เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่โรงแรมอนันตรา สยาม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ และดาโตะ ซรี ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ รมว.การต่างประเทศมาเลเซีย ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) ครั้งที่ 14 และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (เจดีเอส) ระดับรัฐมนตรี ระหว่างไทยและมาเลเซีย ครั้งที่ 5 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยนายดอน กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยและมาเลเซียได้กลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งหลังจากว่างเว้นมานาน 7 ปี ซึ่งตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา มีหลายเรื่องที่เป็นความท้าทายใหม่ๆเกิดขึ้น อาทิ ด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านสาธารณสุข สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ทั้ง 2 ประเทศได้หารือถึงประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญ ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านต่างๆ ตามแนวชายแดน อาทิ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ด้านสังคมและวัฒนธรรม อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์คณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2565-2569
นายดอน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือถึงเรื่องความมั่นคงที่มีหลายมิติ อาทิ มิติด้านสาธารณสุข มิติด้านอาหารที่มีความสำคัญกับประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย รวมถึงพูดคุยถึงการเสริมสร้างความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เน้นประโยชน์ในการส่งเสริมความกินดีอยู่ดีของประชาชนของ 2 ฝ่าย ทั้งนี้ไทยและมาเลเซียยังเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานทำหน้าที่ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกัน
ด้าน รมว.การต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ไทยและมาเลเซียเห็นพ้องกันในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้าระหว่างกันที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 รวมถึงร่วมกันเดินหน้าการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานที่ไร้รอยต่อตามพื้นที่ชายแดน อาทิ การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 ที่ อ.ตากใบ-เปิงกาลันกุโบร์ และสะพานมิตรภาพสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง แห่งที่ 2 อีกทั้งได้หารือถึงการเชื่อมโยงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยางพาราใน จ.สงขลา กับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยางพาราเมืองเคดาห์ของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมด้านการตลาดและประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมยางพารา ทั้งนี้ มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจซี ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 15 และการประชุมเจดีเอส ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 6 ในปี 2566 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ อีกทั้งจะกลับมาดำเนินการจัดประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 7 ด้วย
