‘สโตนเฮนจ์’ ของสเปน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า  ‘ดอลเมนแห่งกัวดาลเปรัล’ (Dolmen of Guadalperal) มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่หลายสิบก้อน วางล้อมเป็นวงกลม ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วง 5,000 ปีก่อนคริสตกาล

ปัจจุบัน วงล้อมหินยักษ์แห่งนี้ ปรากฏให้เห็นอย่างเต็มสายตาอีกครั้ง ที่มุมหนึ่งของอ่างเก็บน้ำบัลเดกานาส ในจังหวัดกาเซเรส ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลระบุว่า ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงถึง 28% จากความจุเต็มที่ 

เอนริเก เซดิโย นักโบราณคดีจจากมหาวิทยาลัยกอมปลูเตนเซแห่งมาดริด ถือว่าเป็นโอกาสที่หายาก ที่จะได้เข้าถึงพื้นที่ของวงล้อมหินแห่งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริเวณดังกล่าวจะจมอยู่ใต้น้ำ เซดิโย กำลังใช้โอกาสนี้เร่งรีบศึกษาวงล้อมดอลเมน ก่อนที่มันจะต้องจมน้ำอีกครั้ง เมื่อระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ฮูโก โอเบอร์ไมเยอร์ นักโบราณคดีชาวเยอรมัน เป็นผู้ค้นพบ ดอลเมนแห่งกัวดาลเปรัล เมื่อปี 2469 แต่พื้นที่ดังกล่าวโดนน้ำท่วมในปี 2506 ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการพัฒนาพื้นที่ชนบทของนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก เผด็จการที่ปกครองสเปนในช่วงปี 2479-2518

ดอลเมน หรือศิลาสุสาน มักจะวางเรียงกันเป็นวงกลมเพื่อรองรับก้อนหินขนาดใหญ่ในลักษณะเรียบแบนที่วางอยู่ด้านบน นับเป็นลักษณะการก่อสร้างที่พบกระจัดกระจายในหลายพื้นที่ทั่วยุโรป แต่แทบไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าใครเป็นคนสร้าง และเนื่องจากมีการค้นพบศพที่ฝังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงบ่อยครั้ง จึงทำให้มีการตั้งทฤษฎีว่าวงล้อมหินเหล่านี้คือสุสาน

ด้านสมาคมประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวของสเปน ต่างแสดงความเห็นและแนะนำว่าควรเคลื่อนย้ายวงหินเหล่านี้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ หรือพื้นที่เหนือน้ำที่อื่น

นอกจากนี้ การปรากฏตัวอีกครั้งของดอลเมนแห่งกัวดาลเปรัล กลายเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวสเปน ทำให้เกิดธุรกิจการจัดทัวร์ล่องเรือเพื่อเข้าไปชมสถานที่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด 

เครดิตภาพ : REUTERS