เมื่อวันที่ 9 ส.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุถึงการพล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้องเข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศ ทำให้ประชาชนยากจนลง รวยเฉพาะกลุ่มเจ้าสัวและกลุ่มที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ ว่า เป็นการกล่าวหาแบบไร้หลักคิดที่น่าเชื่อถือ เพราะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งในภาวะวิกฤติโควิดและสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการลงทุน อัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเราชนะ คนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกันที่ครองใจประชาชน ที่สำคัญ ยังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาคามยากจนแบบสั่งตัด เพื่อความยั่งยืน และไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนไปแล้วมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ปัญหาพัฒนาทุกมิติ

ส่วนที่มีการหยิบยกประเด็นการลงพื้นที่ทำกิจกรรมของพรรคพลังประชารัฐ จ.หนองคาย ที่ระบุถึงการปราศรัยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นการพูดที่ขัดกับความเป็นจริงนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลโดย พล.อ.ประวิตร ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำในเชิงป้องกันล่วงหน้า มีการกำหนดมาตรการรับรองสถานการณ์ขาดแคลนน้ำและวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงก่อนเข้าสู่ฤดูแล้ง เพื่อแจ้งเตือนทำความเข้าใจกับประชาชน ในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน โดยจัดลำดับความสำคัญที่ประชาชนต้องไม่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคก่อน

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังนำข้อมูลมาประเมินความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในกิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะภาคการเกษตร เพื่อออกมาตรการให้ความช่วยเหลือรายพื้นที่หรือบรรเทาผลกระทบให้เกิดน้อยที่สุด ทำให้ปี 64/65 ไม่มีการประกาศให้เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ตามประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จนทำให้ปี 64/65 ไม่มีการประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการวางแผนการจัดการน้ำ ซึ่งตรงนี้ได้ถอดบทเรียนขยายผลและนำไปใช้ในปีงบประมาณ 256 แล้วด้วย การให้ข้อมูลของพรรคเพื่อไทยจึงเป็นการมุ่งหวังโจมตีทางการเมือง มุ่งบิดเบือนความตั้งใจและความสำเร็จของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเกินไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าได้รับการตอบรับจากพี่น้องชาวหนองคายอย่างเนืองแน่น เพราะประชาชนได้รับรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐ มีความมุ่งมั่น และจริงใจในการเข้าไปดูแล และพัฒนาพื้นที่ ให้มีความเจริญ ไม่ทอดทิ้งใคร โดยการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ขอให้ขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนที่จะตัดสินใจในการทำงานของทุกพรรค” น.ส.ทิพานัน กล่าว