เป็นอีกหนึ่งเมมเบอร์ของไอดอลกรุ๊ป BNK48 มาตั้งแต่รุ่นแรก สำหรับ น้ำหนึ่ง- มิลิน ดอกเทียน หรือ น้ำหนึ่ง BNK48 สาวสวยครบเครื่อง ที่ทำให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ มีรอยยิ้มและความสุขอยู่เสมอ สัปดาห์นี้คอลัมน์ “ดาวต่างมุม” เลยไม่พลาดขอคว้าตัวน้ำหนึ่งมาอัพเดทถึงผลงานล่าสุด รวมถึงพูดถึงมุมมองต่าง ๆ ที่เติบโตขึ้น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าสิ่งสำคัญคือการเป็นตัวเอง และกำลังใจจากแฟนคลับ ซึ่งเธออยากส่งพลังบวกนี้กลับไปให้ทุก ๆ คนเช่นกัน ต่อให้วันหนึ่งจะแยกย้ายกันไป หรือน้ำหนึ่งอาจจะไม่ได้เป็น BNK48 แล้วก็ตาม

ซิงเกิ้ล Sayonara Crawl ที่เพิ่งปล่อยมา กระแสเป็นยังไงบ้าง?

“แฟนคลับให้การตอบรับดีค่ะ ด้วยความที่เมมเบอร์ในเพลงนี้เยอะด้วย เลยจะได้เห็นถึงความน่ารักสดใส มากับชุดที่เหมาะกับซัมเมอร์ แล้วในเอ็มวีก็มีชุดว่ายน้ำที่เซ็กซี่กรุบกริบ (ยิ้ม) ด้วยความเป็น BNK48 ที่ผ่านมา เราอาจจะมีชุดที่ไม่ได้วาบหวิวมาก แฟน ๆ เห็นแล้วก็ค่อนข้างว้าว เพราะเอ็มวีสวยมากด้วย เราไปถ่ายกันที่ทะเล โลเกชั่นก็สวยด้วย สำหรับเพลงนี้ น้ำหนึ่งเป็นเซ็มบัสซึ เวลาเราอัดเสียงคุณครูก็จะให้เราช่วยกันดีไซน์การร้อง แล้วค่อนข้างจะง่าย เพราะกลุ่มที่น้ำหนึ่งอยู่เป็นแก๊งชราไลน์ เลยไปด้วยกัน ไปได้ไกล (หัวเราะ) เป็นแก๊งเจ่เจ๊ แซ่บ ๆ อยู่กันมานานจนรู้ใจกัน”

เลือกตั้ง BNK48 งาน GE ครั้งที่ 3 ประกาศผลด่วน 24 ชม.แรกน้ำหนึ่ง ได้อันดับ 2 เลย?

“ส่วนตัวตอนแรกเราก็คิดว่าลงสมัครไปก่อน เราได้มาเป็น BNK48 ครั้งหนึ่งแล้ว ก็อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด และทำกิจกรรมร่วมกับวงด้วย พอเราได้เห็นแฟนคลับสนับสนุนเรา ก็อยากจะขอบคุณเขามากเลย เพราะทุกคนเต็มที่มาก ๆ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 หรือเศรษฐกิจต่าง ๆ อาจจะไม่ค่อยดี แต่เขาก็ร่วมด้วยช่วยกันจนบางครั้งเรานอนร้องไห้ เพราะซึ้งใจกับสิ่งที่เขาทำให้ ปีนี้เมมเบอร์แต่ละคนก็ได้ออกแบบโปสเตอร์กับคลิปวิดีโอโปรโมตของตัวเอง ซึ่งของน้ำหนึ่งปีนี้ขึ้นเขาไปถ่ายเลย เหมือน Easter Egg (อีสเตอร์ เอ้ก) ว่าเราจะปีนไปสู่ยอดเขา ก็คิดนานอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะแฟนคลับก็คาดหวังว่าจะต้องล้มปีที่แล้วนะ ซึ่งปีแรกน้ำหนึ่งมาในธีมนักรบบางระจันเลย”

BNK48 11th Single Handshake Event ใกล้ถึงแล้ว เตรียมตัวยังไงบ้าง?

“งานจับมือคงต้องรอดูตามสถานการณ์ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะคะ ก็คิดถึงแฟน ๆ ทุกคนมาก เพราะปกติเราจะเจอกันในงานจับมือทุก ๆ 2-3 เดือน จะรับรู้สารทุกข์สุกดิบของเขาว่าเจออะไรมาบ้าง หรือมีเรื่องราวอะไรน่ายินดีไหม ซึ่งเราอยากจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและอีกคนที่รับฟังเขาในทุก ๆ ช่วงเวลา อาจจะเป็นช่วงเวลาแค่แป๊บเดียว แต่เราส่งพลังให้กันได้ และเขาก็เป็นคนที่มาเติมพลังให้เราด้วยเหมือนกัน เหมือนเป็นการชาร์จแบตให้กันและกัน”

น้ำหนึ่ง เป็น BNK48 มาตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงวันนี้ครอบครัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกยังไงบ้าง?

“ตั้งแต่วันแรกที่เราได้เข้ามาเป็น BNK48 เราไม่รู้เลยว่าจะมีหนทางยังไง จะเดินไปในทิศทางไหน จน ณ วันนี้เรารู้สึกว่า BNK48 เดินทางมาไกลมาก ๆ ไม่ว่าจะด้านผลงานหรือสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้มีรุ่น 3 แล้ว และยังมี CGM48 อีก เรารู้สึกว่าบ้านที่เราอยู่ตั้งแต่วันแรกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเราก็เชื่อมั่นว่าจะคงอยู่ไปได้เรื่อย ๆ ถึงแม้วันหนึ่ง BNK48 จะไม่ได้มีน้ำหนึ่งแล้วก็ตาม”

เราได้เรียนรู้อะไรจากการเป็น BNK48 บ้าง ?

“จริง ๆ เหมือนเป็นปุ๋ยเร่งโต (หัวเราะ) ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างหลอมรวมให้เราเติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการที่เราต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น รวมไปถึงรับมือกับปัญหาที่เข้ามาบั่นทอนจิตใจ วันแรกที่เราเจอแล้วรับไม่ไหว เราร้องไห้กับมัน แต่พอวันนี้มองย้อนกลับไป เราก็ผ่านมาได้แล้ว รู้แล้วว่าจะจัดการกับสิ่งที่มาบั่นทอนเรายังไง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเก่งที่สุดนะคะ เพราะในแต่ละวันก็ยังมีปัญหาใหม่ ๆ ให้เราต้องก้าวข้ามไปเรื่อย ๆ”

เวลาท้อให้กำลังใจตัวเองยังไง ?

“เวลาท้อสิ่งแรกที่น้ำหนึ่งจะทำก็คือร้องไห้เลย จะไม่เก็บเอาไว้ เพราะบางทีการร้องไห้ก็ทำให้เราได้ผ่อนคลายอีกวิธีหนึ่งเหมือนกัน ก็ต้องขอบคุณคนรอบข้าง ครอบครัว ตัวเราเอง หรือแม้แต่ชาวี หมาของน้ำหนึ่ง ที่เป็นกำลังใจที่ดีของเรา รวมถึงเพื่อน ๆ ในวงที่บางทีเราไปเจออะไรที่ปวดหัว แต่พอเจอพวกเขาก็ทำให้เรื่องพวกนั้นกลายเป็นเรื่องตลก และสามารถก้าวข้ามไปได้ รวมไปถึงแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจเรา เป็นเพื่อนร่วมทางหลักของเราตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่ช่วยพยุงในวันที่เราคิดว่าจะไม่ไหวแล้ว เราเคยมีความคิดที่จะออกจากวงแล้วในช่วงแรก ๆ แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ได้ เพราะพวกเขายังสู้เพื่อเรา แล้วทำไมเราจะไม่สู้เพื่อตัวเอง”

ตอนนี้เรียนจบแล้ว แพลนอนาคตไว้ยังไงบ้าง?

“ตอนนี้น้ำหนึ่งอายุ 25 ปีแล้วค่ะ ยอมรับว่ามีการคิดถึงเรื่องอนาคตมากขึ้น แต่เราก็อยากจะทำงานในวงการบันเทิงต่อไปนี่แหละค่ะ อยากเป็นน้ำหนึ่งเวอร์ชั่นที่ทำได้หลาย ๆ อย่าง ทั้งร้อง เต้น หรือว่างานแสดง แต่ว่าเรื่องการต่อสัญญากับวงคงเป็นเรื่องของอนาคต เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพราะอายุเราก็เยอะแล้ว กระดูกกระเดี้ยว ปวดหลัง (หัวเราะ) ทุกวันนี้พบแพทย์แล้วนะคะ เพราะมีครั้งหนึ่งที่น้ำหนึ่งเต้นบนเธียเตอร์ ปวดหลังด้วย แล้วเข่าลั่น แล้วเวลาลุกนั่งเร็ว ๆ จะเจ็บเข่าแปลบ ๆ เวลาไปนวด หมอนวดจะถามว่า นี่หนูทำงานอะไรลูก หลังแข็งมาก เขาคิดว่าเราไปแบกหามแต่อาจจะเป็นพฤติกรรมการเต้นที่เราไม่ค่อยวอร์ม”

อยากให้น้ำหนึ่ง นิยามความเป็นตัวตนของตัวเองหน่อยว่าเป็นยังไง?

“ก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ (หัวเราะ) ช่วงแรก ๆ ด้วยความที่เราหน้าหวาน หน้าไทย และเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เป็นคนขี้เขิน พูดไม่เก่งเลย แล้วเราเข้ามาในวงที่มีความเป็นญี่ปุ่น ก็คิดว่าเราต้องน่ารักซิ แต่เวลาผ่านไปสักพัก เรารู้สึกว่า การที่เราไม่เป็นตัวเอง ไม่มีความสุขเลย และไม่สามารถส่งความสุขไปให้คนอื่นได้ เพราะข้างในเราไม่มีความสุข สุดท้ายเราเลยเป็นตัวของตัวเองในแบบที่มีความสุขที่สุด แล้วมันจะล้นออกมาเอง จริง ๆ น้ำหนึ่งไม่ใช่คนตลกนะ ไม่ใช่สายยิงมุก แต่คนจะบอกว่าเราเป็นคนตลกด้วยธรรมชาติการพูด อาจจะมีความสนุก มีความวาไรตี้ แต่หนูเป็นคนสวยนะคะ (หัวเราะ)”

มีคนไปตัดเป็นไวรัลในติ๊กต็อก ที่น้ำหนึ่งพูดว่า หนูก็คิดว่าหนูสวยนะคะ?

“ใช่ค่ะ แอบเห็นในติ๊กต็อกเหมือนกัน ก็เซอร์ไพร้ส์ไม่ได้คิดว่าจะมีใครเอาไปเล่นเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเขาเอาไปเล่นแล้วเรียกรอยยิ้มได้เราก็รู้สึกดีใจ และยิ่งดีใจขึ้นไปอีกถ้าสามารถเรียกความมั่นใจให้กับทุก ๆ คนด้วย จริง ๆ คลิปนั้นมาจากประเด็นดราม่าที่มีคนบอกว่าหนูไม่สวย ไม่เข้ากับความเป็น BNK48 น้ำหนึ่งเลยพูดไปว่า เขามาว่าหนูไม่สวยแบบนี้ แต่หนูก็คิดว่าหนูสวยนะคะ เขาก็ไม่ได้ตังค์เราไปทำหน้าเนอะ ไม่มีใครกำหนดกฎเกณฑ์ว่าแบบนี้คือสวย แบบนี้คือไม่สวย ทุกคนก็สวยในแบบของตัวเอง”

แฟน ๆ ตั้งฉายาให้เยอะมาก ชอบชื่อไหนที่สุดเพราะอะไร?

“จริง ๆ หนูชอบฉายา “คุณหมี” เพราะเป็นชื่อที่แฟน ๆ เรียกตอนนี้ เพราะเวลาน้ำหนึ่งยิ้มจะเป็นแก้มขีดเหมือนหมี แต่ละคนใน BNK48 ก็จะมีฉายาเป็นสัตว์ คุณอ๊บ คุณหมี คุณหมึก ฯลฯ ก็น่ารักดี เราใช้เป็นตัวแทนของเราตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ อีกอันที่ชอบคือ “นน (นอ-นอ)” เป็นตัวย่อที่มาจากคำว่า น้ำหนึ่ง แต่เราก็คิดว่าก็สองพยางค์เหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยก็จะเรียกแบบนี้ ส่วนฉายา “นางงามน้ำหนึ่ง-นางงามสิงห์บุรี” มาจากการที่เราชอบดูนางงาม เคยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนางงาม แต่ส่วนสูงไม่ถึง ตอนแรกที่เดบิวต์เป็น BNK48 เลยแนะนำตัวว่า “สวัสดีค่ะ น้ำหนึ่งสิงห์บุรี (เสียงสูง)” ตอนนั้น มิสแกรนด์ กำลังดัง หลังจากนั้นคนเลยจำเราได้ว่าบ้านอยู่สิงห์บุรี และอยากเป็นนางงาม รู้สึกว่าเป็นการคอมพลีทความฝันตัวเองเล็ก ๆ ถึงจะไม่ได้ไปประกวดเอง แต่ฉันได้พูดออกไมค์แล้ว”

ชอบนางงาม แต่ก็ชอบฟุตบอลด้วย จนได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด?

“คือน้ำหนึ่งเป็นคนชอบดูนางงาม แต่ก็เล่นกีฬา แล้วคุณพ่อชอบดูฟุตบอลด้วย เลยมีโอกาสได้ดูกับคุณพ่อ แล้วเชียร์ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนวันหนึ่งเรามาเป็น BNK48 เราก็พูดตามสื่อไปว่าเราเชียร์ทีมนี้นะ ซึ่งทางทีมเขาอาจจะไปเห็น เลยเชิญให้เราไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ 1 ปี ในตอนนั้น ก็ไม่คิดว่าเขาจะให้โอกาสเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเรา”

สุดท้ายอยากบอกอะไรแฟน ๆ ไหมที่ติดตามเรามาตลอด?

“สิ่งที่อยากจะพูดกับเขาทุก ๆ วัน คือขอบคุณที่เดินข้าง ๆ กันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ หรือวันนี้ใครที่อาจจะไม่ได้ติดตามเราแล้ว ก็อยากขอบคุณที่เคยเป็นส่วนหนึ่งที่เคยอยู่ข้าง ๆ เรา หรือใครที่เพิ่งมาติดตามก็เป็นส่วนสำคัญในอีกช่วงเวลาหนึ่ง ก็อยากจะขอบคุณมาก ๆ ที่คอยให้ความรัก คอยให้กำลังใจ คอยเป็นรอยยิ้มของน้ำหนึ่ง แล้วหวังว่าเราจะเป็นรอยยิ้มของกันและกันในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือไม่ดี อยากให้รู้ว่าน้ำหนึ่งจะอยู่ตรงนี้เสมอ ต่อให้วันหนึ่งเราจะแยกย้ายกัน น้ำหนึ่งอาจจะไม่ได้เป็น BNK48 แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในใจตลอดไป ชั่วนิรันดร์เลยก็ว่าได้”.

นฤมล แซ่แต้ : เรื่อง / สันติ มฤธนนท์ : ภาพ