นับตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ปี 2325 จนถึงปี 2505 ไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง โดยครั้งที่ 14 ไทยเสีย “เขาพระวิหาร” ให้กับกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 05 พื้นที่ 2 ตร.กม. (1,250 ไร่) ตามคำพิพากษาของศาลโลก

นับตั้งแต่ 15 มิ.. 05 จนถึง 6 มิ.. 68 ไทยยังไม่ได้สูญเสียดินแดนให้กับประเทศไหนทั้งสิ้น หรืออาจจะมีการสูญเสียแผ่นดินไปบ้าง ก็มาจากสาเหตุพังทลายลงแม่น้ำทะเล ปีละพัน ๆ ไร่เหมือนกัน

ส่วนการยิงกับทหารกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ก่อน บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นการยิงปะทะกันของหน่วยทหารขนาดเล็ก (ระดับหมู่-หมวด) ขณะออกลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ จากสาเหตุความเข้าใจผิดอะไรกันบางอย่างเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงขั้นเป็น “สงครามเต็มรูปแบบ” ในระดับกองพัน-กองพล

พยัคฆ์น้อย” ฝากไปยังพวก IO คนปั่นข่าวสร้างความเกลียดชัง และ “ขบวนการเสี้ยม” ไว้ดังนี้ว่า

1.ปัญหาการเมืองภายในกัมพูชา จะรุนแรง-คลั่ง! จนต้องออกแอ็กชั่นกันขนาดไหน ก็ปล่อยเขาไป เขาอยากจะไปศาลโลก ก็ปล่อยให้เขาไปฝ่ายเดียว เนื่องจากไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลกตั้งแต่ปี 03 ในคดีใหม่ ส่วนการยื่นคำขอของกัมพูชาต่อศาลโลกในปี 56 ให้ตีความคดีปราสาทพระวิหาร ไม่ใช่การฟ้องคดีใหม่ แต่เป็นการตีความคดีเดิมที่ตัดสินไปแล้วเมื่อปี 05 สรุปว่า “ช่องบก” เป็นกรณีใหม่ ถ้าไทยไม่สมัครใจขึ้น ก็บังคับให้ไทยไปขึ้นศาลโลกไม่ได้

2.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 มีหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินที่เป็นอธิปไตยไทย ตามแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างไม่บกพร่อง ไม่ต้องรอคำสั่ง รมว.กลาโหม แต่เป็นหน้าที่เฉพาะพื้นที่ หรือระดับไมโคร

ส่วนรัฐบาลดูแลรับผิดชอบในระดับใหญ่กว่า มองภาพกว้างกว่า เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล ทางด้านเศรษฐกิจ การค้าขาย-ลงทุน-ท่องเที่ยว ชีวิตความเป็นอยู่ การไปมาหาสู่ของประชาชนชายแดน ไม่เฉพาะพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี (บุรีรัมย์-อุบลราชธานี) เท่านั้น

3.ในเมื่อไม่มีเหตุปะทะกันอีก ยังไม่มีการสู้รบกับกัมพูชา แล้วจะให้ “รัฐบาล” รีบสั่ง “ปิดด่าน” ทั้งด่านถาวร-ด่านชั่วคราว (จุดผ่อนปรน) ที่มีการค้าขาย และการข้ามแดนไปมา ทำซากอะไร?

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ทำหน้าที่รั้วของชาติตามปกติ เหลืออายุราชการอีกไม่กี่เดือน จะเกษียณในเดือนก.ย.68 รัฐบาลจะปลด พล.ท.บุญสิน ทำไม? ไม่มีเหตุผลเลย “ขบวนการเสี้ยม”

4.ถ้าสู้รบกัน คนที่เดือดร้อนคือชาวบ้านตามแนวชายแดน และครอบครัวทหารชั้นผู้น้อย ส่วนคนที่อยู่ห่างจากแนวชายแดน เกิน 30 กม. (ระยะยิงของปืนใหญ่) ไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเขาหรอก!

5.กัมพูชาออก “แอ็กชั่น” เคลื่อนย้ายอาวุธโชว์ก็ช่างเขา! เพราะทหารไทย (กองพลรบ) ก็เคลื่อนย้ายอาวุธเบา-หนัก เป็นปกติเหมือนกัน!

เช่น พล.ร.2 รอ. (กองกำลังบูรพา) ขนปืนใหญ่ รถถัง ไปฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ระยะทางห่างจากชายแดนกัมพูชาแค่ครึ่งชั่วโมง ในระดับ “กองพันผสม” ตามวงรอบปกติอยู่แล้ว! โดยไม่ต้องรอให้ผู้นำรัฐบาลสั่งการ แล้วทหารก็ไม่จำเป็นต้องรายงานให้ประชาชนทราบทุกเรื่อง!

สุดท้ายนี้ขอแนะนำ “นายกรัฐมนตรี-รมว.กลาโหม-ผบ.ทสส.-ผบ.ทบ.” นั่งกินข้าวหารือกัน เพื่อให้บางฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้น!!

………………………………………
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…