องค์การนาซาของสหรัฐ เผยแพร่ภาพจากยานสำรวจ Preseverance ในบริเวณที่เรียกว่า ‘Jezero Crater’ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหลุมขนาดใหญ่เนื่องจากโดนอุกกาบาตตกใส่ มีความกว้างราว 750 ไมล์ (1,207 กม.) หลายภาพบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่มีอยู่ภาพหนึ่งซึ่งดึงดูดความสนใจของชาวโซเชียลได้อย่างมาก

หลังจากที่ นาซา ตั้งคำถามเรื่องเศษฉนวนหุ้มยานสำรวจซึ่งกลายสภาพเป็น ‘ขยะ’ ที่ไปตกอยู่ห่างไกลพื้นที่ลงจอดของยานเกือบ 2 กม. ว่าเกิดจากแรงลมพัดพาไปจริงหรือไม่เพียง 1 วัน ภาพชุดที่ 2 ที่สร้างความฮือฮาให้ชาวโซเชียลก็ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 16 มิ.ย. 2565 โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ภาพก้อนหินทรงกลมคล้ายลูกบอล ตั้งอยู่บนแท่นหินสูงอย่างหมิ่นเหม่

นาซา ระบุว่า ก้อนหินประหลาดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่ตั้งชื่อว่า ‘ที่ราบ Hogwallow’ เชื่อว่า ก้อนหินในบริเวณนี้มีอายุประมาณ 3,600 ล้านปี และยังมีอีกหลายส่วนที่น่าศึกษา

แม้ นาซา จะไม่ได้เอ่ยถึงก้อนหินทรงกลมอย่างเฉพาะเจาะจง แต่ชาวเน็ตก็พุ่งเป้าที่หินก้อนนั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตั้งข้อสงสัยมากมาย โพสต์ภาพหินก้อนนี้ในเฟซบุ๊กของ นาซา มีผู้มากดอีโมจิแสดงความรู้สึกมากกว่า 14,000 ครั้ง และแสดงความเห็นเกือบ 300 ข้อความ บ้างก็ว่าเป็นก้อนหินที่ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เหมือนมีคนนำลูกหินกลมนั้นไปวางไว้บนแท่น บ้างก็ตั้งคำถามว่าหินดังกล่าวตั้งอยู่บนแท่นหินสูงนั้นได้อย่างไร โดยที่ไม่ได้ร่วงหล่นลงมา และมีคนตั้งชื่อก้อนหินนั้นว่า ‘ลูกบาสของชาวอังคาร’

มีผู้แสดงความคิดเห็นบางคนชี้ว่า ก้อนหินทรงกลมดังกล่าวน่าจะเชื่อมติดอยู่กับแท่นหินที่รองรับอยู่ แต่การโดนกัดเซาะโดยสภาพภูมิอากาศมานานหลายร้อยปี จึงทำให้มีรูปทรงดังที่เห็น

ผู้เชี่ยวชาญจาก นาซา และเว็บไซต์ด้านอวกาศและดาราศาสตร์ ‘Universe Today’ ก็มีความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยอธิบายว่าเป็นเพราะแรงลมและสภาพอากาศที่กัดกร่อนแท่งหินเป็นเวลานานหลายร้อย หรือหลายพันปีจนมีลักษณะดังกล่าว

ก้อนหินในบริเวณใกล้เคียง ‘ลูกบาสของชาวอังคาร’ ก็มีลักษณะประหลาดและน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมีรูขนาดใหญ่บนพื้นผิวหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีก้อนหินที่ดูเหมือนหัวงูกำลังชะโงกออกมาจากกำแพงหินอีกด้วย

แหล่งข่าว : miamiherald.com

เครดิตภาพ : Facebook/NASAPersevere