นายธนกร  เพ็งนาเรนทร์ ชาว อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เจ้าของกิจการ  ฟาร์มอวตาร ที่ตัดสินใจยืมทองคำของภรรยา ที่ได้เก็บหอมรอบริบไว้ช่วงแต่งงาน ประมาณ 60 บาท ทยอยนำไปขายได้เป็นเงินมาประมาณ 1,600,000 บาท หาซื้อหน่อพันธุ์กล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโดมาทดลองปลูก บนที่ดินประมาณ 200 ตารางวา ซึ่งที่ผ่านมากล้วยด่างแดงอินโด ถือเป็นไม้ด่างที่มีกระแสนิยมแรงมาก มีผู้นิยมเล่นหากันหากต้นสวย ฟอร์มดี จะมีราคาสูง ถึงต้นละหลักล้านบาท ทำให้หลายคนอยากหามาปลูกขยายพันธุ์ขายเพื่อหวังกำไร

“ราคาที่ผันผวนมาก เกิดจากปัจจัยหลายด้าน อาทิไม้มีจำนวนมากขึ้น ผู้เลี้ยงเยอะขึ้น ลวดลายเป็นแบบเดิม แต่ก็ยังมีคนหาซื้อมาเลี้ยงอยู่ในราคาหลักพัน รวมไปถึงสถานการณ์โควิด-19  ส่วนตัวมองว่าราคาไม่ได้ตกเฉพาะกล้วยด่างแดงดินโด แต่รวมไปถึงไม้ด่างต่างๆ ราคาก็ลงทุกตัว อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้มีการพัฒนาลวดลายของไม้ด่าง นวมทั้งกล้วยด่างอินโดออกมาหลายลวดลาย ทำให้กลุ่มนี้ราคายังสูงอยู่ ”

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เล่นกล้วยด่างแดงอินโด มีการรวมกลุ่มกันอย่างแน่นหนา มีการจัดประกวดกล้วยด่างกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีการรวมกลุ่มของผู้นิยมเลี้ยงกล้วยด่าง ในการช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ และที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้เลี้ยงกล้วยด่าง ได้มีการนำลวดลายกล้วยด่างไปทำงานควบคู่กับศิลปะ เช่น ร่วมกับทาง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จึงมองว่าการเลี้ยงกล้วยด่าง เป็นมากกว่าการเป็นพืชเศรษฐกิจ หรือ พืชกระแส ที่ราคามีความผันผวนตลอด จะมีวงรอบของมันอยู่ กระแสกล้วยด่างขายได้ แต่ราคาอาจไม่สูงมาก ลวดลายที่มีการพัฒนาขึ้น ก็ยังขายได้ในราคาหลักหมื่น หลักแสน

อยากฝากผู้ที่เริ่มเลี้ยงกล้วยด่าง ควรศึกษาถึงวงจรให้ดี ตนมองว่าความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้กลุ่มผู้นิยมเลี้ยงกล้วยด่าง ยังพยายามหาช่องทางต่างๆในการเผยแพร่กล้วยด่างออกสู่ตลาดโลก มีการจัดกิจกรรมคืนสู่สังคม รายได้ส่วนหนึ่งมีการนำมาช่วยเหลือสังคม เช่น ผู้พิการ หรือตาม รพ.ต่างๆ ตนจึงมองว่า สังคมคนนิยมกล้วย มีมากกว่าแค่การซื้อมาขายไปของกล้วยด่าง