สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่  6 ส.ค.ว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ ว่าระบบไอเอิร์น โดม สามารถสกัดจรวด 10 ลูกซึ่งถูกยิงออกมาจากทางทิศเหนือ คือเลบานอน อย่างไรก็ตาม จรวด 6 ลูกตกลงบริเวณภูเขาโดฟ ในเขตที่ราบสูงโกลัน และอีก 3 ลูกตกในเขตแดนของเลบานอน
ขณะที่ไอดีเอฟยืงปืนใหญ่ตอบโต้ในจำนวนที่เท่าเทียมกัน ด้านนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ เรียกประชุมฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ทั้งนี้ อิสราเอลยืนยัน "ไม่ประสงค์ให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบ" อย่างไรก็ตาม อิสราเอล "มีความพร้อมเสมอหากสถานการณ์บานปลายถึงจุดนั้น" 

ด้านพล.ท.เบนนี กันต์ซ รมว.กระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวเตือนไปถึงอิหร่านด้วย สืบเนื่องจากเหตุเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของอิสราเอลถูกโจมตีในเขตนอกชายฝั่งโอมาน เมื่อปลายเดือนที่แล้ว คร่าชีวิตลูกเรือชาวสหราชอาณาจักรและชาวโรมาเนีย
ต่อมากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกแถลงการณ์ ยืนยันเป็นผู้ยิงจรวดทั้งหมดเอง เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของไอดีเอฟบริเวณชายแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธ ว่าเป็นผู้ยิงจรวด 3 ลูกตกใส่เชิงเขาทางเหนือของอิสราเอล ส่งผลให้เกิดไฟป่าในแถบนั้นก่อนหรือไม่
ในทางทฤษฎีถือว่าอิสราเอลและเลบานอนยังมีสถานะเป็นประเทศคู่สงครามต่อกัน เนื่องจากการสู้รบครั้งใหญ่ ที่ยาวนานประมาณ 1 เดือน เมื่อปี 2549 ไม่ได้ยุติด้วยข้อตกลงสันติภาพ 

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าในความเป็นจริง การสู้รบครั้งนั้น คือสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า และทั้งสองฝ่าย "สงบศึก" ตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) และต่อมาทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตามแนว "เส้นสีน้ำเงิน" ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน.

เครดิตภาพ : AP