วันพุธที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกกรณี “2 กุมาร” นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน ได้เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทยอย่างเป็นทางการ แต่ไม่มี “เฮียกวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาร่วมด้วย

แต่ข่าวแจ้งว่านายสมคิดคงจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ขณะที่นายสนธิรัตน์รีบย้ำจุดยืนว่า ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค

“พยัคฆ์น้อย” ฟังผู้ใหญ่หลายคนที่ถูกทาบทามให้เข้าร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ว่าเหตุผลที่ตัดสินใจไม่ไปร่วมงานด้วย เพราะท่าทีการเก็บตัวเงียบแบบผิดปกติของ “เฮียกวง”

ลำพังนายอุตตมและนายสนธิรัตน์จะมี “จุดขาย” อะไรเล่า? สมัยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้มีผลงานเข้าตา แถมยังช่วย พล.อ.ประยุทธ์ สร้างหนี้สินทิ้งให้ลูกหลานไทยไว้เพียบ รวมทั้งนโยบายพรรคพลังประชารัฐที่เขียนไว้เลิศหรูสมัยนายอุตตมเป็นหัวหน้าพรรค ยังทำไม่ได้ซักเรื่อง!

สุดท้ายแล้วพรรคนี้อาจจะเป็น “นั่งร้าน” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นแหละ! เพราะ “เฮียกวง” กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นข่าวใหญ่ พรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาฯ พรรค กับพวกอีก 21 คน ออกจากพรรคฐานสร้างความแตกแยก ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส กับพวกต้องหาพรรคใหม่ ซึ่งมีชื่อรังใหม่ออกมาบ้างว่าเป็นพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 11

ต้องคอยดูกันว่าเจ้าของคำพูด “ผมคือเส้นเลือดใหญ่ เลี้ยงหัวใจรัฐบาล ผมกุมความลับ ดีลต่อรอง หากล้มผมได้ รัฐบาลก็สั่นคลอน” จะพาพวกไปซุกรังไหน?

เมื่อพรรคพลังประชารัฐแตก! “พยัคฆ์น้อย” จึงมองว่าอายุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะสั้นลงอีก! ทั้งที่ใจจริงอยากให้กฎหมายลูกเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบผ่านสภาก่อน แต่เมื่อพรรคพลังประชารัฐเล่นกันแบบนี้ ก็ต้องบอกว่าเหนื่อย!

ขนาดยังไม่ขับ ร.อ.ธรรมนัส กับพวกออกจากพรรค การประชุมสภาก็ล่มซ้ำซากอยู่แล้ว เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล จะโทษใครไม่ได้เลย หรือถ้าจะโทษก็ต้องโทษรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางเกมมาตั้งแต่ต้น ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ต้องเป็นรัฐบาลผสมเกือบ 20 พรรคการเมือง

นอกจากเป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพแล้ว การบริหารจัดการของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็ล้มเหลวทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และความแตกแยกของคนไทยมากขึ้นกว่าอดีต

นับตั้งแต่รัฐประหารเรื่อยมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณแผ่นดินไป 25 ล้านล้านบาท กู้เงินกว่า 5 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะกว่า 9 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตคนไทยแย่ลงทุกวัน แถมหนี้ครัวเรือนปูดขึ้น 14.3 ล้านล้านบาท

ไหนจะปัญหา “ข้าวยาก หมากแพง” แพงทั้งแผ่นดิน คนไทยส่วนใหญ่เดือดร้อนกันทั่วหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไฟเขียวให้กองทัพอากาศซื้อเครื่องบินรบอีก 1.38 หมื่นล้านบาท

ประเทศไทยไม่สิ้นไร้คนมีความรู้ความสามารถหรอก! ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ อย่าผูกขาดความรักชาติไว้คนเดียว แล้วถ้ารักชาติจริง ๆ ไม่ต้อง “ลับ ลวง พราง” แต่ควร  “เสียสละ” ด้วยการยุบสภา หรือลาออกไปก่อนเดือน ส.ค. นี้ โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอนาคตของตัวเอง ไม่ต้องรออภินิหารทางกฎหมายอีก!!.

———————–
พยัคฆ์น้อย