“ดูหนังกับหมี” ยังคงเกาะติด “ซีรีส์” จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทางช่อง Netflix อย่างต่อเนื่อง หลังจากกระแสความนิยมหนังซีรีส์แรงแบบไม่มีแผ่ว ล่าสุดการกลับมาติดชาร์ท Top 5 และ Top 10 ของ “Tomorrow : พรุ่งนี้” ฝีมือผู้กำกับชื่อดัง คิมแทยุน (ผลงานกำกับภาพยนตร์ Mr.Zoo : The Missing VIP) และ ซองชีอุค (ผลงานกำกับซีรีส์ Kairos,Mouse) เขียนบทโดย คิมยูจิน, พัครัน, และ พัคจาคยอง ซึ่งจู่ ๆ ก็ได้รับคะแนนความนิยมของไทยชนิด พุ่งทะยานแซงเรื่องอื่นมาหลายอันดับ คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจาก การนำเอาตอนใหม่ ๆ มาค่อย ๆ ทยอยฉายสัปดาห์ละ 2 ตอนนั่นเอง ซึ่งแต่ละตอนล้วนไม่ธรรมดาเพราะมีรายละเอียดลึกซึ้ง ซ่อนปมปริศนาและปรัชญาไว้มากมาย แถมยังมีความยาวกว่า 1-2 ชั่วโมงอีกด้วย
เรื่องย่อ “Tomorrow : พรุ่งนี้”
เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนของเกาหลี บอกเล่าเรื่องราวของ “ชเวจุนอุง” หนุ่มวัย 27 ปี (รับบทโดย โรอุน) ที่พยายามหางานแต่ก็สอบสัมภาษณ์ไม่ผ่าน ชีวิตตกงานไปหลายรอบ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ วันหนึ่งเขาไปเจอกับชายสูงวัยที่กำลังพยายามกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย และเมื่อเข้าไปช่วยกลับผิดพลาดตกลงไปในแม่น้ำฮันด้วยกัน แม้ “ชเวจุนอุง” อาการโคม่า กลายเป็นเจ้าชายนิทรานอนป่วยติดเตียง แต่ด้วยความดีที่พยายามช่วยเหลือคนฆ่าตัวตาย ทำให้เขาได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับ บริษัท “จูมาดึง” หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัท “ยมทูต” นำตัววิญญาณไปยังปรโลก และ นรก นั่นเอง ซึ่งก็แน่นอนว่า “ชเวจุนอุง” ตอบตกลงด้วยเงื่อนไขแลกเปลี่ยนที่จะทำให้เขาฟื้นจากนิทรา (ย่นระยะเวลานอนติดเตียงเป็นผัก 3 ปี เหลือ 6 เดือน)
สำหรับตัวละครสำคัญในบริษัท “จูมาดึง” มีประธานใหญ่คือ “อ๊กฮวาง” (รับบทโดย คิมแฮซุก), หัวหน้ายมทูตผู้เยือกเย็นเด็ดขาด “พัคจุงกิล” (รับบทโดย อีซูฮยอก), นางเอกสาวใหญ่หัวใจแกร่ง หัวหน้าทีมยมทูต ทีมจัดการภาวะวิกฤติของโลกหลังความตาย “คูรยอน” (รับบทโดย คิมฮีซอน) เธอมีอายุถึง 420 ปี บุคคลิกเยือกเย็นสุขุม แฝงไปด้วยความลับมากมาย, “อิมรยุงกู” (รับบทโดย ยุนจีอน) ยมทูตผู้ช่วยของหัวหน้า ผู้มีความสามารถหลากหลาย และสุดท้าย “ชเวจุนอุง” หนุ่มอาสาหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าทีม รับหน้าที่รักษาชีวิตมนุษย์ตามเป้าหมาย โดยไม่ให้ใครฆ่าตัวตาย หรือ กลับไปฆ่าตัวตายอีก
จุดแข็งของ “Tomorrow : พรุ่งนี้”
เฉพาะงานโปรดักชั่น เสื้อผ้าหน้าผม ตอนเปิดเรื่องมาก็กินขาด เหนือกว่าหนังซีรีส์แนวดราม่าหลาย ๆ เรื่องแล้ว ตัวหนังยังใช้เทคนิคการถ่ายทำให้ดูแฟนตาซีเข้าไปอีก เนื่องจากมีการดัดแปลงมาจากเว็บตูน จึงพยายามทำเนื้อหาให้ใกล้เคียงที่สุด แต่ก็ยังใส่ฉากเสริมเข้าไปอีกหลายฉากทำให้เกิดความหลายหลาก ขณะที่บทภาพยนตร์ก็มีความละเอียด พยายามอธิบายและปูเนื้อหาให้ผู้ชมเข้าใจในแต่ละตอน ก่อนจะขยี้ปมปัญหาให้เกิดความทุกข์ทรมานหนักกว่าเก่าหลายเท่า ส่งผลให้ผู้ชมอินไปกับบทบาทและสงสารตัวละครจับใจ
จุดอ่อนของ “Tomorrow : พรุ่งนี้”
พล็อตเรื่องแนวดราม่าชีวิตโดยใส่ความเป็นแฟนตาซีลงไป ดูจะเป็นเรื่องแปลกโอเวอร์จากความจริงไปมาก ผู้ชมบางคนอาจรู้สึกไม่อินกับบทหนัง โดยเฉพาะพลังของเหล่ายมทูตที่จะโกงเกินเหตุ อีกทั้งยังมีปมประเด็นการตั้งกฎเกณฑ์แปลก ๆ ของบริษัทยมทูต เช่น ห้ามไม่ให้ไปช่วยเหลือมนุษย์ ทำได้แต่เฝ้าดูเท่านั้น แต่กลับปรากฏว่าหลายซีน ยังมีการช่วยเหลือมนุษย์อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล แม้จะเข้าใจได้ว่า น่าจะเป็นการอะลุ้มอล่วยให้ทำได้บ้างก็ตาม
4/5 สำหรับหนังดราม่าชีวิตที่ให้แง่คิดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ยิ่งคนที่เครียดหาทางออกไม่ได้ ควรที่จะดูเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง
————————————————————————–
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Netflix
