2 ปีกว่า ๆ ก่อนโควิดระบาด “หน่อย” ผู้ห่วงใยบ้านเมืองเป็นคนกลางนัดคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีมานั่งกินข้าวกับพวกเราที่บ้านของพี่ที่เคารพแถวสุขุมวิท เพราะขณะนั้น ม็อบเยาวชนนักเรียน-นักศึกษา “ม็อบสามกีบ” ที่ชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์กำลังลุกฮือเป็นขบวนใหญ่เรียกร้องประชาธิปไตย

ในวงกินข้าว มีคำถามว่า ทำไมคนรุ่นใหม่ไม่รักชาติ เอาตรง ๆ ทำไม “ชังชาติ” มีใครอยู่เบื้องหลังชักจูงให้หลงผิด ไม่ระบุก็รู้ว่า หมายถึง “พรรคอนาคตใหม่” ที่เพิ่งถูกยุบทิ้งแบบไม่ไยดี กก.บริหารถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี (เหมือนตอนศาล รธน.ยุบพรรคไทยรักไทย แล้วเกิดคนเสื้อแดง)

จำได้ว่า มีการพูดคุยถึงวิถีคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะด้านอาชีพการงาน ที่อยู่อาศัย ความใฝ่ฝัน เป้าหมายชีวิต ความรู้สึกต่อสถาบันต่าง ๆ โดยเฉพาะ “โลกโซเชียล” ที่เปิดสมองเด็กยุคใหม่ให้เข้าไปค้นคว้าความรู้ได้ไม่สิ้นสุด (ตอนนั้น รมว.ดีอีเอส ชัยวัฒน์ ธนาคมานุสรณ์ ยังให้สัมภาษณ์ว่า มีการฝังชิพเพื่อล้างสมองเด็ก โอ้ พระเจ้า…) สถาบันต่าง ๆ ในโลกกำลังถูกบีบให้ปรับตัวรับเทคโนโลยีที่พลิกโฉมโลก แต่ รบ. 3ป. ยังบังคับเยาวชนไทยท่องจำ “ค่านิยม 12 ประการ” หน้าเสาธง

ราวกับอยู่คนละโลก ก็ไม่ปาน

สรุปการพูดคุยครั้งนั้นคงไม่ได้ผลอะไรเลย เพราะต่อมา มีการปราบปรามม็อบสามกีบอย่างรุนแรงที่แยกปทุมวัน มีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ผสมน้ำยาเคมีที่เป็นพิษต่อผิวหนัง ใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ฝูงชน ใช้กองกำลังตำรวจ ทหาร พร้อมโล่กระบองตะลุมบอน ทั้งที่เป็นการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ จนถูกประณามไปทั่วโลก

แล้วโควิดก็เข้ามา รบ. 3 ป. ฉวยโอกาสใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องมือจัดการม็อบ และคนคิดต่างอย่างแยบยล รุนแรง ใจดำ?!?

ที่พรรณนามาก็เพื่อย้อนกลับมาหาคนรุ่นใหม่ที่ผ่านการยืนท่อง “ค่านิยม 12 ประการ” มาแล้วอย่าง มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แร็พเปอร์สาววัย 19 ปี นักร้องไทยคนแรกที่ไปเปล่งประกายโชว์พลัง SOFT POWER กินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีดนตรีระดับโลก Coachella 2022 ที่สหรัฐ โดยค่ายเพลง 88 rising ที่ตั้งขึ้นโปรโมตศิลปินเอเชีย อันโด่งดัง พร้อมบทเพลงที่สะท้อนความคิดของคนรุ่นใหม่ เฉียบคม ตกผลึก ซื่อตรงต่อความคิดตัวเอง พวกเราอาจไม่แปลกใจ หากรู้ว่าเพราะเธอเคยเป็นประธานนักเรียน (ที่คงจะเคยเข้าร่วมการชุมนุม) มาแล้ว

“เราไม่ได้ขี่ช้าง รถไฟฟ้าก็มี รถใต้ดินก็มี เสากินรีต้นละแสน รถไฟสมัย ร.5 ใช้มา 120 ปี ประเทศก็ดี ประชาชนก็ดี อาหารก็ดี แต่รัฐบาลคือบูด ..” เธอฝ่ากระแสโกอินเตอร์ไปบอกต่อโลก

ความโด่งดังของ “มิลลิ” ยากที่ รบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมองข้ามได้ ที่สุดก็ต้องโหนกระแสเคลมว่า มิลลิไปตามนโยบายส่งเสริม soft power ของตน (พูดผิดเป็น soft ware 2 ครั้ง จนนักข่าวต้องท้วง soft power ค่ะ) คงลืมไปว่า ปีที่แล้วนี่เองที่ใช้ นายอภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความส่วนตัวไปฟ้อง มิลลิ ในคดีหมิ่นประมาทเพราะวิจารณ์รัฐบาล จนถูกปรับ 2 พันบาทเพื่อจบคดี

แม้ นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิป รบ. จะออกมาแก้เกี้ยวว่า นายกฯ งานเยอะ ขอโทษที่ผิดพลาดไปฟ้องมิลลิ ต่อไปจะทบทวนตัวเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่านายนิโรธพูดเองเออเองเปล่า แต่นั่นไม่สำคัญ

ที่สำคัญคือ “มิลลิ” โชคดี ที่ยังไปทำตามฝันจนสำเร็จ แม้จะถูกหาว่าเป็นเด็ก “ชังชาติ พวกสามกีบ” เพราะยังมีพวก “ชังชาติ” อีกหลายร้อยคนที่ยังถูกคุกคาม คุมขัง ดำเนินคดี จากข้อหามากมาย บางคนเรียนเกี่ยวกับอวกาศ บางคนเก่งสุด ๆ ประวัติศาสตร์ บางคนได้รางวัลกวางจู บางคนเป็นตัวแทนไปพูดที่นาซา…ฯลฯ พวกเค้าแค่มีความคิดที่ต่างออกไป ไม่ได้อยู่ใน “กรอบคิดแบบจารีต” ของผู้มีอำนาจ พวกเค้าต้องการให้บ้านเมืองเปลี่ยน แปลงเพื่ออนาคตและชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบัน

เราไม่ได้ขี่ช้าง วรรคทองของ “มิลลิ” อาจไม่ได้หมายถึงคนต่างชาติที่คิดว่าคนไทยอยู่หลังเขายังขี่ข้างไปไหนมาไหนหรอก แต่คือ คนมีอำนาจในบ้านเมืองนี้ ที่คิดว่า คนไทยยังขี่ช้างอยู่ต่างหาก.

——————-
ดาวประกายพรึก