ที่ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันอังคารที่ 17 พ.ค. คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่-รองเลขาธิการพรรคฯ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคฯ เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ โดยคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจะแถลงข่าวในลักษณะนี้ทุกวันอังคาร เวลา 10.00 น.

นายพิชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกขยายตัวได้เพียง 2.2% เท่านั้นซึ่งต่ำมาก ขนาดการส่งออกในไตรมาสแรกขยายตัวได้สูงถึง 14.9% จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และค่าเงินบาททึ่อ่อนค่า แต่เศรษฐกิจไทยกลับไม่สามารถขยายตัวได้มาก จึงห่วงว่าหากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะผันผวนสูงจาก เงินเฟ้อที่พุ่งสูง อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งผลกระทบต่อเนื่องจากสงครามรัสเซียยูเครน และปัญหา Supply chain ของโลก น่าเป็นห่วงว่าจะฉุดกระชากเศรษฐกิจโลกให้เศรษฐกิจโลกกลับมาตกต่ำได้ โดยมีสัญญาณและปัจจัยหลายด้าน เช่น การที่สหรัฐต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งเพื่อสะกัดเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มสูงถึง 8.3% ในเดือนเม.ย. อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาถดถอยได้ โดยเริ่มมีสัญญาณที่น่ากังวลคือ Inverted Yield Curve ที่ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาว โดยสัญญาณเกิดขึ้นเมื่อไหร่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งต้องคอยจับตาดู อีกทั้งตลาดหุ้นและราคาเงินสกุลคลิปโตได้ตกลงมาอย่างมากอีกด้วย

นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวต่ำและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นกันจากการล็อกดาวน์กรุงปักกิ่ง และล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ก่อนหน้านี้ จากนโยบายซีโร่โควิดของจีน และเศรษฐกิจของยุโรปที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องพลังงาน หากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ย่ำแย่ลง เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่ไปด้วย และเศรษฐกิจไทยจะยิ่งทรุดหนักเพราะขนาดเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวไทยรัฐยังฟื้นได้ต่ำมากจากที่ตกลงมา

ดังนั้นประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจของโลก ที่เศรษฐกิจของโลกอาจจะเข้าสู่สภาวะถดถอยได้ และต้องเตรียมรับกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่จะสูงขึ้นอีกมาก ซึ่งได้เตือนหลายหนแล้ว นอกจากนี้ยังต้องจัดการเรื่องราคาพลังงานให้เหมาะสม เช่น ราคาน้ำมัน ต้องรีบลดภาษีสรรพสามิต 5 บาท หรือมากกว่านั้น ยกเลิกการผสมไบโอดีเซล และลดราคาหน้าโรงกลั่นให้เท่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ อีกทั้งจัดการราคาค่าไฟฟ้าให้ลดลง โดยลดค่าความพร้อมของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิตไฟฟ้า และลดกำไรของค่าไฟฟ้าลงเพื่อช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งลดราคาก๊าซหุงต้มที่ใช้สำหรับครัวเรือนให้มีราคาลดลง ซึ่งทำได้เพราะประเทศไทยสามารถขุดได้ในอ่าวไทย และจากการกลั่นน้ำมัน เป็นต้น

การที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย เดินสายพบสถานทูตต่างๆเพราะทราบดีว่าเศรษฐกิจไทยไม่สามารถฟื้นตัวเองได้ถ้าไม่ได้รับความเขื่อถือและความมั่นใจจากประชาคมโลก ซึ่งจะเห็นได้จาก 8 ปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจไทยทรุดต่ำมาตลอด เพราะการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศได้หายไปมาก เศรษฐกิจไทยไม่สามารถจะพึ่งเฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศได้ มิเช่นนั้นจะเหมือนกับศรีลังกาที่เศรษฐกิจพังทลายอยู่ในปัจจุบัน โดยคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้มีแผนงานในการพัฒนาการค้าและการลงทุนกับประเทศต่างๆไว้แล้ว

ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่นี้ รัฐบาลต้องตั้งหลักคิดให้ดี ต้องมีทิศทางการฟื้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน และต้องเร่งช่วยเหลือให้ประชาชนรอดก่อน อย่าไปคิดถึงแต่เฉพาะความอยู่รอดของรัฐบาล โดยไม่สนใจปัญหาของประชาชนที่เดือดร้อนกันอย่างหนัก เพราะสุดท้ายถ้าประชาชนทนไม่ไหว รัฐบาลเองก็จะอยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน

ทางด้าน นายจักรพล กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในประเทศไทยเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวจะเป็นการช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด จะเป็นกระจายรายได้อย่างมีประสิทธิภาพเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง ทำให้ประชาชนมีรายได้และเพิ่มการจ้างงานที่เป็นปัญหาอย่างมากอยู่

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์สับสนในการดำเนินนโยบายท่องเที่ยว หากจำกันได้ รัฐบาลมีแนวคิดจะแจกเงินให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยในต้นปี 63 ในโครงการ “ชิมช้อปใช้ อินเตอร์” ขณะนั้นการท่องเที่ยวของไทยยังไม่แย่นัก แต่ถูกตำหนิเลยต้องเลิกไป ในขณะที่ตอนนี้การท่องเที่ยวไทยยังไม่ฟื้นแต่กลับจะเก็บเงินค่าเหยียบแผ่นดินกับนักท่องเที่ยวคนละ 300 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งมาก อยากให้ยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินนี้โดยด่วน และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่โครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ดำเนินการ มิเช่นนั้นน่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาไทยได้เหมือนที่ลาวได้นักท่องเที่ยวจากจีนผ่านรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์-คุนหมิง ในตอนนี้

นอกจากนี้ การทำการตลาดเชิงรุกในการท่องเที่ยวเป็นเรื่องจำเป็นและต้องรีบทำ รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญกับวิกฤติไวรัสโควิดมากว่า 2 ปี จะต้องได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ไม่ทำหรือทำไม่เป็น พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างแน่นอน

ขณะที่ นายกกฤษฎา กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดี แต่จากการรับฟังความเห็นของผู้ประกอบการ พบว่ายังไม่ปัญหาอย่างมากกับกฎระเบียบในภาครัฐที่เป็นอุปสรรคในการส่งออก รวมถึงปัญหา Supply chain และปัญหาค่าขนส่ง ค่าระวางเรือที่พุ่งสูงมาก ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เร่งแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค

ขณะเดียวกันการส่งออกของไทยอาจจะไม่สามารถขยายตัวต่อได้มากนัก เนื่องมาจากการลงทุนของไทยที่หดหายมาตลอด 8 ปี โดยจากการเข้าพบสถานทูตต่างๆ พบว่าการลงทุนของประเทศหลักทางเศรษฐกิจลงทุนในไทยเป็นอันดับท้ายๆ ของอาเซียนเลย ซึ่งน่าตกใจมาก ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว หากทำไม่ได้พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างแน่นอน โดยอยากให้เห็น Supply chain เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด โดยมุ่งเน้นเรื่อง ไมโครชิพ และ แบตเตอรี่ ที่กำลังขาดแคลนในโลก ขนาดประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซียยังขอพบกับอีลอน มัสก์ เพื่อเจรจาการผลิตแบตเตอรี่นี้ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยนั่งกดมือถือในขณะที่เขาชนแก้วกัน ตามภาพที่ปรากฏในสื่อ

ทั้งนี้ ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมากที่โครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยยังไม่ได้ไปถึงไหนมีแค่ 3.5 กม. เท่านั้น เพราะปัจจุบันประเทศลาวได้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงอย่างมาก ทั้งการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เร่งการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจากหนองคายเชื่อมต่อไปเวียงจันทน์ เพื่อต่อไปถึงจีนโดยด่วน เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสไปมากกว่านี้