชมตั้งแต่เสาร์แรกๆของต้นปี เรียกว่าไม่ต้องพักกันเลย นี่ไม่รวมงานประกาศรางวัลเกาหลีนะที่แว่วว่าปี 68 จะทยอยเริ่มขยายความนิยมมาทางไทยและอาจจะใช้ไทยเป็นโลเคชั่นในการจัดด้วย ซึ่งเป้าหมายก็คือแฟนๆที่เหนียวแน่นที่หลงรักวงการเคป๊อบนั่นเอง ซึ่งส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ ถ้าถามว่าทีป๊อบเราจะสู้เขาได้ไหม ก็บอกเลยว่ายาก อาจจะแบ่งความนิยมมาเป็นศิลปินไทยบ้าง แต่อาจจะได้ประมาณ 20% ของคนที่รักเคป๊อบอยู่แล้ว ดังนั้นจึงฟันธงไม่ยากว่าปี 68 เคป๊อบก็ยังคงครองความนิยมในเพลง และในความรู้สึกของแฟนๆชาวไทยอยู่นั่นเอง แต่ถ้ามองในมุมศิลปินเกิดใหม่ประดับวงการเชื่อว่าแฟนๆก็กำไรอีกจ๊ะ เพราะทีป๊อบลงชื่อรอโปรโมทเพลงใหม่ตั้งแต่ต้นปีและรอเดบิวต์เป็นศิลปินให้อิชั้นดันประดับวงการอีกเพียบๆ รอชมได้เลย

หนังไทย แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่วัดฝีมือคนสร้างสรรค์

เชื่อว่าปี 68 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่วงการภาพยนตร์หรือหนังไทยตื่นตัวมากขึ้น และจะมีคนทำหนังไทยออกมาสู่ตลาดมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการประสบความสำเร็จอย่างสูงของหนังไทยอย่าง “หลานม่า” และ “ธี่หยด” ที่บอกเลยว่ากระชากใจคนไทยและต่างชาติได้อย่างมากมาย แถมรัฐบาลยังบอกด้วยว่าจะสนับสนุนผลงานจากอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้กลายเป็น SOFT POWER แบบที่เกาหลีเคยทำได้มาแล้ว งานนี้พอรัฐเปิดปมการซัพพอร์ตก็เป็นหมุดหมายอันดีที่คนในวงการบันเทิงจะออกมาประชันความปังกันด้วยการสร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมา

โดยเฉพาะวงการหนังที่บอกเลยว่าปี 67 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของวงการหนังที่หนังไทยประสบความสำเร็จในระดับที่ดีมากๆเกือบทั้งหมดตั้งแต่ช่วงกลางปีมา ทำให้ปลายปี 67 หนังไทยเข้าโรงจำนวนมากและทำรายได้ได้ดี จนหลายคนปลื้มใจ ซึ่งปี 68 นั้นบอกเลยว่าวงการหนังไทยเข้มข้นกว่าเดิมเพราะจะมีหนังไทยออกมาสู่ตลอดมากขึ้น เป็นเท่าตัวและหนังที่เคยประสบความสำเร็จจะมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ ทำให้คนที่เป็นแฟนหนังนั้นๆแฮปปี้แน่นอน ในขณะที่ถามว่าหนังฝรั่งนั้นจะเข้าไทยเยอะไหม ก็ตอบเลยว่าเยอะ และก็ยังคงทำรายได้ ได้ดีเหมือนเดิม เพราะหนังต่างชาติทุนสูง ยังคงมีไทยเป็นโลเคชั่นสำคัญที่พร้อมส่งมาขายในไทยอยู่ดี ซึ่งใครที่คิดว่าเจ๋งมากๆกับผลงานก็ปักหมุดกันไว้แล้วว่าจะไม่มีทางปล่อยหนังออกมาชนหนังฝรั่งช่วงต้นปีถึงกลางปีแน่นอน เพราะถือเป็นความเสี่ยงสูง แต่มองไปมองมา คนรักหนังก็ได้กำไรแหละ เพราะปีหน้าจะมีหนังไทยและเทศออกมาชนโรงให้เห็นกันแบบเพียบๆ ได้ดูกันอย่างชุ่มปอดไปเลยจ้า

ละครไทย ปีแห่งความซบเซาที่หันไปทางไหนก็เน้นแต่รีรัน

แม้ปากวงการบันเทิงหรือดารา ผู้จัด ผู้กำกับหลายคนจะบอกว่าปี 68 วงการละครไทยจะเติบโต ไม่ซบเซาแล้ว แต่ก็เลี่ยงไม่ได้นะจ๊ะ เพราะรายชื่อละครใหม่แกะกล่องที่อิชั้นได้รับกับรายชื่อของละครรีรันที่ส่งมาให้อิชั้นช่วยโปรโมทช่วงสวนทางกันสิ้นดี เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าปี 68 ละครไทยจะยังคงซบเซาต่อเนื่อง เพราะด้วยงบประมาณของช่องต่างๆที่หดหายไป การเซฟค่าใช้จ่ายในแต่ละช่อง และละครแต่ละเรื่องจะมาใช้งบเปลืองๆมันไม่ได้แล้ว ซึ่งช่องแต่ละช่องก็ไม่อยากเสี่ยง เลยขอใช้ดาราเก่า ดาราในสังกัดและดันผู้กำกับหรือผู้จัดที่คาดว่าจะทำกระแสและหาโฆษณาจากละครได้ ให้ผลิตงานเท่านั้น ส่วนคนเก่าคนแก่ ผู้จัดเก่าๆหรือทำงานคุณภาพก็ขอพักไว้ก่อน ถ้ามีงบหรือหางบมาเองได้ ช่องก็พร้อมสนับสนุน แต่ถ้าไม่ ก็คงต้องบอกว่ารอปีต่อไปแล้วกัน เพราะช่องหลักๆก็เลือกทำงานออกมาทีละชิ้นสองชิ้นและลองตลาดดูว่าอันไหนเวิร์กไม่เวิร์ก ถ้ากระแสไม่ดีก็ขอพัก และไปให้คนอื่นทำก่อน ซึ่งระหว่างพักก็เอาละครเก่ามารีรันไปก่อน ซึ่งแน่นอนปี 68 จะเห็นละครเก่าๆทยอยออกมาให้ชมกันอีก อ๋อที่สำคัญคือละครในปี 68 นั้นพลอตเรื่องต่างๆก็จะเน้นไปทางแซ่บๆ ตบตีกัน นางเอกฉลาดแล้วไม่โง่ ต่อสู่คน ด่ากันพริกยกสวนเพื่อให้เป็นไวรัลเยอะขึ้น

ละครที่นางเอกเรียกน้ำตา ฉลาดน้อยก็คงมีแต่ละครรีรันที่กระแสก็พอได้เท่านั้น แต่เชื่อเถอะละครจะแซ่บกว่าเก่าเพราะคนดูชอบอะไรที่ดูเผ็ดๆ สะใจ ดังนั้นผู้จัดละครที่เก่งการสร้างกระแสจะได้เปรียบไปเลย ส่วนละครทิศทางก็มีพีเรียดด้วยที่หลายค่าย หลายช่องวิ่งหากระทรวงวัฒนธรรมกันยกใหญ่เพื่อของบ เพราะรัฐบาลอยากออกปากเองว่าจะสนับสนุน SOFT POWER นิน่า คนทำงานในวงการบันเทิงเลยจัดให้ ผุดไอเดียทำละครย้อนยุค ใส่ชุดไทย พีเรียดกันเพียบๆ ซึ่งยิ่งทำ มันก็ยิ่งล้น ไม่รู้จะเป็น SPFT POWER ได้ยังไง หากมีแต่คนใส่ชุดไทยแล้วเดินวนไปมา เนื้อหาซ้ำๆเรื่องก่อนที่ประสบความสำเร็จกันไปแล้ว แต่ก็นะ แล้วแต่ลองทำออกมาดูก่อน เผื่อฟลุ๊คกระแสดี ก็ถือว่ากำไรแล้วกัน หุหุ

ซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริ(เกิร์ลเลิฟ)แน่นหน้าจอ รอดไม่รอดเป็นอีกเรื่อง

ในส่วนซีรีส์ปี 68 ก็บอกเลยว่าดุเดือดไม่แพ้กัน เพราะจะมีซีรีส์วายที่วายจริงและวายไม่จริงออกมาเพื่อเอาใจแฟนๆกันแน่นขนัด ซึ่งถามว่าดาราวายใหม่ๆได้แจ้งเกิดไหม ถ้าดูจากทำเนียบดาราที่ส่งมาแล้ว ก็บอกเลยว่ายาก อันจะมีหลุดออกมาให้ได้กรี๊ดกันไม่เกิน 10 คู่ใหม่ในปีหน้า แต่ดาราวายเก่าๆที่ดังอยู่แล้วที่ผลิตงานมาในปีหน้าก็ยังคงดังอยู่ และบอกเลยว่าค่ายดันไปต่างประเทศกันเพียบๆ เพราะรายได้ดีกว่า และขายความปังได้เยอะกว่าตลาดในไทยดังนั้นซีรีส์วายในไทย เนื้อหาก็ไม่ไปไหนไกลหรอก รักที่ทำงาน รักมหาลัยและรักที่โรงเรียนฟีลนี้ แต่ถ้าแซ่บแบบเอ็นซีไฟลุกก็โน้นไปเลย หลุดอวกาศไปเพราะแซ่บจนกองเซ็นเซอร์ต้องมาตรวจเอง แต่พวกนี้ก็ดังนะจ๊ะ ดังประเดี๋ยวหนึ่ง พอดังมากๆ ก็แยกย้ายคู่ตัวเองแล้ว จากนั้นก็ไปหาทางตัวเอง ทำค่าย และดันตัวเองเป็นผู้จัด ไม่ก็หันมาร้องเพลง ก็กลับมาวงจรเดิมคือรอดาราใหม่และวนไปแบบนี้ เชื่ออิชั้นสิ

ส่วนฟีลหญิงรักหญิง อันนี้ปี 68 มาแรงแน่นอน และเชื่อว่ามีคู่จิ้นเกิดขึ้นอีกหลายคู่ เพราะซีรีส์แนวนี้กำลังได้รับความนิยม แต่ก็อย่างที่บอกไม่เกินสองปี ก็กลับไปซีรีส์วายดังกว่าอีก เพราะฐานหลักจริงๆแล้วคนดูซีรีส์วายย่อยง่ายกว่า อีกทั้งคู่จิ้นหญิงๆปี 68 ก็จะขยันเสิร์ฟความฟินให้เห็นเยอะขึ้น เอาเป็นว่าใครติดตามโซเชียลของดาราหญิงอยู่ พอมีกระแสจะเล่นยูริหรือเกิร์ลเลิฟก็พากันมีโมเมนต์กันเพียบๆ ลองดูนะ เพราะแต่งโมเมนต์กันเยอะอยู่ ดังนั้นคู่จิ้นหญิงๆมีเยอะแน่นอน แต่คู่ที่รอดก็บอกเลยว่าต้องรอดไปขายต่างประเทศ ขายในไทยยังยากอยู่ เพราะคู่แรกๆหญิงๆเขาฐานแน่น ยังไงก็เปลี่ยนยาก สู้จิ้นแรงๆแล้วไปขายต่างประเทศดีกว่า พอดังกลับมาไทยก็ยังขายได้ วิธีนี้คนบันเทิงทำบ่อย ลองสังเกตดูจ๊ะ

อีเวนท์คนบันเทิง เยอะยิ่งกว่ายุงในคืนฝนตก

ส่วนทิศทางวงการบันเทิงปี 68 เรื่องอีเวนท์ที่รวมทั้งแฟนมีตติ้ง แฟนไซน์ แฟนคอน หรือคอนเสิร์ต บอกเลยไม่ต้องพัก เพราะมีกันตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี 68 ไปเลย นี่รวมทั้ง K-POP , T-POP ไปจนถึงฮอลีวูดหรือ ศิลปินต่างชาติเลยที่รวมไปรวมมาแล้วก็บอกเลยว่ามีอีเวนท์ทุกอาทิตย์ ไม่รวมงานต่างๆแบรนด์ต่างๆที่คนบันเทิงไปโผล่นะ เพียบแน่นอนเพราะงานละครหรืองานแสดงมันใช้เวลานาน อีเวนท์นี่แหละที่เป็นอาหารอันโอชะของดารานักร้องนักแสดงที่ปี 68 จะได้เห็นกันอย่างถล่มทลาย ซึ่งใครเป็นแฟนคลับของใครอันนี้อิชั้นเตือนไว้ล่วงหน้าเลย เตรียมทำโอทีและงานพิเศษไว้ได้เลย เพราะใครเป็นสายโดนตกหัวใจง่ายจะใจอ่อนทันที เพราะฝั่งเกาหลี ก็มา ฝั่งไทยก็มี ฝั่งฝรั่งก็มาอีก ไหนจะฝั่งจีนที่หลายคนบ่นหนักมากว่า กำแพงเมืองจีนมันน่าปีนไปหาเหลือเกิน หล่อ เท่ สวยและเริ่ดที่สุด แบบนี้ไม่รักยังไงไหวอีก เรียกว่าใครเป็นทาสหัวใจได้ง่ายต้องทำงานล่วงหน้าไปได้เลย เพราะอีเวนท์เพียบ ดังนั้นที่อยากเตือนปีหน้าสำหรับแฟนๆอิชั้นคงเตือนแค่เรื่องทำหัวใจให้แข็งแรงนะคะ เพราะปี 68 คนบันเทิงจะขอบุกหัวใจแฟนๆทุกแพลตฟอร์มแน่นอน เชื่อว่าไม่โดนเกี่ยวหัวใจให้เป็นแฟนคลับก็ต้องมีคอนเสิร์ตเพลงเพราะที่อยากไปแน่นอน

แล้วพบกันใหม่ วันนี้เหยี่ยวข่าวคนสวยไปแล้วจ๊ะ บัยบาย มีความสุขรับปีใหม่นะคะ จุ๊บุจุ๊บุ

ทีมข่าวบันเทิง