สร้างความงุนงนและสงสัยอย่างมาก เมื่อคนร้ายกล้าเข้ามาในเขตพื้นที่ของทหาร “ล้วงคองูเห่า” ย่องขโมย “พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์” เนื้อโลหะสีดำ ความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว ประดับอยู่ในซุ้มด้านหน้าฝั่งซ้ายบริเวณทางเข้าอาคารสำนักงานสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม ภายในเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ “พญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์” ประดับอยู่ฝั่งขวาคู่กัน กลับไม่ถูกขโมยไป

ด่วน!จับได้แล้วโจรลูบคมขโมย ‘พญาคชสีห์’ อ้างนำไปช่วยบ้านเมือง

คนร้ายมาขโมยเช่นนี้ มีเรื่องความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือจะมีใบสั่งจากใครให้มาขโมย รวมไปถึงนักสะสมต้องการครอบครองหรือไม่

ผ่านไปชั่วข้ามคืน ตำรวจระดมกำลัง โชว์ฝีมือแกะรอยตะครุบ หนุ่มแสบวัย 38 ปี ชาวกรุงเทพฯ จอมโจรขโมย “พญาคชสีห์” โดยนำของกลางทิ้งย่านลาดพร้าว เมื่อเค้นสอบอ้าง หวังเอาไปช่วยบ้านเมือง เหตุบ้านเมืองกำลังแย่

ด่วน!จับได้แล้วโจรลูบคมขโมย ‘พญาคชสีห์’ อ้างนำไปช่วยบ้านเมือง

สำหรับ “พญาคชสีห์” สัญลักษณ์กระทรวงกลาโหม และสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์การทหารไทย แสดงออกถึงความจงรักภักดี ในการถวายปกป้องพระราชวงศ์จักรี และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหารหาญ เนื่องจาก “พญาคชสีห์” เป็นสัตว์ในเทพนิยาย ผสมระหว่างราชสีห์กับช้าง หรือ (คช) และสมัยโบราณถือว่าคชสีห์ เป็นเครื่องหมายแทนทหาร รวมทั้งตราประจำตำแหน่งของสมุหกลาโหม และคติไทยถือว่าช้างเป็นสัตว์ประจำชาติ ใช้ในราชการสงคราม ดังนั้นคชสีห์ จึงหมายถึงทหารออกศึกสงคราม ซึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทั้งพลเรือนและทหาร ต้องถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม

พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ ของ สทป. เป็นการหล่อองค์จำลอง เพื่อแจกจ่ายให้กับหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ ทูตต่างประเทศ ในโอกาสปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 2549 และในโอกาสที่กระทรวงกลาโหมครบ 120 ปี

ส่วนพญาคชสีห์ องค์จริงที่ตั้งอยู่หน้ากระทรวงกลาโหมนั้น จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์สำคัญ และตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม เนื่องจากองค์พญาคชสีห์ เป็นสัตว์ในเทพนิยาย เป็นส่วนผสมระหว่างราชสีห์กับช้าง (คช) ซึ่งในสมัยโบราณถือว่าคชสีห์ เป็นเครื่องหมายแทนทหาร รวมทั้งตราประจำตำแหน่งของสมุหกลาโหมก็ใช้ตราคชสีห์เป็นสัญลักษณ์

จากแนวคิดของ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น นำมาประดับบริเวณทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ซึ่งดูแลในเรื่องพิธีกรรมทางศาสนา เป็นผู้ตั้งชื่อพญาคชสีห์ ทั้งสององค์

องค์ที่ตั้งทางประตูด้านทิศเหนือ ชื่อ พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ หมายความว่าเป็นทหารพิทักษ์พระราชา ซึ่งความหมายรวมคือเราจะพิทักษ์ประเทศชาติและราชบัลลังก์ และองค์ที่ตั้งทางประตูด้านทิศใต้ ชื่อพญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์ หมายความว่าพิทักษ์แผ่นดินไทย ทั้ง 2 องค์ทำด้วย เนื้อโลหะบรอนซ์ (สัมฤทธิ์) สูง 120 เซนติเมตร ลักษณะยืน 4 เท้ามั่นคง และเท้าหลังย่างไปข้างหน้า เปรียบเสมือนการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งมีพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2549 และวันที่ 4 มิ.ย. 2549 เวลา 10.30 น. มีพิธีเปิดแพรคลุมป้ายอย่างเป็นทางการ

ตามตำรากล่าวว่า คชสีห์ เป็นหนึ่งในสัตว์มหัศจรรย์ของป่าหิมพานต์ มีกายเป็นสิงห์ มีหัวเป็นช้าง มีพลังเทียบเท่าช้างและสิงห์รวมกัน จึงเป็นสัตว์ที่น่าเกรงขาม และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ตบะ และเดชะ เป็นที่น่าเกรงขาม มีการใช้รูปของคชสีห์และราชสีห์ เป็นพระราชลัญจกรของพระมหากษัตริย์ในอดีตของไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากนั้นในกองทัพไทยตั้งแต่โบราณ มีการใช้ตราคชสีห์และราชสีห์ เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความมีอำนาจ และน่าเกรงขาม จนถึงปัจจุบัน.