เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่รัฐสภา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีการกำหนดให้มีสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ว่าได้หารือกับ กมธ.ว่า ควรมี ส.ข. ตามที่สภา กทม.เสนอ เพื่อให้ช่วยทำงานในพื้นที่ให้มากขึ้น เพราะ ส.ก.เขตละ 1 คน ไม่เพียงพอต่อการรับฟังและแก้ปัญหา

นายชัชชาติ กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันมีการกำหนดให้มีตั้งประชาคมเขตขึ้นมาทำหน้าที่คล้าย ส.ข. แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่ใช่ตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง บางครั้งแต่งตั้งมาโดยผู้อำนวยการเขตทำให้ไม่มีการกระจายอำนาจ ปัจจุบันประชาชนอยากเลือกส.ข. เพื่อมาเป็นตัวแทนในพื้นที่ แต่ กทม.เป็นเพียงฝ่ายบริหารที่มีหน้าที่หลักในการสื่อสารความคิดเห็นของสภา กทม.ให้กับ กมธ.รับทราบ

“ยอมรับว่า กทม.ไม่สามารถออกประกาศเพื่อให้มีการเลือก ส.ข.เองได้ จึงต้องมีการเสนอให้มีการแก้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบันที่กำหนดให้มี ส.ก.เขตละ 1 คน โดยยกเลิกการเลือกตั้ง ส.ข. ซึ่ง กมธ. จะทำหน้าที่สื่อสารไปยังสภาผู้แทนราษฎร” 

นายชัชชาติยังกล่าวถึงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ว่า ยืนยันว่าใน กทม.ยังไม่พบผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงตามกระแสข่าวลือที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องเฝ้าระวัง ประมาทไม่ได้ เพราะในประเทศอิสราเอลพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงแล้วหลายราย ทั้งนี้จะมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในชุมชนพื้นที่เสี่ยงมากขึ้น

ส่วนการรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงปลายเดือน ก.ค. ไปจนถึงต้นเดือน ส.ค. ว่าจะมีการสร้างเขื่อนริมน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 88 กม. แต่มีจุดที่เป็นฟันหลอประมาณกว่า 20 จุด ซึ่งปีนี้ได้งบประมาณดำเนินการ 13 จุด อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้เตรียมกระสอบทรายไว้อุดจุดที่ฟันหลอแล้ว ทั้งนี้ยอมรับว่ามีบางจุดที่ยังมีปัญหา เช่น จุดทรงวาด ตลาดน้อย ที่เอกชนยังไม่เข้าไปดำเนินการ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อม และได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดฟันหลอแล้ว เพราะจุดดังกล่าวถึงแม้สถานการณ์น้ำน้อยก็สามารถเอ่อท่วมได้

“สถานการณ์น้ำหนุนขณะนี้ยังไม่น่าเป็นเป็นห่วง เพราะมีการเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ในจุดที่เป็นของเอกชน ซึ่งยังเข้าดำเนินการไม่ได้ จะต้องไปดูว่าสามารถตีเขื่อนล้อมได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้น้ำเอ่อท่วมบ้านของประชาชน พร้อมยอมรับว่า 13 จุดฟันหลอไม่สามารถดำเนินการทำแนวกั้นได้เสร็จทันในฤดูฝนนี้ แต่ในสัญญาของผู้รับเหมาได้ระบุให้เตรียมการรับมือไว้ด้วย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่เป็นเรื่องเวลาที่มีจำกัด โดยเฉพาะระเบียบขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง ขอประชาชนไม่ต้องกังวลใจในช่วงวันหยุดยาว ให้หยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะกทม.จะดูแลบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำฝนอย่างเต็มที่เช่นกัน ซึ่งตอนนี้ได้กองทัพเข้ามาช่วยขุดลอกท่อแล้ว ตั้งแต่พื้นที่คลองลาดพร้าว ไปจนถึงคลองบางบัว โดยจะพร่องน้ำช่วงกลางคืน แต่ตอนเช้าก็ปล่อยให้เดินเรือตามปกติ หากฝนตกหนักไม่มากก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว