พรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน ในปัจจุบัน) มีนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้งสส.ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 66 ว่าต้องทำ “กาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล” และ “กาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล”
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 คณะรัฐมนตรีรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีมติเห็นชอบหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
จากนั้นมีการส่งร่างฯดังกล่าวไปให้สำนักงานกฤษฎีกา ตรวจสอบรายละเอียด-ถ้อยคำในประเด็นต่างๆ ให้เรียบร้อยถูกต้อง ก่อนจัดส่งให้ “สภาผู้แทนราษฎร” พิจารณาเป็นลำดับต่อไป
“พยัคฆ์น้อย” ติดตามเรื่อง “กาสิโน–บ่อนการพนัน–ธุรกิจใต้ดิน” ตามที่มีนักวิชาการ–นักวิจัย ได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล แล้วเอามาพูดในที่สาธารณะ เป็นเวลา 20-30 ปี แต่แล้วก็ “วนอยู่ในอ่าง” เพราะมีแต่ข้อมูลวิชาการ ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เรียกว่าพูดกันไปเรื่อยเปื่อย โดยที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่สิงคโปร์ มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชา มีกาสิโน-บ่อนการพนัน ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดนทางด้าน จ.สระแก้ว-จันทบุรี-สุรินทร์-เชียงราย-ตาก-ระนอง น่าจะดูดเงินจากคนไทยไปแล้วหลายแสนล้านบาท
วันนี้รัฐบาลไทยไม่ได้คิดทำ “บ่อนการพนัน” แต่จะทำ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ขึ้นมารองรับการท่องเที่ยว รองรับการประชุมนานาชาติ และการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก
โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200-300 ไร่ เงินลงทุนเหยียบแสนล้านบาท เพราะจะมีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ–บาร์ ศูนย์ประชุม โรงละคร สนามกีฬา สวนสนุก พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้าโอทอป โดยกำหนดให้มี “กาสิโน” ประมาณ 10% ของพื้นที่เท่านั้น
ส่วนทำเลที่เล็ง ๆ กันไว้ คือ ภูเก็ต กรุงเทพฯ ชลบุรี และเชียงใหม่ น่าจะเหมาะสมกับการลงทุนโครงการระดับแสนล้านบาทมากที่สุด
แต่กว่า “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จะเกิดขึ้นได้! ต้องรอให้กฎหมายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก “สมาชิกรัฐสภา” ซึ่งประกอบด้วย สส. และ สว. ก่อน!
โดยไม่ต้องไปเสียเวลา เสียงบประมาณไปทำ “ประชามติ” ตามที่มีบางคนเสนอแนะ เนื่องจากเป็นนโยบายการทำงานของรัฐบาล และเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจธรรมดา ๆ ทั่วไป
ส่วนตัวร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยังมีตรงไหนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง! ก็ต้องอาศัย “กระบวนการมีส่วนร่วม” ของสมาชิกรัฐสภา ทั้ง 700 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ช่วยกันชี้แนะ
กระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภา ย่อมดีกว่ากระบวนการนอกสภาอยู่แล้ว! และถ้ากฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา ก็ต้องปล่อยให้รัฐบาลลุย “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไป!!.
………………………………………….
พยัคฆ์น้อย