เรียกกระแสฮือฮามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับดารารุ่นใหญ่อย่าง “ดเวย์น จอห์นสัน” หรือ “เดอะร็อค” อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังที่หันมาเอาดีด้านการแสดงจนค่าตัวพุ่งสูง พร้อมๆ กับกลายเป็นขวัญใจมหาชน โดยล่าสุดมีข่าวคราวว่า “วินดี เซล” ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกลงอินสตาแกรมของตัวเองถึง “เดอะร็อค” ว่าเขาอยากให้อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังกลับมาร่วมแสดงในหนัง Fast & Furious 10 เพื่อปิดฉากหนังเรื่องนี้ให้สวยงามที่สุดตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับ “พอล วอล์คเกอร์” นักแสดงผู้ล่วงลับ อีกทั้ง “พี่วิน” ยังระบุด้วยว่า บทของเจ้าหน้าที่ “ลุค ฮ็อบส์” นั้นไม่มีใครมาเล่นแทน “เดอะร็อค” ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องติดตามต่อไปว่า ทั้งสองจะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ หลังจากที่ “เดอะร็อค” เคยยืนกรานว่าจะไม่กลับไปเล่นหนังกับ “พี่วิน” อีกแล้ว….

แต่ที่แน่ ๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางค่าย Netflix ได้นำเอา “Red Notice” ผลงานจากค่ายของตัวเองที่ลงทุนไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์ (ทุนสร้างมากที่สุดในค่าย) เพราะมีดาราแม่เหล็กอย่าง “กัล กาด็อท” และ “ไรอัน เรย์โนลส์” มาร่วมแสดง “เดอะร็อค” ด้วย ซึ่งแน่นอนว่ากลายเป็นหนังที่มีผู้ชมเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ฉายใน Netflix ยาวนานนับสัปดาห์ทั่วโลก

เรื่องย่อ
Red Notice แปลความหมายได้ว่า “หมายแดง” ซึ่งจะมีไว้กำกับบนแฟ้มของเหล่าอาชญากร ที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด จริง ๆ จะมองว่าเป็นหมายจับก็ไม่แปกอะไร เรื่องราวเล่าถึงการแข่งขันล่าสมบัติ 2 จอมโจรอย่าง “บิชอป” (รับบทโดย กัล กาด็อต) โนแลน บูธ (รับบทโดย ไรอัน เรย์โนลส์) เพื่อติดตามหา “ไข่ทองคำ” ที่ว่ากันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของพระนางคลีโอพัตรา 3 ฟอง โดย 2 ฟองแรก ถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี ส่วนฟองที่ 3 มีเพียง “โนแลน บูธ” หัวขโมยสุดเกรียนที่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ซึ่งหากใครก็ตามที่ค้นหาสมบัติทั้ง 3 เจอ แล้วนำมันมาให้ทันงานแต่งงานลูกสาวของเศรษฐีนักธุรกิจชาวอินเดียแล้วละก็ จะได้รับเงินจำนวนมหาศาล

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังชิงไหวชิงพริบตามล่าไข่ทองคำ “จอห์น ฮาร์ทลีย์” (ดเวย์น จอห์นสัน) นักวิเคราะห์อาชญากรรมจากเอฟบีไอ ก็ได้โดดมาเข้าตามล่า “โนแลน บูธ” เพราะเขาชอบขโมยงานศิลป์ แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งสองต้องมาช่วยเหลือกันเพราะโดนสาว “บิชอป” กลั่นแกล้งปั่นหัว จนทำให้ตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) อย่าง สารวัตร “เออร์วาชี แดช” (รับบทโดย ริทู อาเรีย นักแสดงสาวชาวอินเดีย) สงสัยว่าเจ้าหน้าที่หนุ่มเอฟบีไอ น่าจะมีส่วนรู้เห็นในการโจรกรรมสมบัติด้วย จึงจับกุมตัวทั้งสองไปคุมขังไว้ในคุกด้วยกัน เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ใน Netflix เท่านั้น

จุดเด่นของ Red Notice
แม้เรื่องราวของ Red Notice จะดูคล้าย ๆ กับหนังในตำนานอย่าง “The Thomas Crown Affair” ซึ่งทางผู้กำกับอย่าง “รอว์สัน มาร์แชลล์ เธอร์เบอร์” เคยระบุว่านำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจก็ตาม แต่ก็ยังถือเป็นหนังสูตรสำเร็จ แอ๊คชั่นคอมเมดี้ เป๊ะ ไม่มีบทอะไรซับซ้อน จึงไม่น่าแปลกใจว่า นักวิจารณ์ในต่างประเทศให้คะแนนเรื่องนี้แบบธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ขณะที่ยอดคนดูพุ่งกระฉูดสวนทางกับความเห็น นั่นก็เป็นเพราะ การขายจุดแข็งจากบทการแสดง ของ 3 ตัวละครหลักนั่นเอง

“…..ลองคิดเล่น ๆ ว่า ถ้าหนังจับเอาบทของ “ไดอาน่า” ในวันเดอร์ วูแมน มาแสดงร่วมกับ “เวด วิลสัน” ในเดดพูล และ “ลุค ฮ็อบส์” จาก Fast & Furious มาลุยหาสมบัติด้วยกัน ถามว่าเคมีเข้ากันไหม….ไม่มีทางเข้ากันแน่นอน แต่เพราะบทที่จัดวางทำให้ดูต่อไปได้เรื่อย ๆ ประมาณ คนหนึ่งเจ้าเล่ห์แกมโกง อีกคนดูตรงไปตรงมา อีกคนพูดโผงผางเกรียน ๆ มันก็เลยเติมเต็มให้กันได้….”

ในส่วนของงานฝีมือโปรดักชั่นแบบฉบับ Netflix ที่เทียบชั้นกับหนังชนโรงได้สบาย ๆ ดูจากตัวอย่างหนังก็สุดอลังการแล้ว ระเบิดคุกกลางหุบเขาสูง ออกไปขับรถไล่ล่ากลางป่า ชิงไหวชิงพริบกันในงานเลี้ยงมาเฟีย แล้วทำออกมาให้คนดูลุ้นจนหลังไม่ติดเบาะ จะว่าไปถือเป็นหนังอีกเรื่องที่มีครบทุกรสชาติ เด็ก ๆ ดูได้ ไม่มีเลือดตกยางออกสยองขวัญ ฮากันทั้งบ้าน

จุดอ่อนของ Red Notice
ตัวหนังพยายามสร้างมุมมองของคู่หู “โจร-ตำรวจ” แต่กลับไปสร้างจุดหักมุมที่เดาทางได้ง่าย การส่งบทลักษณะคู่จิ้นแบบ แพนเซ็กชวล (Pansexual) โดยให้ “ไรอัน เรย์โนลส์” หยอดคำหวานใส่ “เดอะร็อค” บ่อย ๆ เหมือนพยายามจะเรียกเสียงฮือฮา แต่พอหยอดบ่อย ๆ ก็กลายเป็นมุกฝืดได้เช่นกัน ในส่วนของนักแสดงสาวชาวอินเดียอย่าง “ริทู อาเรีย” โดนบทบาทของ 3 นักแสดงหลักกลบแทบทุกซีน เหมือนจับเอาเธอมาเดินโฉบไป-มา จะได้ให้เห็นหน้าก็ตอนตำรวจมาแล้ว!! กลายเป็นตัวประกอบไปอย่างน่าเสียดาย..

4/5 กะโหลก เป็นหนังแอ๊คชั่นตลกเกรียนๆ พล็อตเรื่องเกี่ยวกับการโจรกรรม เล่าออกมาได้อย่างน่าสนใจ ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ของหนังได้ง่าย เด็ก-ผู้ใหญ่ดูกันเพลิน ๆ ไม่มีพิษภัย

—————————————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Netflix