เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ร.ต.อ.รังสรรค์ ลมไธสงค์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกข้าวพลิกคว่ำ บริเวณถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท ฝั่งขาออก ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เกิดไฟลุกท่วม จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้ว ทางหลวงสุพรรณบุรี รถดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี รถดับเพลิง อบต.สนามชัย ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงบรรทุกข้าวทะเบียนพ่วงแม่ 70-1697 พิจิตร ทะเบียนลูกพ่วง 70-1698 พิจิตร สภาพพลิกคว่ำหงายท้องมีไฟลุกท่วม เจ้าหน้าที่จึงรีบระดมฉีดน้ำสกัดจนไฟดับ

จากการสอบสวน นายทินกร จันทร์เข็ม อายุ 49 ปี ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจาก อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร เพื่อจะไปส่งข้าวที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ระหว่างเดินทางได้จอดพักมาตลอดทาง จนออกเดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงล้อรถดังตุ้บ ๆ สองสามครั้ง จากนั้นพวงมาลัยก็เหวี่ยงหมุนเสียหลักไปชนกับแบริเออร์กั้นถนนข้างทาง เกิดประกายไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนตนนั้นติดอยู่ในรถ ระหว่างไฟกำลังลุกไหม้นั้น ปรากฏว่ามีพลเมืองดีขับรถกระบะมาจอดใกล้ ๆ ก่อนรีบวิ่งลงมาช่วยเหลือ ทั้งที่ตอนนั้นไฟกำลังลุกท่วมรถ ตนหนัก 100 กก. คิดว่าไม่รอดแล้ว เชื่อว่าพลเมืองดีคนนั้นต้องโดนไฟลวกบาดเจ็บอย่างแน่นอน หลังจากเจ้าหน้าที่มา ตนก็ไม่เห็นแล้วว่าพลเมืองรายนี้ไปไหน

“…หากเขาได้เห็น ผมขอขอบคุณพลเมืองดีรายนี้ผ่านทางสื่อ ถ้าไม่ได้เขาช่วยผมในเหตุการณ์วันนี้ ผมก็อาจถูกไฟคลอกตายในรถไปแล้ว ขอขอบคุณเขามาก ๆ ที่ช่วยชีวิตผม เขาเป็นพลเมืองดี ที่มีน้ำใจมาก ๆ…” นายทินกร กล่าว

สำหรับเหตุการณ์ในครั้ง เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมาจากยางรถเกิดการระเบิด ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเข้ากับแบริเออร์ริมถนน จนมีประกายไฟลุกไหม้รถบรรทุกพ่วงดังกล่าว อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป.